เครือข่ายผู้หญิงเพื่อสันติภาพเกิดจากการรวมตัวกันของบุคคล และองค์กรทั้งที่
เป็นคริสตศาสนิกชน พุทธศาสนิกชน มุสลิมที่ห่วงใย และมีเจตจำนงแน่วแน่ที่จะมี
ส่วนร่วมตามศักยภาพ และกำลังของตนเอง ในการแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิด
ขึ้นในสามจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะต้องการแบ่งเบาความทุกข์โศก และช่วยเหลือ
พี่น้องผู้หญิงผู้สูญเสียสมาชิกในครอบครัว
เราจึงได้ขออนุญาตพี่น้องผู้หญิง
เพื่อแบ่งปันเรื่องราวที่เราได้รับฟังแก่กัลยาณมิตร หวังว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจ
สัมผัสถึงความรู้สึกของเธอเหล่านั้น รวมทั้งนำไปสู่ความร่วมมือและการช่วยเหลือ
เพื่อบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากความรุนแรงนี้
ทั้งนี้
ด้วยความคำนึงถึงความ ปลอดภัยของผู้หญิงเหล่านั้น จึงไม่อาจระบุรายละเอียดทั้งหมดได้
ในฐานะของ เพื่อนผู้ไปรับฟัง ซึ่งมาจากต่างถิ่น ต่างวัฒนธรรม ต่างศาสนา
แต่ร่วมกันในความเป็นผู้หญิง คงจะบอกเล่าเท่าที่จะพอทำได้ จนกว่าเธอเหล่านั้นจะตัดสินใจบอกเล่า
เรื่องราวด้วยตัวเอง เราคงจะได้สัมผัสเรื่องราวนั้น ๆ โดยตรง
เครือข่ายฯได้ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อการเยียวยาแก่ผู้หญิงในสามจังหวัดภาค
ใต้ ในระหว่างวันที่ ๑๕-๒๐ กันยายน ๒๕๔๗ ที่ผ่านมา ประกอบด้วย ๒
กิจกรรมหลัก คือ กิจกรรมอบรมเพื่อการเยียวยา โดยจัดกระบวนการกลุ่มเพื่อเอื้อให้ผู้หญิง
ได้กลับมาสัมผัสความรู้สึกของตนเองพร้อมทั้งพูดออกมา รวมทั้งตระหนักถึงพลัง
และศักยภาพภาพในฐานะผู้หญิง ที่ทำให้ตนสามารถเผชิญความทุกข์มาได้จนถึง
ทุกวันนี้
รวมทั้งร่วมกันคิดวิเคราะห์หาทางออกในกรณีที่กลุ่มมีความพร้อม
คือ สามารถทำงานเรื่องนี้ได้ อีกกิจกรรมหนึ่งคือการเยี่ยมบ้าน โดยจัดกิจกรรมดัง
กล่าวแก่ผู้หญิงในแต่ละจังหวัด ๓ ครั้ง ครั้งละ ๒ วัน ๑ คืน เพราะเห็นว่า
สถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน
โดยเฉพาะเหตุการณ์ในวัน
ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๔๗ ที่ผ่านมานั้น ผู้หญิงคือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง
เฉพาะอย่างยิ่ง ผลกระทบทางด้านจิตใจ แม้ผู้หญิงเหล่านั้นจะถูกระบุว่าสังกัดฝ่าย
ใดไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ก่อการหรือฝ่ายรัฐบาล สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกันคือ
มีชีวิตอยู่อย่างยากลำบากมากขึ้น ทั้งในแง่ของการประคับประคองตนเองและครอบครัวต่อไป
ผู้ที่ผ่านความทุกข์อย่างหนักหรือเหตุการณ์วิกฤต โดยเฉพาะที่ไม่ทันตั้งตัว
มักมี แนวโน้มหนีออกจากความรู้สึกของตนเอง
ขั้นตอนแรกของกระบวนการเยียวยาคือ
การกลับมาตระหนักรู้ความรู้สึกที่เกิดขึ้นข้างในตนเอง
เนื่องจากกลุ่มของผู้หญิงที่
เกิดขึ้นในการอบรมครั้งนี้... เราสามารถไว้ใจกันได้พอ จึงเอื้อให้เราพยายามทำ
งานกับตนเองอย่างเต็มที่ เมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรม ผู้หญิงส่วนมากระบุว่า
