หนุ่มสาวดัดจริต > ทริปนี้ที่ลียง หนีไส้กรอกไปกินเครป

 

กลับมาจากลียงได้สองอาทิตย์แล้วครับ หายเหนื่อยจากการเดินทางแล้ว แต่ยังไม่หายอิ่มอกอิ่มใจจากงาน ทีแรกนึกท้อใจระยะทางอยู่ ลียงอยู่ตอนกลางของฝรั่งเศสก็จริง แต่ค่อนไปทางใต้อยู่มาก เพื่อนจากเดนมาร์กใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าชั่วโมง เพื่อนจากฮัมบวร์กก็ต้องขึ้นรถตั้งแต่ตอนบ่าย เดินทางกันข้ามคืนค่อยถึงจุดหมาย ที่สำคัญหญิงสาวของผมไม่ว่างไปด้วยสิหนนี้ แต่พอมีคนกระซิบว่า ประชากรนักเรียนไทยในฝรั่งเศสเก้าสิบเปอร์เซนต์เป็นผู้หญิง ผมก็ตาโตหูตั้ง อืม… เหตุผลที่จะไปลียงค่อยดูมีน้ำหนักขึ้นมาหน่อย หญิงสาวของผมไม่ว่าง แต่สาว ๆ ที่ฝรั่งเศสทั้งเก้าสิบเปอร์เซนต์คงจะว่างบ้างแหละ


งานชุมนุมนักเรียนไทยในยุโรปคราวนี้ถือได้ว่าจัดกันมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สามก็ว่าได้ ปีแรกคือ พ.ศ. 2543 นักเรียนไทยในเยอรมันยกขบวนไปหนึ่งคันรถ โดยมีนักเรียนไทยในฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ นอนกันที่วัดไทยใกล้ปารีส ปีถัดมานักเรียนไทยในฝรั่งเศสมาเยี่ยมเยือนถึงเบอร์ลิน และมีเพื่อนนักเรียนไทยจากประเทศอื่น เช่น อังกฤษ เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวิสเซอร์แลนด์ มาร่วมด้วย ยิ่งจัดจำนวนผู้สนใจเข้าร่วมงานก็เพิ่มขึ้นทุกปี ปีนี้จัดที่ลียง มีนักเรียนไทยมารวมกันเกือบสามร้อยคนได้ คนที่ไปร่วมงานมากกว่าหนึ่งครั้งเริ่มจะจำหน้าเพื่อนที่อยู่คนละประเทศกันได้ นี่ขนาดเจอกันปีละหนนะครับ ถ้าเจอกันบ่อยครั้งกว่านี้คงจะรักกันจี๋ทีเดียว


ในตอนเช้าของวันที่ 29 มีนาคม รถบัสจากเยอรมันทั้งสายเหนือสายใต้ก็มาถึงมหาวิทยาลัยลียง 3 พอพวกเราทยอยลงมาจากรสบัส ก็ถูกต้อนให้ไปยืนรวมกันตรงกลาง ล้อมรอบด้วยเพื่อน ๆ จากฝรั่งเศส ที่ร่วมกันเปล่งเสียงร้องเพลงต้อนรับ พร้อมกับประกาศเรียกชื่อผู้โชคดีให้ไปดื่มนมที่เตรียมไว้ ผู้โชคดีฝ่ายชายคือพี่บุญยัง จากคัสเซล ฝ่ายหญิงคือน้องเจ จากฟรายบวร์ก ทั้งสองคนไม่ทำให้ผิดหวัง ดื่มนมกล่องคนละลิตรได้อย่างสบาย ๆ และหลังจากได้รับแจกอมยิ้มเป็นที่เรียบร้อยทุกคนแล้ว ฝูงนักเรียนไทยผู้มาเยือนก็ถูกต้อนเข้าห้องประชุม ท่านกงสุลไทยประจำลียง ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ได้กล่าวเปิดงานต้อนรับพวกเรา บรรยากาศชื่นมื่นมาก คนเต็มห้องดูละลานตาไปหมด ที่แน่ ๆ สาวน้อยไทยในฝรั่งเศสมีมากมายจริง ๆ ดูแล้วชื่นตาชื่นใจครับ


