ท่านนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย
คณะกรรมการกองทุนศรีบูรพา เพื่อนนักเขียนและท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย
การที่ท่านมาชุมนุมกันในที่นี้เพื่อยืนยันคุณค่าและแบบอย่างทางความคิดจิตใจของศรีบูรพา
นับเป็นเรื่องที่น่าปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ผมเองในฐานะผู้ที่ได้รับรางวัลอดรู้สึกภาคภูมิใจไม่ได้
ที่ถูกเชิญมาช่วยกันขานรับเจตนารมณ์ของนักคิดนักเขียนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดท่านหนึ่งของประเทศไทย
นับถึงปัจจุบัน ศรีบูรพาหรือท่านกุหลาบ สายประดิษฐ์ ได้ผ่านโลกนี้ไปใกล้ครบสามสิบปีเต็มแล้ว
การที่ผลงานของท่านยังคงมีผู้ศึกษาค้นคว้าเป็นจำนวนมาก และชื่อเสียงเกียรติภูมิของท่านยังคงมีผู้ยอมรับนับถือ
ย่อมแสดงให้เห็นว่าท่านเป็นบุคคลต้นแบบที่โลกไม่อาจปฏิเสธได้
เนื่องจากท่านเป็นทั้งนักสู้เพื่ออิสระภาพของมนุษยชาติ และเป็นทั้งนักคิดนักเขียนที่ใช้คมปากกาขีดแสงสว่างขึ้นในดวงใจมนุษย์
คนรุ่นผมจึงถือว่าแบบชีวิตและงานของศรีบูรพา เป็นส่วนหนึ่งในความเติบโตทางปัญญาของพวกเราเสมอมา
และในวิหารแห่งวีรชนฝ่ายประชาชน ก็มีนามของท่านสถิตย์อยู่ชั่วนิรันดร์
ถามว่าวิถีแห่งศรีบูรพาคืออันใด ในความเห็นของผม มันคือเส้นทางชีวิตที่ผนึกรวมวิญญานอิสระของบุคคล
เข้ากับภาระกิจปลดปล่อยประเทศชาติและมนุษยชาติออกจากพันธนาการทั้งปวง
มันคือความใฝ่ฝันที่จะเห็นภราดรภาพในหมู่มนุษย์ และความกล้าหาญที่จะประกาศเจตจำนงของตน
แน่ละ
จากยุคสมัยของศรีบูรพามาถึงวันนี้ เวลาได้ล่วงเลยมาหลายทศวรรษแล้ว
สรรพสิ่งย่อมผันแปรได้ตามเหตุปัจจัยต่าง ๆ กระทั่งรูปแบบความเคลื่อนไหวในสังคมก็อาจจะเปลี่ยนไป
แต่นั่นมิได้หมายความว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น และยิ่งมิได้หมายความว่าวิถีของศรีบูรพากลายเป็นเรื่องไร้ค่าและขาดตอนจากความเป็นจริง
ในทางตรงข้าม ถ้าเราพิจารณาสภาพที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ก็ยิ่งจะเห็นความจำเป็นที่ต้องเร่งสร้างสันติภาพและภราดรภาพในหมู่มนุษย์ขึ้นมาโดยด่วน
ก่อนที่ความขัดแย้งเชิงปฏิปักษ์และการทำลายล้างชีวิตผู้คนจะนำไปสู่การสิ้นสลายของอารยธรรม
และคุกคามความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ในการมุ่งไปสู่ทิศทางดังกล่าว
ความกล้าหาญของบุคคล ที่จะออกมาแสดงความอาทรร้อนใจในชะตากรรมร่วมของมนุษยชาติ
นับวันยิ่งกลายเป็นสิ่งสำคัญ
กล่าวสำหรับในกรณีของประเทศไทย ความเดือดร้อนที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