ไม่เคยนึกว่า จะมีคนที่เป็นทุกข์เหมือนกันกับตนเอง การที่ได้มาเข้ากระบวนการกลุ่ม
ทำให้ ตระหนักว่า ตนไม่ได้เป็นทุกข์อยู่คนเดียว และอาจจะยังมีคนที่เป็นทุกข์และเดือดร้อนกว่าตนอีกด้วย
บางคนบอกว่า
ตั้งแต่เกิดการสูญเสีย ยังไม่เคยรู้สึกสนุกและมี ความสุข หรือพอจะมีช่วงเวลาที่ลืมเรื่องการสูญเสียเหมือนอย่างตอนนี้
มีคนหนึ่งเล่าว่า หกเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่สามีจากไป เธอเข้มแข็งมาตลอดและไม่เคยได้
ร้องไห้เลย แม้กระทั่งตอนอยู่คนเดียว แต่พอมาถึงวงล้อมอันอบอุ่นของพี่น้องผู้หญิง
เพียงแค่ช่วงเริ่มต้นที่เธอได้แนะนำตัวเท่านั้น น้ำตาก็หลั่งรินออกมา
และหลังจากนั้น เราก็เห็นเธอพยายามอย่างยิ่ง ที่จะสัมผัสความรู้สึกเปราะบางของตนเองอย่างกล้าหาญ
นับแต่วินาทีแรก เราเห็นความเปลี่ยนแปลงในสีหน้าและแววตา ของเธอเหล่านั้น
ความกลัว ความหวาดระแวงค่อยจางคลายลง
แต่ก็มีบางท่านที่
สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปหลายคนยังมีแววตาแข็งกร้าว เหม่อลอย และมักจะ
หายไปอยู่ในโลกของเธอเสมอ ๆ แม้ว่าเธอจะยังนั่งอยู่ในกลุ่มและกระบวนการ
กลุ่มยังคงดำเนินต่อไป
และมีบางท่านที่แม้เราเห็นว่าสีหน้าและแววตาล้วนคลี่คลายขึ้น
หากเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมก็ยังบอกกับกลุ่มว่ายังรู้สึกหดหู่ หมดหวัง
นั่น อาจเป็นเพราะความทุกข์ที่เธอได้รับคงจะหนักหนาเกินกว่าที่หัวใจมนุษย์จะรับได้
ทั้งกระบวนการใด ๆ ก็คงไม่อาจจะคลี่คลายความทุกข์นั้นได้ในเวลาวันสองวัน
แต่
ก็มีอีกหลายคนที่พร้อมจะไปต่อ แม้จะเศร้าโศก เธอน้อมรับความเปลี่ยนแปลงของ
ชีวิตอย่างกล้าหาญ และเริ่มวางแผนอย่างเป็นรูปธรรมถึงชีวิตที่ยังอยู่ทั้งของตน
และลูกให้ก้าวเดินต่อไปอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การเยี่ยมบ้าน
ตอกย้ำ ถึงความรู้สึกอบอุ่น เป็นกำลังใจที่เรามีแก่กันและกัน อย่างไม่จำกัดภูมิภาค
ศาสนา และวัฒนธรรม ทำให้เราในฐานะผู้ไปเยี่ยมเยียน เห็นชัดเจนขึ้นถึงชีวิต
ความเป็นอยู่ที่เธอเหล่านั้นได้บอกเล่าในกิจกรรม
บางคนต้องเดินไปตัดยางไกล
เหลือเกิน เพื่อจะได้เงินสักห้าสิบบาท หรือร้อยหนึ่ง บางคนต้องให้ลูกกินนมข้น
หวาน เพราะไม่มีเงินพอและเข้าไม่ถึงการช่วยเหลือของรัฐ บางคนจะต้องไปให้
การที่ศาล ทั้งที่ หากไม่นับรายการโทรทัศน์แล้ว เธอเกี่ยวข้องน้อยมากกับโลกภายนอกหมู่บ้าน
โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ซึ่งใช้ภาษาที่เธอไม่คุ้นชิน
ลูกหลานตัวเล็กตัวน้อย
ที่วิ่งเล่นกระจองอแงหรือเกาะแน่นอยู่กับอกแม่ ต่อไปนี้กลายเป็น
โจทย์ใหญ่ที่หลายคนยังไม่รู้ว่าจะแก้อย่างไร แม้ว่าบางคนที่อยู่ในครอบครัวข้า
ราชการจะได้รับค่าชดเชยไปบ้าง หากเมื่อเทียบกับชีวิตของพ่อเด็ก และพิจารณา
ถึงหนี้สินที่มีอยู่ก่อนแล้ว ก็อาจทำให้ผู้เป็นแม่สบายใจขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
จึง เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการติดตามเรื่องค่าชดเชยต่าง ๆ ตามสิทธิที่เธอควรได้รับ