จากนั้นก็แบ่งกลุ่มเป็นสี มีแดงเลือดหมู เขียวตองอ่อน ชมพู แล้วก็เหลือง ทุกคนได้รับแจกป้ายเขียนชื่อประจำตัวตามสี และแฟ้มบรรจุข้อมูลเกี่ยวกับงาน มีกำหนดการ เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อคีย์แมนทุกคนได้ ที่อยู่ของสถานที่จัดงานต่าง ๆ เนื้อเพลงหลายสิบ มีสอนคำศัพท์ฝรั่งเศส แผนที่ลียงภาษาเยอรมัน ทั้งหมดทั้งนั้นคงมีไว้เผื่อพวกชอบหลงทางกระมังครับ แต่ละสีก็แบ่งเป็นกลุ่มย่อยอีก ผมอยู่สีแดงเลือดหมู ที่ถูกเปลี่ยนชื่อไปเรื่อย ๆ เป็น หมูแดงบ้าง ข้าวขาหมูบ้าง ในบางที หัวหน้ากลุ่มเป็นสาวลียงหุ่นบอบบาง ท่าทางคล่องแคล่ว กลุ่มเราไม่ค่อยหลงเพราะมีน้องน้อย ที่ตัวไม่น้อยเท่าไหร่ เป็นกองหลัง คอยต้อนให้ลูกกลุ่มไม่หลุดฝูง


แบ่งกลุ่มเสร็จก็ได้เวลารับประทานอาหารกลางวันพอดี โรงอาหารมหาวิทยาลัยในวันนั้นเหมือนเปิดเพื่อเราโดยเฉพาะ อาหารอร่อยมากครับ มีหลายอย่างให้เลือก พร้อมของหวานปิดท้าย อิ่มหมีพีมันแล้วก็เริ่มโปรแกรมเดินแรลลีในลียงกัน มีฐานทั้งหมด 7 ฐาน ตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของเมือง เราไม่ได้เดินกันตลอดหรอกนะครับ เดินบ้าง นั่งรถรางบ้าง ลงรถใต้ดินบ้าง ขึ้นรถกระเช้าบ้าง ไม่งั้นคงขาลากแน่ ๆ


ลียงเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของฝรั่งเศส เป็นรองก็เฉพาะแต่ปารีสเท่านั้น แม่น้ำสำคัญสองสายที่ไหลผ่านชื่อ SAONE กับ RHONE ฟังไกด์ลียงออกเสียงได้ว่า โซน กะ โฮน (ผมงี้ขำกิ๊กเลย เพราะนึกถึงเรื่องพิภพมัจจุราชที่มีตัวละครชื่อ ห้อยกะโหน) เฉพาะเขตเมืองเก่าเท่านั้นที่ถือว่าเป็นมรดกโลก แปลว่าจะได้เงินสนับสนุนในการบูรณะจากยูเนสโก


จุดสำคัญที่ไกด์น่ารักพาไปชมเริ่มที่ City Hall ของเมือง สร้างขึ้นปี ค.ศ. 1646 มีหน้าบันที่สวยมาก ลานกว้างข้างหน้าเป็นสวนน้ำพุ ผมถือโอกาสรดน้ำสงกรานต์สาว ๆ ก็ตอนนี้แหละ จากนั้นก็ขึ้นไปชมวิวเมืองลียงที่ Notre-Dame de Fouviere โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงสุดของเมือง รูปทรงโบสถ์คล้ายกับรูปช้างหงายเท้าชี้ฟ้า ตรงงวงมีรูปปั้นพระแม่มาเรียสีทองตั้งอยู่โดดเด่น ตัวโบสถ์ด้านในสวยมากครับ มีกระเบื้องโมเสคชิ้นเล็ก ๆ ละเอียดเรียงกันเป็นภาพขนาดใหญ่ทั่วทั้งโบสถ์ โบสถ์นี้มองเห็นได้แต่ไกล เป็นสัญลักษณ์ของเมือง เหมือนกับวัดบนดอยสุเทพเลยครับ พอขึ้นเขาเสร็จก็เดินลงเขามาชมโรงละครและโรงโอเปราของพวกโรมัน ที่สร้างขึ้นราว 15 ปีก่อนคริสต์ศักราช บรรจุผู้ชมได้ถึง 10000 คน