แม้จะไม่เทียบเท่าโศกนาฏกรรมในบางประเทศ แต่เราก็ไม่อาจกล่าวได้สังคมไทยเป็นสังคมที่สงบสุข
กระทั่งอาจจะต้องยืนยันว่าสังคมของเรากำลังเผชิญวิกฤตอยู่ในหลาย
ๆ ด้านเช่นกัน
ที่ผ่านมาแนวทางการพัฒนาประเทศที่แยกการเติบโตทางวัตถุ ออกจากความเจริญทางจิตใจ
และความผุดผ่องทางจิตวิญญาณ ได้ส่งผลให้คนไทยเบียดเบียนกันมากขึ้น
แบ่งปันกันน้อยลง ยังไม่ต้องเอ่ยถึงความเสื่อมทรุดทางด้านสิ่งแวดล้อม
วัฒนธรรมและภูมิปัญญา กระแสโลกาภิวัตน์ที่พัดมาแรง เมื่อกระทบถูกสังคมที่อ่อนแอลงเช่นนี้
แทนที่จะช่วยเสริมขยายความรับรู้ และนำพาปวงชนชาวไทยไปผูกมิตรเชื่อมหัวใจกับเพื่อนในส่วนอื่น
ๆ ของโลกกลับกระหน่ำซ้ำเติมด้านอ่อานของเราจนเกือบจะทรงตัวเป็นอิสระไม่ได้
การรุกเข้ามาของทุนนิยมโลกาภิวัฒน์เป็นการโจมตีสังคมไทยแบบสามประสาน
ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมืองและวัฒนธรรมพร้อม ๆ กัน สัทธิบริโภคนิยมที่สุดขั้วได้รับการกระพือพัดตลอด
24 ชั่วโมง โดยสื่อโฆษณาต่าง ๆ และช่วยเบิกทางให้กับการครอบงำทางเศรษฐกิจโดยต่างชาติ
ซึ่งนำไปสู่การกัดกร่อนอิสระภาพและอธิปไตยทางการเมืองของประเทศเรา
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ สิ่งที่น่าห่วงที่สุดในความเห็นของผมมีอยู่สองประการคือ
หนึ่ง ความเลื่อมทรุดทางจิตใจและจิตวิญญานหรือมนุษยภาพของคนไทยจำนวนมากสอง
สภาพเสื่อมสลายของสายใยสัมพันธ์ที่เราเคยมีต่อกัน
สำหรับประการแรก ภาพที่เห็นได้ชัดที่สุดคือสถานการณ์ที่ปรากฏในหมู่เยาวชนคนหนุ่มสาว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนชั้นกลางรุ่นหลัง ซึ่งเป็นผู้ครองฐานะได้เปรียบทั้งจากแนวทางพัฒนาประเทศ
และจากกระแสโลกาภิวัฒน์ที่แผ่คลุมสังคมไทย
ในขณะที่คนเหล่านี้มีความเชื่อในลัทธิปัจเจกชนนิยมอย่างสุดขั้ว ยึดมั่นในอัตลักษณ์และตัวตนของตนเอง
พวกเขากลับถูกหลอมมาจากเบ้าเดียวกัน ให้มีโลกทัศน์ชีวทัศน์คล้ายกันไปหมดโดยยืนยันว่าโลกนี้ไม่มีผิดมีถูก
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจของปัจเจกบุคคล และบุคคลไม่จำเป็นต้องสังกัดองค์รวมใด
ๆ
แน่นอน แนวคิดดังกล่าวย่อมนำไปสู่การเพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของผู้อื่น
เข้าใจผิดต่อการดำรงอยู่ของตนเอง และที่อันตรายที่สุดคือ นำไปสู่การถอนถอยออกจากวัฒนธรรมและอารยธรรมโดยไม่รู้ตัว
คงเหลือแต่การชี้นำชีวิตด้วยสัญชาตญานดิบเพียงอย่างเดียว
สภาพเช่นนี้โดยเนื้อแท้แล้วไม่ใช่วิถีชีวิตที่งอกงามมาจากปรัชญาใด
