หนุ่มสาวดัดจริต > จดหมายสามฤดู

ต้นคิมหันต์-วสันต์ฤดู

สวัสดี ทุกคน

         นี่เป็นจดหมายฉบับแรกในดอย(ทช์)แลนด์ ที่นี่ไม่เรียกตัวเองเยอรมันนี อ่านประวัติดูแล้วยังงงๆ ไม่เล่าว่าทำไมดีกว่า คนดอย(ทช์) เขาว่าเหมือนหุ่นยนต์ ตรงๆ ไม่ค่อยรู้สึกรู้สาอะไร แต่จะว่าไป ตอนหาทางจากสนามบินมาเมืองที่เรียนภาษา เขาก็ช่วยดีนี่หว่า! เคยอ่านเรื่องของ    ไอแซค อาซิมอร์ฟ เกี่ยวกับหุ่นยนต์ที่คิดเป็น แล้ววันดีคืนดีหุ่นก็อยากเป็นคนบ้าง ชาวดอย(ทช์)คงไม่ทื่อเป็นเหล็กไปหมด หรอกนิ

         ไม่ชอบเขียนจดหมาย แต่จะพยายามเขียนมาเล่าชีวิตปีนี้สัก 3 ฉบับๆ ละช่วงฤดู เป็นจดหมาย 3 ฤดู ฟังเป็นมะม่วงเชียว ตอนเขียนระวังมากกลัวเขียนเป็นจดหมาย 3 ร_ดู คงไม่น่าอ่านเท่าไหร่

         คืนแรก พักบ้านพักเยาวชน ( Youth hostel) อยากเด็ก ! ได้อยู่ห้องผสม คือผสมกับใครไม่รู้อีกคน ดีใจมากเพื่อนร่วมห้องแก่กว่าอีก เป็นด็อกเตอร์สอนที่เคนตั๊กกี้  แต่ไม่ใช่ไอ้ที่มีอธิการบดีถือไม้เท้า ยืนหน้ามหาฯลัยนะ  คุยกันถูกคอดี แต่เมื่อยมือ ส่วนใหญ่เด็กๆก็คบกันง่ายอย่างนี้แหละ สรุปเอาใจกันและกันว่า แก่แค่ไหนหัวใจเด็กก็เป็นเยาวชนได้

         เขาให้เรียนภาษาดอย(ทช์) 4 เดือน ไวยากรณ์ยากดี ทุกอย่างมีเพศหมด หมา(ตัวเมีย)เพศผู้  แมว(ตัวผู้) เพศเมีย รถเป็นกระเทย งงไหม ถึงว่ายากไง ภาษาไทยยืดหยุ่นกว่า ผู้ชายมีได้ 3 เพศ

ช่วงหน้าร้อนแดดแรงมาก แต่เย็นสบายเหมือนติดแอร์ทั้งประเทศ หลบแดดตลอด ไม่เหมือนเจ้าถิ่น เจอแดดเป็นตาก กลายเป็นพวกดอย(ทช์)แดดเดียว เมื่อวานเดินหลบแดดอยู่ ได้ยินเสียงภาษาเยอรมันอยู่ข้างหลัง “ แม่ๆ ตัวอะไร ” “ อ๋อ! คนจ๊ะ ” หันไปดู เด็กประมาณสี่ขวบ  ชี้มาที่เรา เกือบโดดเตะด้วยความเอ็นดู  คิดอีกที เด็กมันไร้เดียงสา ผู้ใหญ่เห็นคน ไม่เป็นคน น่าเตะกว่า

         ดอกไม้ที่นี่เยอะมาก แต่ช่วงนี้เริ่มเหี่ยวแล้ว ผลไม้น้อยกว่าบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็นผลไม้วัยรุ่น (เปรี้ยว) พระเจ้าคงแบ่งโลกมาให้ไม่ขาดดุล เมื่อเช้าเที่ยวตลาดนัด      แอปเปิ้ล กิโลละ 1.99 ยูโร องุ่น กิโลละ 2.95 ยูโร มะม่วงจากบราซิล ลูกละ 1.49 ยูโร ราคาเป็นเศษๆทั้งนั้น คนละเอียดถี่ถ้วนมาก ผลก็คือ ที่ห้องมีเหรียญกองเป็นภูเขา ฟังคนขายไม่รู้เรื่อง ซื้อของทุกทีจ่ายเป็นแบงค์ ให้คนขายทอนมาเอง  ได้เหรียญวันละกำมือ

