กังวานเกี่ยวข้อง > ทำไมคนไทยจึงมีนิสัยเบื่อง่าย
 

เหตุใดคนไทยส่วนใหญ่จึงมีนิสัยเบื่อง่าย? ข้อความประโยคนี้เป็นคำปรารภ ซึ่งมักได้ยินเป็นครั้งคราว หากฟังแล้วไม่ปล่อยให้ผ่านพ้นไปเฉยๆ ในเมื่อทุกคน มีโอกาสหยั่งรู้ความจริงในตัวเองว่า เรามีสมอง ซึ่งธรรมชาติได้มอบมาให้ใช้คิด เพื่อค้นหาความจริงจากทุกสิ่งทุกอย่าง

เท่าที่ประสบการณ์ชีวิตได้ผ่านพ้นมาแล้วเป็นเวลานานพอสมควร ทำให้รู้สึกว่า การเปลี่ยนแปลงทางวัตถุมีอิทธิพลทำให้นิสัยคนส่วนใหญ่เปลี่ยนไปด้วย โดยที่เก็บข้อมูลหลายสิ่งหลายอย่างไว้ในใจตัวเอง น่าจะทำให้หวนมองย้อนกลับไปสู่อดีตได้ไกล และช่วยให้หยั่งรู้เหตุผล แม้แต่ในช่วงประวัติศาสตร์เท่าที่สังคมไทยได้ผ่านพ้นมาแล้ว นอกจากนั้นยังสามารถซึมซับเข้าไว้ในใจได้อย่างลึกซึ้ง

คนแต่ก่อนเคยกล่าวไว้ว่า ควรอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ความประโยคนี้สะท้อนให้เห็นความจริงได้ว่า คนยุคก่อนมีจิตวิญญาณรักถิ่นฐานบ้านช่องมากกว่าการใช้ชีวิตเตร็ดเตร่เร่ร่อน และจับจ่ายใช้เงินไปอย่างขาดทิศทางที่ควรจะเป็น

ในปัจจุบันเราจะสังเกตเห็นความจริงได้ว่า คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการอยู่บ้าน แม้คนมีเงินจะสนใจสร้างบ้านราคาแพงๆ อีกทั้งมีเครื่องประดับภายในอันหรูหรา หากใครมองได้ลึกซึ้ง ย่อมรู้ว่าส่วนใหญ่อยากมีบ้านไว้อวดความร่ำรวยแก่คนอื่น แต่ไม่อยากอยู่บ้าน อีกทั้งรักความสบายจากนอกบ้านอย่างขาดสติ มากกว่ามีรากฐานจิตใจที่หยั่งรู้ถึงความสำคัญของบ้านได้อย่างลึกซึ้ง

ปกติหากเป็นคนมีนิสัยให้ความรักถิ่นฐานบ้านเรือนจริง ย่อมใช้ชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย และรู้เท่าทันกับการมีเครื่องจักรกลเอาไว้ใช้ช่วยทำงาน โดยที่รู้ว่า การลงมือทำงานในบ้านด้วยตนเองคือ การสอนให้รู้คุณค่าของชีวิต จึงอยู่บ้านอย่างมีความสุข

คนยุคนี้มีความรู้สึกไม่ค่อยนึกถึงความสำคัญของบ้านที่ตนมีอยู่ เพราะอิทธิพลวัตถุที่ให้ความฟุ้งเฟ้อซึ่งแทรกซึมลงไปในรากฐานจิตใจ หล่อหลอมให้เกิดความรู้สึกรักความสบาย รสชาติใหม่ๆ แปลกๆ จึงนิยมออกไปเที่ยวนอกบ้าน กินอาหารแปลกๆ ใหม่ๆ ท่ามกลางบรรยากาศซึ่งแข่งขันกันสร้างรูปแบบใหม่ๆ ตามร้าน ซึ่งประเด็นนี้มีผลสะท้อนให้เห็นความจริงได ้จากการที่ร้านขายอาหารรูปแบบต่างๆ เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด

ทุกวันนี้มีกระแสที่เชื่อได้ว่า ครอบครัวไทยจำต้องประสบกับความแตกแยกอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากผู้หญิงและผู้ชายเข้าสู่พิธีสมรสได้ไม่นานนักก็แยกทางกันเดิน โดยเฉพาะฝ่ายชายทิ้งภรรยาไปมีใหม่ แม้มีลูกแล้วยังไม่นึกถึงลูกมากไปกว่าความต้องการของตน บางรายผู้หญิงก็แอบไปคบกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งคนแต่ก่อนเคยประณามไว้ว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย

ประเด็นดังกล่าวคงไม่น่าแปลกใจอะไรมากนัก เพราะพฤติกรรมที่หลากหลายของคนย่อมมีเหตุผลเชื่อมโยงถึงกัน อีกตัวอย่างหนึ่งน่าจะได้แก่การที่ผู้หญิงชอบออกไปเที่ยวหาซื้อของ อย่างที่เรียกกันว่าไปชอปปิง เพราะตกเป็นเหยื่อรูปแบบสินค้าจากอีกด้านหนึ่ง ซึ่งมีกลยุทธ์ในการออกแบบเพื่อแสวงหาเงิน โดยเฉพาะนิยมซื้อของราคาถูกมากกว่าของที่มีคุณภาพ และจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันก่อน

ความคิดลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญา ที่ไม่สามารถมองการณ์ไกล หรืออีกนัยหนึ่งมักกล่าวกันว่า คิดเอาแต่ได้ แทนที่จะคิดได้สองด้าน ซึ่งสามารถเห็นถึงผลได้ผลเสียว่าด้านไหนมีมากกว่า

อีกสิ่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะสะท้อนให้เห็นถึงประจักษ์พยานเท่าที่กล่าวมาแล้ว ได้อย่างชัดเจน น่าจะได้แก่ การหลงลงทุนธุรกิจ โดยกู้หนี้ยืมสินจากผู้อื่น ร่วมกับอีกด้านหนึ่งซึ่งจ้องหากินจากชีวิตคนซึ่งตกอยู่ในสภาพลุ่มหลงมัวเมา ดังจะพบได้ว่า ยุคก่อนเจ้าหนี้ยังอยู่ในสภาพที่มีความเป็นกันเองและเห็นอกเห็นใจ แม้จะมีการให้กู้ยืมยังสามารถเจรจาความกันได้ไม่ยาก

แต่เพราะเหตุว่าคนยุคนี้ถูกฝังหัวไว้ด้วยอิทธิพลวัตถุและเงิน จึงนำระบบการกู้หนี้ยืมสินจากตำรา ซึ่งคนชาติอื่นเขียนไว้มอมเมาเข้ามาใช้เป็นกฎระเบียบ โดยไม่มีการลดราวาศอก ถึงมีการผ่อนปรนก็ต้องอ้างกฎระเบียบ จนกระทั่งเชื่อมกันว่าถ้าจะคิดทำแม้งานอาชีพใดก็ตาม หากไม่กู้เงินมาลงทุนก็เสมือนคนล้าสมัย และไม่ถูกหลักวิชาการ

ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีสองด้านรับกัน เมื่อคนถูกมอมเมาให้เกิดความลุ่มหลงจนกระทั่งเสพติด ย่อมมีอีกด้านหนึ่งซึ่งฉกฉวยโอกาสตอบสนองความต้องการ ดังจะเห็นได้ว่าคนยุคก่อนไม่เคยมีสถาบันที่ให้กู้ยืมเงินอย่างเป็นทางการ แต่ในยุคนี้เกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด

ในที่สุดสังคมก็มีปัญหา เพราะสิ่งเสพติดไม่เคยไว้หน้าใคร เมื่อคนยึดติดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในที่สุดก็ต้องเสียหาย เมื่อผู้ตกเป็นเหยื่อจำต้องสูญเสีย ผู้ที่เอาเหยื่อมาล่อก็มักคิดรีดนาทาเร้นเพราะตนจำต้องสูญเสียตามไปด้วย ซึ่งเหตุนี้เอง ทำให้อิทธิพลคนชาติอื่นกฉวยโอกาส เข้ามาถือครองผลประโยชน์แทนคนท้องถิ่นได้ง่ายยิ่งขึ้น

ทำไมคนไทยส่วนใหญ่จึงเป็นโรคเบื่อง่าย? ไม่เพียงเท่านี้ หากมองที่ต้นเหตุน่าจะเห็นความจริงได้ว่า เป็นเพราะถูกมอมเมาได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นยาเสพติดจึงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย เนื่องจากเป็นเพียงเรื่องปลายเหตุ อีกทั้งเป็นแค่ส่วนหนึ่งของสิ่งเสพติด ที่มีกระแสจากต่างถิ่นแทรกซึมเข้ามาทำลายจิตใจคนไทย ซึ่งควรคิดได้อย่างอิสระและมีความเป็นไทแก่ตนเอง

ไม่เฉพาะระดับล่างเท่านั้น หากมองขึ้นไปสู่ด้านบนก็จะเห็นได้ชัดเจน เพราะบรรยากาศการบริหารและการจัดการยุคนี้ ผู้ที่ขึ้นไปสู่อำนาจบริหาร มักมีเหตุสืบเนื่องมาจากการเสพติดอิทธิพลวัตถุและเงินตรา รวมทั้งอำนาจและความสบาย อีกทั้งรสชาติของการถูกยกย่องสรรเสริญ ซึ่งไม่ได้เกิดจากใจคนด้านล่าง

