|
|
๏
ครืนครืนฟ้าส่งเสียงคำรามครวญ |
อกปั่นป่วนใจสั่นสะท้านโหย |
แส้ฝนคะนองฟาดตวาดโบย |
โอยกลิ่นดินอบหล้าวายุวาร
ฯ |
|
|
๏
แลบฟ้าปราบเปรี้ยงสำเนียงชัด |
ถนัดซัดส่าซาดดูฉาดฉาน |
อาเพศอากาศล้นพ้นประมาณ |
ดังประหารขวัญผู้คนพลเมือง
ฯ |
|
|
๏
อนาถนักนรชนรุ่งปัญญา |
เข่นฆ่าฟาดฟันจนฟ้าเหลือง |
เล่ห์อัตตาหลงดีจึงเปล่าเปลือง |
ขัดเคืองข้องติดมมังการ
ฯ |
|
|
๏
ฟ้ากะลาครอบอยู่ทุกถิ่นที่ |
กะลาดีกะลาเลวเคาะขับขาน |
เบ่งบ้ากะลาใหญ่คับจักรวาล |
กลวงกระบาลกึกก้องกระเดื่องดี
ฯ |
|
|
๏
เพลิดเพลินอยู่ในเพลงกะลาแก้ว |
วิจิตรแพร้วเทพนิมิตรประสิทธิ์ศรี |
วิพากษ์ผิดถูกบูชาแม่กาลี |
ถวายพลีซากทัศนะแตกต่างตน
ฯ |
|
|
๏
ดุริยางค์หอยแซ่ซร้องสรรเสริญ |
อัญเชิญสู่รุ้งฟ้าเวหาหน |
นิ่มปัญญาต้องรู้ที่เจียมตน |
เลศกลทิงเจอร์อย่าตอแย
ฯ |
|
|
๏
เวไนยไวยากรณ์กลับชาติเกิด |
เทิดแต่ฉันทลักษณ์น่ารักตอแหล |
มิรู้กำซาบสุนทรียรสฤดีแด |
เสี้ยวดวงแขจึ่งกลายฝีท้องจันทร์
ฯ |
|
|
๏
ชื่นชมตราชูไม่ดูรากเหง้า |
แมลงเม่ามาตรฐานเดียวน่าขบขัน |
ศิโรราบกราบกรานมีรางวัล |
วิสามัญสามัคคีทฤษฎีเผด็จการ
ฯ |
|
|
๏
ระยำล้ำเลิศเหล่าพาลาหมาหมู่ |
อุ้มชูคุณธรรมมิ่งมิตรเดรัจฉาน |
ยอมตายเพื่อสหายคือปณิธาน |
เพลิงนรกานต์ผลาญทุกชาติไม่ปรารมภ์
ฯ |
|
|
๏
พระเสื้อเมืองทรงเมืองหลั่งน้ำเนตร |
อาเพศวิปริตนครอกไหม้ขม |
สงครามสัปปุรุษอินทร์รบพรหม |
ธรรมารมณ์แหลกสิ้นไม่เหลืองาม
ฯ |
|
|
๏
เทพารักษ์หลักเมืองก็หวั่นก็ไหว |
สนิมเนื้อใจกร่อนกร้อนน่าคร้ามน่าขาม |
ดีต่อดีสุดจะเลือกอยู่ข้างนิยาม |
ทั้งหวั่นลุกลามเนื้อร้ายทำลายดี
ฯ |
|
|
๏
อกภูิติบ้านผีเมืองปวดรวดร้าว |
วาวอารยะแปดเปื้อนหม่นหมองศรี |
เกียรติยศสัตตบุรุษถูกย่ำยี |
ใช้แทนที่คำนำหน้าชาติจัญไร
ฯ |
|
|
๏
สุภาพชนนั้นอยู่ที่นับถือตน |
คนหมิ่นคนจักทำได้ฤาไฉน |
หากยกตนข่มท่านเหนือผู้ใด |
แท้คือไพร่ในนิสสัยกมลสันดาน
ฯ |
|
|
๏
ปางโจรร้ายจักได้ครองบุญ |
ขอคุณเทพไท้เทพารักษ์พิทักษ์สถาน |
เลิกปกป้องนรชนผู้รอนราน |
ผลาญบุราณสมบัติวิบัติอาดูร
ฯ |
|
|
๏
แม้นข้าน้อยจักเถลิงเดชแลยศ |
ทุกทศทิศชาติคนดีจงสาบสูญ |
จักปลูกฝังคุณพระรัตนตรัยให้เพิ่มพูน |
ทั้งเทิดทูนจรรยามนุษย์ใหม่ไร้ราคี
ฯ |
|
|
๏
หวังสลาย "ตัวข้า" เข้าสู่ "เรา" |
เป็นเผ่าพันธุ์ใจวิสุทธิ์บริสุทธิ์ศรี |
อัตตาปัจเจกถวายเป็นสังฆะพลี |
รู้ยินดีสมดุลสันโดษสังคม
ฯ |
|
|
๏
แยกแยะมนุษย์สัตว์กระจ่างชัด |
ทิพย์รัตน์มณีปัญญาสง่าสม |
อหิงสาย่อมแย้งยุทธนิยม |
ร้ายอารมณ์ดับด้วยมหากรุณา
ฯ |
|
|
๏
เลิกสมมติวาทกรรมคนล้ำเลิศ |
เทิดธรรมแท้แม้ไร้ลัทธิศาสนา |
ถือคุณงามความดีเป็นศาสดา |
เพียงศรัทธาประโยชน์โลกยิ่งกว่าตน
ฯ |
|
|
๏
มุ่งยึดถืออุดมคติอันวิเศษ |
หวังล้างเลศโอหังด้วยวิริยะผล |
แม้นถูกหมิ่นว่าเพ้อฝันไม่ทุรน |
ดีกว่าทนจ่อมอาจมไม่ล้างตัว
ฯ |
|
|
๏
นี้คือคำอธิษฐานอันล้ำค่า |
กาละเวลาเหล่าคนดีไร้ค่าหัว |
ชาติสามานย์จักครองเมืองอย่าหวั่นกลัว |
ชั่วกลายดีชะตาหม่นสลายคลาย
ฯ |
|
|
๏
ขับเทพเจ้าผู้พิทักษ์นรชน |
อย่ารู้ผจญมารอภิบาลฉิบหาย |
ถึงวาระคนดีจักวอดวาย |
อย่าเสียดายถอยห่างเกรงบุญโจร
๚ะ๛
|
|
|
|
ชลนภา
อนุกูล |
|
ซาร์บรึคเคน,
๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๗ |