ฝนตกเกือบทุกวัน น่ารำคาญ ตอนนี้เริ่มเข้าหน้าหนาว มืดเร็ว 4 โมงเย็นก็มืดแล้ว อยู่มาปีกว่า    รู้แล้วฝรั่งทำไมชอบแดด นักหนาเมื่อก่อนฟังเพลงอยู่เพลง

“ทะเลหน้าฝน            เหมือนคนร้องให้

เจ้าคร่ำครวญหาใคร     เขารู้ไหมทะเล ”

         ฝนที่นี่ไม่ออกแนวเหงาแบบเพลง เป็นแบบน่ารำคาญ ตกเบาๆทั้งวัน ผสมกับลมพัดแรง บางทีเอาแน่เอานอนไม่ได้ แดดออกอยู่ดีๆ ก็ตกมาเฉยๆ คงอยากสอนว่า โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน วานสุข วันนี้ทุกข์ หรือเรื่องเดียวกันวันหนึ่งจะเป็นจะตาย อีกเดือนกลับรู้สึกว่า โชคดีจังที่เป็นแบบนั้น คนอกหักแล้วเจอคนใช่เลยทีีหลัง คงเข้าใจดี หลายเรื่องเหมือนความรักนี่แหละ ! เรามักอ่านถูกต้อง เมื่อเป็นความหลัง อืมมม...เขียนแล้วรู้สึกตัวเองเป็นกวีจัง

ไปแล้วนะ

ปลายวสันต์-เหมันต์ฤดู         

สวัสดี ทุกคน

หายไปนาน ตอนนี้ก็เรื่อยๆ เปื่อย ไม่งอก อยู่เหมือนเดิม เข้าเรียนมหาฯลัยแล้ว มีเรื่องต้องเรียนรู้เยอะเกินไป เลยไม่เรียนดีกว่า เน้นการใช้สามัญสำนึกจนเซลล์สมองใกล้เสื่อมแล้วมั๊งจับฉลากพ่อ (DAAD)ได้มาเรียนก็อย่างนี้แหละ คนไทยนักเรียนทุนคนอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็เก่งกันดี 

หวังว่าทุกคนสบายดี ไว้ปีหน้า จะไปเยี่ยม อยู่นี่ก็เปลี่ยนไปหลายอย่างเมื่อวานเปลี่ยนไปอีกอย่าง คือ กินกระดูกหมูทอดกระเทียม ปกติกินไม่ได้พวกกระดูกอ่อนหรือ แทะกระดูกหมู เวลาได้ยินคนเคี้ยวกระดูกอ่อน จะขนลุก ตอนนี้แทะเองแล้ว กินดะ แกะ กวาง กินหมด เพราะบางทีไม่รู้ กินไปแล้วค่อยรู้จากเพื่อนบางทีกินโรงอาหารขี้เกียจอ่านเมนู ไปดูๆเอา บางรายการอ่านไปก็ไม่รู้ว่า อะไรว่ะ ถามคนเยอรมัน บางทีมันก็งงๆ ว่าอะไรเหมือนกัน คงตั้งชื่อแบบบ้านเราข้าวผัดมาเลเซีย  ข้าวผัดไหหลำ อ่านแล้วก็รู้แต่เป็นข้าว ไม่รู้อะไรจะมากับข้าว 

วันพฤหัสที่ผ่านมา เสนองานในสัมนาของภาควิชา หัวข้อ  "การเขียนสิ่งตีพิมพ์ทางวิทยาศาสตร์" เป็นหน่วยกล้า "อาย" เพราะ คนทำโปรแกรมสัมนา บอกก่อน 2 วันว่าไม่มีคนมาเสนองาน หน้าด้านเสนอตัวเองนั่งทำอยู่วันครึ่ง ทำก็คิดไม่น่าเลยตูู  ก่อนเข้าห้อง คนเห็นรายการถกเถียงอื้ออิงว่า คนพูดตีพิมพ์มากี่ฉบับแล้ว สไลด์แรกเลยเพิ่มวงเล็บ หลังชื่อตัวเองว่าไม่เคยตีพิมพ์เลยว่ะ ได้เสียงชื่นชมอื้ออึงเช่นกันว่า " ไม่เจียมตัว"   