หากเป็นเพราะคนส่วนใหญ่เสพติดสิ่งเหล่านี้เข้าไปแล้ว ถึงยังไม่ได้มีโอกาสขึ้นไปสู่ด้านบนก็มักสะท้อนพฤติกรรมยกย่อง ติดตามมาด้วยการประจบสอพลอทำให้เสพติดร่วมกันทั้งสองด้าน

คนในยุคปัจจุบันจึงมักมีข้ออ้างจนกระทั่งติดเป็นนิสัย หากคิดจะทำอะไรซึ่งจำเป็นต้องสูญเสียวัตถุและเงินเพื่อให้ใจแก่สังคม ความจริงที่แอบแฝงอยู่ในใจ มักทะลักออกมาในลักษณะข้ออ้างเพื่อเอาตัวรอด แทนที่จะคิดสู้กับใจตัวเอง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม

หวนกลับไปนึกถึงคนยุคก่อน ซึ่งมีความรักร่วมกับความรับผิดชอบ ต่อผลได้ผลเสียของแผ่นดินถิ่นเกิด ไม่เฉพาะผู้ที่ขึ้นไปเป็นกษัตริย์เท่านั้น ยามใดที่แผ่นดินไทยถูกบุกรุก เราจะเห็นผู้คนร่วมรักสามัคคีออกมาร่วมใจกันต่อสู้ หรืออาจกล่าวได้ว่า หากไม่มีศึกศัตรูเข้ามาบุกรุกถึงในบ้าน เราย่อมไม่เห็นผู้กล้าหาญเด็ดเดี่ยว แม้แต่สตรีก็เป็นได้ อย่างที่คนแต่ก่อนเคยกล่าวกันว่า ผู้หญิงอกสามศอก เช่นเดียวกับผู้ชาย สามารถเป็นผู้นำผู้ชายออกรบได้อย่างกล้าหาญ

คนยุคนี้ส่วนใหญ่ หากได้ยินใครสักคนพูดย้ำถึงความสำคัญของพื้นดิน อาจได้รับคำถามย้อนกลับมาว่า ทำไมจึงย้ำความสำคัญกับเรื่องนี้บ่อยนัก แสดงว่าบุคคลผู้นั้นลืมตัว จึงรู้สึกว่าแผ่นดินซึ่งเป็นถิ่นเกิด และดำรงอยู่ของชีวิตตนเองเป็นสิ่งไร้ความหมาย จึงไม่อาจเข้าใจความจริงได้

สิ่งเหล่านี้ผู้เขียนได้ประสบมาด้วยตนเองทุกเรื่องแล้ว จึงค้นจากใจออกมาเขียน โดยไม่มีเจตนาที่จะนำประเด็นไปผูกพันไว้กับตัวใครหรือคนกลุ่มไหน หากพบได้ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นสัจธรรมของสังคมซึ่งควรจะยอมรับความจริง

การยอมรับความจริง หมายถึงความเข้าใจในเหตุและผล บางคนโต้กลับออกมาว่า ตนเข้าใจแล้ว ย่อมอ่านได้ว่ายังไม่เข้าถึงความจริงซึ่งอยู่ในใจตนเอง ไม่เช่นนั้นคงไม่สะท้อนกลับออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ

เพราะผู้ที่เข้าใจได้แล้วย่อมอยู่อย่างสงบและมีความสุข หากใช้ชีวิตทำงานในสิ่งที่เชื่อว่า สร้างสรรค์อย่างไม่ท้อถอย โดยที่รู้ว่าตนคือชีวิตหนึ่งซึ่งจะให้เหมือนกับทุกคนคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นขณะที่มีชีวิตอยู่ จึงควรทำงานสนองบุญคุณแก่แผ่นดินถิ่นเกิด อย่างผู้รู้หน้าที่ของชีวิตหนึ่งผู้เกิดมาบนแผ่นดินผืนนี้จนถึงที่สุด

 

ระพี สาคริก



หน้าแรก
| ปัญญาชนสยาม | หนุ่มสาวดัดจริต | กังวานเกี่ยวข้อง | ข้าวตอกดอกมะเขือ | กลับสู่ด้านบน

เว็บไซต์นี้จัดทำด้วยความกระตือรือล้นของใครหลายคนนั้น
ก้อนหิน และหรือดอกไม้ กรุณาหารือกับนักการ
พยายามปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่
พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๗