ๆ หากในด้านหนึ่งเป็นอหังการ์ของผู้ได้เปรียบที่พร้อมตัดขาดตัวเองจากเพื่อนมนุษย์ผู้ทุกข์ยาก
โดยอาศัยคำแก้ตัวที่ดูก้าวหน้าทันสมัย ในอีกด้านหนึ่ง ก็มิใช่อะไรอื่น
หากคืออาการของผู้ตกเป็นเหยื่อลัทธิบริโภคนิยมและเสรีนิยมใหม่ จนถึงประเด็นที่จะกล่าวถึงในที่นี้ได้
เฉพาะหน้าสิ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือว่าถ้าหากเราต้องการแก้ปัญหาของสุงคมไทยให้ถึงราก
เราจำเป็นที่จะต้องจับประเด็นให้ลึกซึ้งถึงขั้นจิตใจและจิตวิญญาณ
ขณะเดียวกันก็ต้องขยายกรอบคิดจากอุดมการณ์ทางการเมืองแบบเก่า ไปสู่การกอบกู้ความเป็นคนอย่างทั่วด้าน
ตรงนี้แหละที่ผมคิดว่าบทบาทของนักคิดนักเขียนตามแบบอย่างของศรีบูรพาเป็นสิ่งสำคัญ
และยังมิได้ล้าสมัยแต่ประการใด อย่างไรก็ตาม การสืบทอดและเชิดชูวิถีของท่านกุหลาบ
สายประดิษฐ์ มิได้หมายถึงการประกอบกิจการงานตามรอยเท้าของท่านในฐานะนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์เท่านาน
หากหมายถึงการอาศัยพลังของวิญญาณอิสระที่ยังไม่เน่าเสียไปตามกระแส
หวนกลับไปจุดประกายทางปัญญาให้กับสังคมที่กำลังหลงทิศผิดทาง
ในความเห็นของผม ความฝันของศรีบูรพานั้นมีความเป็นสากล ซึ่งก้าวพ้นพรมแดนและอยู่ข้ามกาลเวลา
แต่เนื่องจากประเทศไทยเป็นบ้านของท่านและเป็นบ้านของพวกเราทุกคน
หากเราต้องการจะทำอะไรสักอย่างเพื่อมนุษยชาติ ก็คงไม่ใช่สิ่งผิดปกติ
ที่จะเริ่มต้นด้วยการคิดถึงเพื่อนมนุษย์ที่สังกัดถิ่นฐานเดียวกัน
สำหรับผม หน้าที่ของนักเขียนมิได้เป็นเพียงผู้ผลิตความบันเทิงเริงรมย์
หากยังต้องเป็นผู้จุดประทีปโคมไฟที่ซ่อนลึกอยู่ในหัวใจของทุกผู้ทุกนาม
เช่นเดียวกับท่านกุหลาบ สายประดิษฐ์ ผมเชื่อในความดีของมนุษย์ และเชื่อในความเป็นไปได้
ที่จะอาศัยงานทางด้านศิลปวรรณคดี ปลุกให้ผู้คนตื่นรู้ และกล้าหันด้านสว่างของตัวเองออกมา
ผมยังคงมีความหวังและมีความฝันว่าวันหนึ่งสังคมไทยของเรา จะเป็นชุมชนของมนุษย์ที่แบ่งปันมากว่าแย่งชิง
และวัดความเจริญของตนด้วยการเติบโตทางปัญญากับความสงบสันติภายใน
มากกว่ารายได้จากการค้าและการลงทุน
การที่ท่านทั้งหลายมาร่วมชุมนุมในที่นี้ ย่อมเป็นเครื่องยืนยันว่าว่าความฝันของผมมิใช่เรื่องโดดเดี่ยวโดยลำพัง
และยิ่งยืนยันว่าวิถีของศรีบูรพายังคงมีผู้สืบทอดไม่ขาดสาย ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มอบรางวัลนี้ให้ผม
โดยจะถือเป็นเกียรติภูมิแห่งชีวิตและเป็นกำลังใจตลอดไป
ขอสันติภาพจงบังเกิดขึ้นในโลกและขอสันติสุขจงสถิตอยู่ในใจเราทุกคน
เสกสรรค์
ประเสิรฐกุล
๕
พฤษภาคม ๒๕๔๖
|