 ระหว่างสัมนาผู้คนขำกันใหญ่  ไม่รู้ขำสไลด์ หรือภาษาอังกฤษคนพูด ช่างมัน! คนจัดสัมนามาขอบคุณที่พูดให้ บอกพูดดีมากได้ความรู้กันท้องคัดท้องแข็ง สงสัยว่ามันชมหรือด่าได้อานิสงห์จากการรับพูด คือ รู้ตัวว่าด้วยนิสัยแบบนี้ ต้องทำอะไรแบบหา "เส้นตาย" ให้ตัวเอง ที่ผ่านมา ขยันสุดฤทธิ์ อดรีนาลีนหลั่งไหล เพราะต้องค้นข้อมูลด้วย ทำ  เพาเวอร์พอยต์ด้วย แก้วิทยานิพนธ์ของเด็ก ป. โท ที่ดูแลเสร็จแล้วก็เป็นศพพอดี แต่วันนี้ได้เซาน่า สบายตัวดีได้กำจัดของเสียกับเหงื่อด้วย แต่ยังหาวิธีกำจัดนิสัยเสียกับเหงื่อไม่ได้        ได้ยินว่าของแบบต้องใช้วิธีโบราณ "เอาเลือดชั่วออก"

         ตอนนี้ใบไ้ม้เริ่มร่วง สีเปลี่ยน แล้วร่วง ต้นไม้ไม่เหมือนหมา เลยไม่สลัดใบพรึบๆ แบบหมาหลังอาบน้ำ เห็นแค่หล่นคว้างทีละใบ สองใบ จนเต็มพื้น ในชีวิตคนโชคดีไม่เหมือนต้นไม้ เวลาล่วงสม่ำเสมอ ไม่งั้นเดือนที่แล้วเป็นวัยรุ่น เริงร่าปาจิงโก็ะ เดือนนี้เป็น วัยร่วง ฟันหลุด ผมร่วง หน้าเหี่ยวกระทันหัน ไม่อยากคิด !  นึกถึงคำพูดศาสตราจารย์ศิลป์ พีรศรี

         “ นาย...  ถ้าฉันตาย นายนึกถึงฉัน นายรักฉัน นายไม่ต้องทำอะไร ... นายทำงาน ”

         “ พรุ่งนี้... ก็สายเสียแล้ว ”

ไปแล้วนะ

ปลายเหมันต์-คิมหันต์ฤดู.

สวัสดี ทุกคน

เพิ่งกลับจากเซาน่า เป็นอีกกิจกรรมที่ทำที่นี่ไปเป็นครั้งที่ 2 เป็นห้องเซาน่ารวม คือรวมทุกคนทั้ง แก่ เด็ก ผู้หญิง ผู้ชาย  แก้ผ้ากันหมด ไปกัน 2 คน ทหารไทย 1 คน  ตัว อ้อ เริ่มปิ้งตัวกันด้วยสไตล์ฟินแลนด์ คืออุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธิ์ 2-3 เปอร์เซ็นต์  ถ้าร้อนและชื้นด้วยจะเกรียมเกินไป  นั่งยกละ 15 นาที แล้วไปผึ่งอากาศเย็นเย็นตัวก็มารีดเหงื่อซ้ำ รู้สึกเหมือนเป็นหมูสะเต๊ะ ปิ้งร้อนๆ แล้วก็เอามาจุ่มกะทิ แล้วปิ้งใหม่  รอบที่สองท่านผู้นำ(ทหาร)บอกเปลี่ยนเป็นแบบนึ่งแล้วกันพี่ วิธีนี้เป็นสไตล์รัสเซีย คืออุณหภูมิต่ำลงเหลือ 50 องศาฯ แต่ความชื้นสูงมากแบบ มองหน้ากันไม่ค่อยเห็นห้องนี้น่าจะเหมาะกับมือใหม่หัดเซาฯ กลัวใครเห็นช้างน้อย!  การสลับอุณหภมิช่วยทำให้ระบบ ภายในของร่างกายกระฉับกระเฉงถ้าเซาฯแล้วระบบภายนอกเฉพาะส่วนกระฉับกระเฉงขึ้นด้วย ตั้งใจจะมาเซาฯทุกวัน

ใกล้หมดหนาวแล้ว จะไปเล่นสกีที่ออสเตรีย เพื่อนดอย(ทช์) ขับรถไป เล่นไม่ได้ก็จะไปปาหิมะแทน ว่าจะเอาขนมปังกับน้ำแดงไปทำ ขนมปังน้ำแดงไม่ต้องไสน้ำแข็ง กอบๆหิมะแถวนั้นเอา แต่ไม่รู้จะมีใครกล้ากินเปล่า (รวมทั้งตัวเองด้วย) เมื่อวานก็ปวดท้อง น้องที่นี่ทำแกงอ่อมให้กิน อุดมด้วยสารพัดผักพ่อครัวคนหนึ่งมาจากเชียงราย อีกคนมาจากชัยภูมิ สูตรไม่เหมือนกัน เลยเอา 2 สูตรมารวมกัน ใส่มันให้หมดแหละ ก็อร่อยดี ตอนเมื่อคืนตี 2 เพราะไม่มีอะไรจะกิน