ไกด์พาเดินต่อไปถึงเขตเมืองเก่า นักท่องเที่ยวเดินกันเต็ม ร้านรวงน่านั่ง อดนึกถึงคนที่ไม่ได้มาด้วยไม่ได้ เครปมีขายอยู่ตลอดทาง แต่เราก็ไม่มีโอกาสหยุดเดินหม่ำอะไรสักเท่าไหร่ หยุดได้เฉพาะฐานที่เตรียมเกมไว้ให้เราเล่น อย่างเกมลิงเกาะต้นไม้ เกมส่งหนังยาง เกมเกี้ยวคนเดินผ่าน เกมเศรษฐี เกมจดชื่อร้าน โอย สารพัดจะสรรหามาให้เราเล่น แต่ละเกมทำความขายหน้าให้กับคนเล่นทั้งนั้น สถานที่ก็มีคนเดินพลุกพล่านตลอด หยั่งให้หาคนนุ่งกางเกงในสีแดงมาโชว์ตัวน่ะ มันจะหาได้ยังไงล่ะ


เขตเมืองเก่าเราได้เห็นตึกแบบเก่า ๆ มากมาย รูปทรงตึกน่าสนใจ สีสันสดใส หน้าต่างทรงแปลกตา บันไดหินที่มีอยู่ทั่วไป ตึกหลายแห่งวาดรูปที่ผนังด้านข้างทั้งตึก หลอกตาว่าเป็นภาพจริงก็มี ที่น่าตื่นเต้นก็คือ เขตที่เรียกว่า Village of Lyon มีทางเดินขนาดใหญ่เจาะผ่านด้านล่างตัวตึกหลายตึก เป็นทางลัดไปถนนเส้นต่าง ๆ ในเมือง กว้างขนาดขี่ม้าผ่านได้อย่างสบาย ๆ อาจจะเพราะลียงสมัยโบราณเป็นเมืองค้าเมืองขาย มีชื่อเสียงมากทางด้านการผลิตผ้าไหม ทางเดินพวกนี้มีไว้ขนถ่ายสินค้าเป็นหลัก ไกด์ยังพาไปดูอีกหลายแห่ง แต่ผมเริ่มเมาเมืองเก่าแล้ว เมืองใหญ่ขนาดนี้ ต้องเดินสักสองสามวัน พิพิธภัณฑ์น่าสนใจยังมีอีกหลายแห่ง ไว้รอมากับคนที่ยังไม่ได้มาเที่ยวหลังดีกว่า


พอโปรแกรมแรลลีจบ เราก็เข้าที่พัก เป็นโรงแรมเยาวชนราคาย่อมเยา ห้องพักกว้างขวาง สะอาด สบาย ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องเข้าห้องน้ำ อาบน้ำ หรือทานอาหาร เพราะมีห้องน้ำในตัว และห้องรับประทานอาหารเช้าอยู่ด้านล่าง พวกเราเกือบสามร้อยคนก็ทำให้โรงแรมเต็มแล้ว เพื่อนชาวฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งต้องเสียสละไปพักที่โรงแรมอื่น แว่วว่าไม่ค่อยสบายเหมือนที่พวกเราอยู่ ได้แต่นึกเกรงใจ แล้วก็ขอแสดงความขอบคุณมาตรงนี้ด้วย


โปรแกรมวันนี้ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา ได้เดินทางมาจากอังกฤษ เพื่อพบปะนักเรียนที่ลียง ได้เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามปัญหาต่าง ๆ เป็นพิเศษ เสียดายที่ห้องประชุมค่อนข้างเล็ก ผมกำลังหิวตาลาย เลยขอตัวนั่งอยู่ด้านนอก เพื่อนคนไหนมีข้อมูลเพิ่มเติมส่วนนี้ช่วยเขียนเล่าด้วยนะครับ เสร็จจากประชุมมีโปรแกรมนำชมลียงภาคกลางคืน เพราะสถานที่สำคัญกว่า 150 แห่ง จะประดับประดาด้วยไฟ สวยงามมากครับ