เราพบผู้หญิงที่ไม่สามารถมาเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อการเยียวยาที่จัดขึ้นด้วย
เธอ เหล่านั้นมีลูกเล็ก และโดยมากต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ผู้หญิงคนหนึ่ง
อาศัยอยู่ใน บ้านหลังเล็ก ๆ ที่จริงเราอยากจะเรียกว่ากระท่อมมากกว่า
เพื่อนบ้านเล่าว่า ทหาร เพิ่งมาซ่อมบ้านให้โดยเอาสังกะสีมากั้นเป็นผนังบ้าน
ไม่เช่นนั้นเราคงไม่อาจจะ เรียกว่าบ้านได้จริง ๆ
สามีของเธอจากไปเมื่อวันที่
๒๘ เมษายน เด็กที่อยู่ในท้อง ของเธอเมื่อตอนที่พ่อของแกจากไป ขณะนี้เกือบหกเดือน
เด็กคนนั้นมองมาที่พวก เราตาแป๋ว แกอาจจะเคยชินกับการมา "เยี่ยม"
ของใครหลายกลุ่มแล้วก็ได้ แม่แก ว่าเลี้ยงง่าย ไม่งอแง พวกเราขออุ้มและได้สัมผัสเนื้อนิ่มของแกแทบทุกคน
ซอบา ริเยาะห์คือชื่อของแก ซึ่งแปลว่าอดทน ถึงตรงนี้พวกเราก็แทบกลั้นน้ำตากันไม่อยู่
แล้ว แม่ของแกนัยน์ตาหม่นเศร้า ตอบคำถามของเราด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
นอก จากซอบาริเยาะห์แล้ว เธอมีลูกอีก ๓ คน และไม่มีรายได้จากทางไหนเลย
เพราะ ต้องเลี้ยงลูกอ่อนจึงไปตัดยางที่จะทำให้ได้เงินวันละ ๕๐ บาทไม่ได้
เธอจึงอยู่ได้ ด้วยความช่วยเหลือของเพื่อนบ้าน เราบางคนก็น้ำตาริน
และเตรียมตัวไปขึ้นรถแล้ว ทั้งที่ยังมีเวลาอีกมาก
ผลลัพธ์ที่เหมือนกันเมื่อเสร็จสิ้นกิจกรรมที่จัดแก่ผู้หญิงทุกกลุ่ม
คือข้อเสนอให้จัด เวทีที่ได้มาพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นกำลังใจซึ่งกันและอย่างนี้อีก
โดยเฉพาะต้องการ ให้ผู้หญิงผู้สูญเสียคนอื่น ๆ ที่ไม่มีโอกาสมาเข้าร่วมครั้งนี้
ได้มาร่วมกิจกรรมด้วย
ทั้งนี้
กลุ่มที่มีความพร้อมได้นัดหมายเพื่อพบปะกันเองในกลุ่มย่อย นอกจากนั้น
ยังมีความห่วงใยถึงเด็กและเยาวชนในชุมชนซึ่งก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจ
เช่นกัน เรารู้ดีว่าสองวันนี้เป็นช่วงเวลาแสนสั้น เราและเธอเหล่านั้นจะต้องกลับไปสู่
ชีวิตจริง ซึ่งแน่นอนว่า ความทุกข์ ความเศร้าโศกซึมเศร้า ย่อมมีโอกาสหวนกลับ
มาได้อีก ดีที่สุดที่เราทำได้ในตอนนี้ คือความสามารถสัมผัสถึงพลังความมั่นคง
ภายในที่เราทุกคนต่างก็มีอยู่แล้ว และแน่นอนว่า เราในฐานะเพื่อนผู้มาเยือนได้
เรียนรู้และตอกย้ำความเชื่อมั่นที่ว่า ผู้หญิงนั้นเข้มแข็งเหลือเกิน
เครือข่ายผู้หญิงเพื่อสันติภาพมีความพยายามที่จะสร้างสานพลังและกำลังใจ
โดย จะนัดหมายกันเดินทางไปเยี่ยมบ้านผู้หญิงผู้สูญเสียอีกครั้งในระหว่างการถือศีลอด
และถือเป็นช่วงปีใหม่ของชาวมุสลิมด้วย ในฐานะพี่น้องผู้หญิง เราจะร่วมเป็น
ประจักษ์พยานในการบำเพ็ญบุญบารมีของพี่น้องมุสลิม พร้อมทั้งส่งต่อกำลังใจ
ผ่านรูปธรรมการช่วยเหลือพื้นฐานในด้านความจำเป็นเร่งด่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเงิน
ทอง เสื้อผ้า อาหาร ฯลฯ และถือโอกาสวางแผนร่วมกับผู้หญิงผู้สูญเสียให้ชัดเจน
ขึ้นถึงการทำงานร่วมกันในอนาคต
กำลังใจของท่านเป็นแรงพลังให้เรายังคงมีหวังและทำงานกันต่อไปได้
ขอสันติสุข จงมีแด่ทุกท่าน ขอสันติสุขจงมีแก่ทุกท่าน.
อัญญิก พุทธิพงศ์
เครือข่ายผู้หญิงเพื่อสันติภาพ
|