ปรีดา
ข้าวบ่อ คือตัวแทนจากคณะกรรมการฯ คนที่สอง ที่อ่านคำประกาศเกียรติคุณของเสกสรรค์
ประเสริฐกุล ผู้ได้รับรางวัล 'ศรีบูรพา' คนที่ 16 ในคราวเดียวกันนี้
คำประกาศฯ ยกย่องให้เสกสรรค์ เป็นสุภาพบุรุษจากลุ่มน้ำบางปะกง ผู้มีวิถีชีวิตและกติกาการใช้ชีวิตตามแบบฉบับของตนเอง
"เขาเปิดวิวาทะกับผู้คนรอบด้านจนดิ่งลึกทางความคิด
เขายืนหยัดต่อต้านอยู่ในวิหารด้านในจนรักษาความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณได้มั่นคง"
เป็นวรรคตอนหนึ่ง ของถ้อยคำกึกก้องวันนั้น
"จากนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ตัดสินใจเข้าร่วมนำขบวนนักเรียนนักศึกษา-ประชาชนโค่นล้มอำนาจเผด็จการ
เข้าต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย
เสกสรรค์ประกาศชัดว่า ถึงวันนี้...ประชาชนไม่มีทางเลือกเป็นอื่น
นอกจากจะขึ้นเวทีการเมืองด้วยตัวเอง..."
ด้านแนวคิดของเสกสรรค์ คำประกาศฯ ยืนยันว่า ไม่ต่างกันกับแนวคิดของท่านกุหลาบ
สายประดิษฐ์ เจ้าของนามปากกา 'ศรีบูรพา' ที่ได้บันทึกไว้ตั้งแต่กึ่งศตวรรษที่ผ่านมาว่า
"...
ผู้ใดต้องการอำนาจที่จะละลายไปโดยเร็ว เหมือนหยาดน้ำค้างเมื่อต้องแสงแดด
จงแสวงจากปืน ผู้ใดต้องการอำนาจที่ประกอบไปด้วยพรแห่งธรรมและความยั่งยืน
จงแสวงหาจากประชาชน และในท่ามกลางสหายจากประชาชนของท่าน.."
ในตอนท้ายของคำประกาศฯ ได้สรุปว่า
"จากชีวิต
การต่อสู้ และผลงานการเขียนทั้งหมด ล้วนสำแดงศรัทธาที่เขามีต่อประชาชน
เชิดชูหลักมนุษยธรรม และเทิดทูนอิสรภาพ"
|