รุ่งขึ้นอีกวัน หลังจากรับประทานอาหารเช้าอิ่มหนำแล้ว เราก็เคลื่อนขบวนไปสถานที่แข่งขันกีฬา คือมหาวิทยาลัยลียง 3 นั่นเอง เริ่มด้วยฟุตบอล กองเชียร์ฝรั่งเศสนำโดย น้องฝน น้องนุ่น ส่วนกองเชียร์เยอรมันนำโดย พี่ท็อป พี่บุญยัง ผลการแข่งขันก็คือ ทางด้านฟุตบอล เยอรมันได้รองชนะเลิศ ฝรั่งเศสได้รองบ๊วย ทางด้านกองเชียร์ยังไม่ปรากฎแพ้ชนะต้องแข่งต่อไปอีก


พอกลับเข้ามาในโรงยิม หลังจากหม่ำข้าวกลางวันเป็นที่เรียบร้อย กองเชียร์เยอรมันอีกส่วน ที่แอบหนีมาซ้อมเชียร์เป็นพิเศษ นำโดย น้องเพิร์ล พี่เล้ง พี่อู ก็สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ทุกคน เพราะมีขึ้นอัฒจันทร์แปรอักษร ร้องเพลงประกอบท่าทาง สนุกสนานไปตาม ๆ กัน กองเชียร์ฝรั่งเศสก็ใช่ย่อย เชียร์หลีดเดอร์สาว น้องเอ๋ น้องช่า น้อง… (ขออภัยครับ จำไม่ได้แล้ว สาว ๆ เยอะเหลือเกิน) ก็ทำให้ทุกคนตื่นตากับท่าเต้นน่าตื่นใจ อาจจะเพราะเชียร์ดีเกินไปก็เป็นได้นะครับ ชัยชนะของวอลเลย์บอลหญิงเลยตกมาอยู่กับฝ่ายเยอรมัน หลังจากนั้นก็มีแข่งบาสเกตบอลแบบพอสนุก ๆ แล้วก็เกมระหว่างสีอีกนิดหน่อย ที่สนุกและตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็น เกมเหยียบลูกโป่งของผู้หญิง ตื่นเต้นมากครับ สาว ๆ เขาไล่เหยียบลูกโป่งกันอย่างจริงจัง ประกอบเสียงวี้ดว้าย หนุ่ม ๆ ได้แต่ล้อมวงดูเป็นกำลังใจ


เสร็จสิ้นจากการแข่งขันกีฬาก็เคลื่อนขบวนไปสถานที่จัดงานกลางคืน หลายคนเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นชุดไทยตามที่เจ้าภาพได้แจ้งไว้ล่วงหน้า สาวฝรั่งเศสกลุ่มหนึ่งถึงกับนุ่งซิ่นทอมือกันทั้งกลุ่ม สาวเยอรมันจากฮัมบวร์กก็ใช่ย่อย น้องฝนแต่งชุดไทยห่มสไบ น้องบีแต่งผ้าไหมไม่น้อยหน้า พี่ทินยานุ่งผ้าขาวม้าทอมือสีสวยเดินเท้าเปล่าทั้งงาน อาหารอร่อยเหมือนเคย การแสดงบนเวทีมี รำแม่ศรี นางรำฝรั่งเศสคนเดิมจากงานปารีสและแบร์ลีน เกมโชว์ พิธีกรคือ น้องเจ น้อง… (ขออภัยลืมชื่ออีกแล้วครับ จำได้ว่ามาจากมันไฮม์) จับฉลากรายชื่อผู้โชคดีให้ขึ้นไปเล่นเกม ตามด้วยลิเกรวมดารา นำโดย พระอภัยเอก ผีเสื้อสมุทรโอ๊ะ นางเงือกไก่อู และพี่ประมวล นายกสนทฝ. คนปัจจุบัน ร้องพากษ์โดยพี่บุญยัง ต่อด้วยร้องเพลงคลอกีตาร์จากนักเรียนไทยประเทศรวมมิตร คือ ฝรั่งเศส เยอรมัน เดนมาร์ก ลำตัดคณะปารีส แม่แดง แม่เฟย์ พ่อต้อย กลอนลำตัดสนุกมากครับ ขอมาโพสต์เพิ่มเติมในเว็บบอร์ดได้หรือเปล่า ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าคนรุ่นใหม่จะร้องลำตัดกันได้ อยู่ห่างไกลจากเมืองไทย แล้วยังมีโอกาสมาได้ฟังสด ๆ ถึงลียง ถือว่าเป็นเรื่องโชคดีจริง ๆ นะครับ ปิดงานด้วยวงกลองยาวจาก สนทย. เหมือนเคย เสียดายว่าคราวนี้เวลาน้อย เพราะขลุกขลักเรื่องรถรับส่งเล็กน้อย และต้องกล่าวคำอำลาเพื่อนจากปารีสราวเจ็ดสิบคนที่ต้องแยกเดินทางกลับตั้งแต่คืนนั้น อย่างไรก็ตามก็ถือได้ว่า พวกเราได้รับความสนุกสนานตามควร