เรื่องใหม่ๆ! ตอนนี้กำลังลองประมูลของผ่านเน็ตอยู่ ยังไม่ได้สักชิ้นเพราะครั้งล่าสุดอินเตอร์เน็ตที่ห้องเกิดช้าผิดปกติ ส่งไปแล้วปรากฎว่าหมดเวลาก่อนพยายามซื้อเลนส์ 28 มม. จะไว้ถ่ายวิวมุมกว้างหวังว่าคงทันหน้าหนาวนี้ เรียกว่าผ่านหิมะแรกแล้ว ฟังแล้วยังเด็กอยู่ ถ้าไม่รวมอีกสามสิบกว่าฝน

อีกอย่าง ขายหนังสือให้อเมซอนไปเล่ม 800 บาท ยังไม่ได้ตังค์เลย อาทิตย์หน้ายังไม่โอนจะเมล์ไปทวงแล้ว

อินเตอร์เน็ตนี่ก็แปลกดี โยงใยทั่วโลกได้ไง เมื่อก่อนเรียนคอมพ์ฯ เครื่องเป็น 8 บิท จะใช้ทีจำคำสั่งเยอะแยะไปหมด แค่สิบกว่าปีหน้ามือเป็นหลังเท้า  สังคมคงเปลี่ยนแบบฟังก์ชันเอ็กซ์โปเนนเชียล จากเกษตรเป็นอุตสาหกรรม จากอุตสาหกรรมเป็นข้อมูลข่าวสาร ใช้เวลาจาก พัน ร้อย  แล้วก็เป็นสิบปี เดิมย่ากับหลานคุยกันไม่รู้เรื่อง เดี่ยวนี้พ่อกับแม่ ไม่นานพี่กับน้องคงคุยกันไม่รู้เรื่อง 

เพื่อนๆที่นี่ใช้อินเตอร์เน็ตคุยกันข้ามทวีป เพื่อนอีกคนได้เพื่อนใหม่ๆ จากอินเตอร์เน็ต รวมแล้วประมาณ 1 กองพัน มิตรภาพขยายๆๆๆๆ รักฉัน รักเธอ รักเพื่อนร่วมชาติ รักมนุษยชาติ เมื่อวานมันโทรมาหาบ่นว่า เกลียดไอ้คนข้างๆบ้านจัง

ช่วงคาบลูกคาบดอกจะเข้าช่วงใบไม้ผลิอากาศแย่มาก อาทิตย์ที่แล้วขมุกขมัวอยู่หลายวัน ทุกอย่างรอบตัวสีเทาหมด นึกถึงคนแ่ก่ที่นี่ เกษียณแล้วอยู่บ้านคนเดียว วันๆคงนั่งข้้างหน้าต่าง มองฟ้าข้างนอกผ่านกระจก แกคงไม่แน่ใจว่า มัวๆข้างนอกนี่ไม่มีแดด หรือเพราะตาแกเสื่อม ไม่มีสถิติยืนยัน แต่ช่วงอย่างนี้น่าจะมีคนฆ่าตัวตายมากที่สุด  ด้านนอกมืดๆ ในบ้านมีแมวนอนเงียบๆแกว่งหาง ไม่ก็หมาหมอบเงียบๆปลายเท้า ไม่มีเสียงอะไรเลย  เงียบสนิท ถ้าตัวเองเป็นคนแก่ที่นี่ คงลุกไปจากหน้าต่าง ให้อาหารหมา/แมว  ลงไปห้องเก็บของ แล้วเอาเชือกมาแขวนคอตายแบบเงียบๆ........

ไปปปปปแล้วววววว   ปีหน้าจะเขียนมาใหม่       

 

ป.ล. ว่างๆเธอเขียนมาเล่าเรื่องเมืองไทยให้ฉันฟังมั่งนะ                                                                                                            

 

ศานติ



หน้าแรก
| ปัญญาชนสยาม | หนุ่มสาวดัดจริต | กังวานเกี่ยวข้อง | ข้าวตอกดอกมะเขือ | กลับสู่ด้านบน

เว็บไซต์นี้จัดทำด้วยความกระตือรือล้นของใครหลายคนนั้น
ก้อนหิน และหรือดอกไม้ กรุณาหารือกับนักการ
พยายามปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่
๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๗