เช้าของวันที่ 1 เมษายน April Fool Day พี่เอก นายก สนทย. ได้รับคำชมว่าดูหล่อและหนุ่มขึ้น ถึงกับยิ้มไม่หุบเลยทีเดียว เสื้อยืดที่ระลึกงานลียงยังขายอยู่จนวินาทีสุดท้าย พี่จูน ฮัมบวร์กก็ใช่ย่อย ขนเอาเสื้อ สนทย. ไปเดินขายให้น้องชาวฝรั่งเศสที่เหลือ ตะโกนว่า "ซื้อเสื้อ แถมสร้อย ซื้อเสื้อ แถมสร้อย" ขายหมดจนได้ครับล๊อตนี้ เมื่อตรวจกำลังพลแล้ว ไม่พบว่าใครนอนอุตุตกค้างอยู่ในห้องไหนอีก รถบัสเยอรมันทั้งสองคันก็เคลื่อนออกจากลียง มุ่งหน้าพาทุกคนกลับบ้าน


งานนี้เสร็จสิ้นลงด้วยดี คณะกรรมการ สนทฝ. ชุดใหม่ คงเหนื่อยพอดูกับการเตรียมงาน ทั้งที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่ถึงสองเดือน เจ้าบ้านที่ลียงทั้ง 8 คน ก็รับภาระไม่น้อย คณะกรรมการ สนทฝ. ชุดเก่าก็มากันเกือบครบ เพื่อนชาวฝรั่งเศสก็รับหน้าที่เจ้าภาพอย่างเต็มที่ เต็มใจตอบคำถามทุกคำถาม เป็นธุระเรื่องที่พัก เรื่องอาหาร สตาฟบางคนแทบไม่ได้เจอหน้าเพื่อนจากเยอรมันเลย เพราะต้องขนของ ทำงานอยู่ในครัว เป็นต้น ต้องขอแสดงความขอบคุณและขอปรบมือชื่นชมมา ณ ที่นี้ครับ


กลับมาถึงบ้าน ผมสลบไปเกือบสองวัน คนที่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยทำท่าว่าจะอิจฉาขึ้นมา ได้แต่ปลอบใจไปว่า ปีหน้าเขาก็คงจะจัดอีก ยังไงก็คงเป็นงานประจำปีของนักเรียนไทยในยุโรปไปเสียแล้ว โอกาสที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ข้ามประเทศ ทำความรู้จักมักคุ้นกันก็คงมีอีก จะเป็นที่ไหนก็ยังไม่รู้ แต่ภาวนาขอให้อย่าได้ต้องเดินทางกันไกลมากเลย สังขารมันเริ่มไม่อำนวยแล้วไงครับ ยิ่งจัดยิ่งสนุก ยิ่งเจอคนมากยิ่งรู้สึกว่าเยอรมันมันเล็กนิดเดียว การเดินทางและเจอเพื่อนใหม่ทำให้ได้เห็นอะไรเพิ่มขึ้นมากมายเลย เยอรมันเล็กลง โลกเล็กลง แต่การรวมตัวกันทำให้เกิดพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มเข้าใจแล้วล่ะครับ ว่าบรรดานักเรียนไทยในยุโรปเขารวมตัวกันทางความคิด ในยุคก่อนที่หลวงประดิษฐ์มนูญธรรมจะเดินทางกลับเมืองไทยอย่างไร

 

ใบไม้เสเพล



หน้าแรก
| ปัญญาชนสยาม | หนุ่มสาวดัดจริต | กังวานเกี่ยวข้อง | ข้าวตอกดอกมะเขือ | กลับสู่ด้านบน

เว็บไซต์นี้จัดทำด้วยความกระตือรือล้นของใครหลายคนนั้น
ก้อนหิน และหรือดอกไม้ กรุณาหารือกับนักการ
พยายามปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๖