หนุ่มสาวดัดจริต > สุนทรียสนทนา

สวัสดีค่ะ

ได้รับมอบหมายให้มาเกริ่นนำเรื่อง “สุนทรียสนทนา” หรือ “ไดอะล็อค” สักเล็กน้อย
เพื่อเป็นน้ำจิ้ม หรือ aperitif ก่อนที่พวกเราจะเข้าร่วมกิจกรรมกันนะคะ
เนื่องจากมีการพูดกันหลายครั้งในกลุ่ม circle of friends เรื่องการทำ Dialogue
หรือ สุนทรียสนทนา (ไม่ใช่เรื่องเม๊าท์ดร. โด่ง สุนทรียา นะคะ)
พี่ชัยวัฒน์บอกว่า ถ้าจะทำ Dialogue ต้องใช้เวลาซัก ๒ วันถึงจะดี
แต่เนื่องจากพี่ชัยวัฒน์เองก็งานยุ่งมาก ต้องรออีกหลายเดือน
เราพวกวัยสะรุ่นใจร้อน กว่าจะนัดกันได้
ไม่รู้ใครจะไม่ว่างอีกเลยจัดกันเองแบบสั้น ๆ คือ ๑ วัน

เคยจัด Dialogue กับกลุ่มผู้ใหญ่รุ่นอาจารย์ประเวศแบบครึ่งวัน
ที่มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติมาแล้ว ท่านทั้งหลายประทับใจมาก อาจารย์เอกวิทย์ ณ
ถลาง ถึงกับร่ายธรรมชาติรอบห้องประชุมให้ฟังได้อย่างไพเราะ
เราจึงมั่นใจในสถานที่ตรงนี้ ที่วังสราญรมย์ก็อยากไปค่ะ เห็นว่าสวย
เพื่อนหลายคนเรียกร้องโหยหาสวน แต่ยังหาเวลาไป survey ไม่ได้เลยค่ะ
เอาเป็นว่าเจอกันตรงนี้ก่อนก็แล้วกันนะคะ เราต้องใช้สมาธิกันพอสมควร
ตอนบ่ายมีห้องแอร์ด้วย จะได้เย็นหน่อย

อย่างไรก็ตาม ดังที่อาจารย์เอเชียได้บอกเราว่า
จะมีการประชุมของกรรมการมูลนิธิในตอนเช้า ดังนั้นเราจะได้นั่งในสวนสมกับที่ดร.
ยู ต้องการเลยค่ะ เปอร์เฟ็ค (เพราะห้องประชุมไม่ว่างตอนเช้า)
เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิชื่อ คุณแอน เป็นศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ เธอน่ารักมาก
เตรียมเสื่อไว้ให้เสร็จสรรพ แต่ถ้าใครมีเสื่อ สามารถพกไปได้ไม่ลำบาก
ก็เอามาเผื่อด้วยก็ดีค่ะ มีต้นไม้ร่มรื่น มีเสียงน้ำพุเบา ๆ
(ไม่รู้เปิดหรือเปล่า วันเสาร์) แต่บรรยากาศใช้ได้เลยค่ะ
ได้รู้จักองค์กรเพื่อนใหม่ด้วย หรือจะยืมคำของพี่ชัยวัฒน์
ที่เรียกว่าสัมพันธมิตร ก็ได้

พูดถึง “ไดอะล็อค”  ตามธรรมเนียมจะต้องกล่าวถึงบุคคลคนหนึ่งก่อนค่ะ เขาคือ
David Bohm นักฟิสิกส์ผู้ยิ่งใหญ่แต่ไม่มีใครรู้จัก
เป็นผู้ที่อธิบายควันตัมฟิสิกส์ให้ไอน์สไตน์ฟัง
และไอน์สไตน์ก็มักจะเครดิตให้เขาเสมอ
ในฐานะเป็นผู้ที่ทำให้ไอน์สไตน์เข้าใจได้ถึงหลักการของควันตัมเป็นอย่างดี
(ต่อไปนี้เมืองไทยเรามีผู้ที่อธิบายควันตัมให้คนไทยเข้าใจแล้วเหมือนกันนะคะ
ใครพลาดการบรรยาย “ควันตัมและเอ็ง” เมื่อ ๒ อาทิตย์ที่แล้ว ไม่เป็นไร
คราวนี้ดร. ยูบอกว่าถามเพิ่มเติมได้ค่ะ)

เดวิด โบห์ม คนนี้เองเป็นผู้ที่เขียนหนังสือ On Dialogue ขึ้นมา
โดยมีสาระสำคัญคือการเรียกพลังจากการสนทนาที่แต่เดิมสูญเสียไปกับอะไรไม่รู้เปลี่ยนมาเป็นกระบวนการการเรียนรู้ร่วมกัน
ทุกวันนี้เราขาดการเรียนรู้ร่วมกัน ต่างคนต่างเรียน
มันทำให้สังคมขาดความเชื่อมโยง และทำให้เกิดตัวตน เป็นปัจเจกมากขึ้น
มองคนมองสังคมเป็นดำกับขาว และในที่สุดก็เกิดความขัดแย้ง หลายท่านบอกว่า
Dialogue มีหลักการเดียวกันกับการสนทนาของหมู่บ้านพลัม ที่เน้นเรื่อง สังฆะ และ
deep listening ซึ่งเป็นการภาวนาไปด้วยในขณะสนทนา และเป็นเรื่องเดียวกันกับ
Dialogue ของท่านกฤษณมูรติ

อาจารย์เอเชีย ร่วมกับกลุ่มทางเชียงราย คุณวิศิษฐ์ วังวิญญูและหมอวิธาน
ฐานะวุฑฒ์ จัด Dialogue ให้กับชาวบ้านทั่วประเทศ เพิ่งลงใต้กันไป พี่ชัยวัฒน์
ก็จัด Dialogue ที่น่าน คราวนี้ได้ตัวแกนนำมาร่วมกลุ่มกับเรา คือดร. เอเชีย
น่าดีใจมากค่ะ

ขออธิบายสั้น ๆ เท่านี้ละกันค่ะ เพราะไม่ทำเองไม่รู้ 
เอาเป็นว่าพบกันวันเสาร์นี้นะคะ ๙.๓๐ น. ที่มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ
ใครไปไม่ถูก โทรมาถามก็ได้ค่ะ เบอร์จา 0x xxxx xx

ด้วยความเคารพ
จารุพรรณ กุลดิลก (จา)
 

สรุปสั้น ๆ 

 
สุนทรียสนทนา เป็นเรื่องที่นักฟิสิกส์ชื่อ David Bohm ได้เขียนไว้ในหนังสือ On Dialogue ซึ่งจะต่างจาก Dialogue between Dalai Lama and Scientist และต่างจาก Dialogue แบบที่เคยได้ยินกันมา David Bohm เป็นผู้ที่เข้าใจ Quantum Physics อย่างถ่องแท้ และเป็นผู้ที่ทำให้ Einstein เข้าใจในเรื่องนี้ David Bohm สนใจเรื่องพื้นที่ที่มองไม่เห็น โดยเฉพาะเรื่องความคิด ซึ่งพบว่า ความคิด เป็นเรื่องของส่วนรวมไม่ใช่ปัจเจก และปัญหาที่เกิดบนโลกนี้เกิดจากการไม่เข้าใจกระบวนการ "การเกิดความคิด" หลักการของ Dialogue จะคล้ายคลึงกับ โยนิโสมนสิการ ในทางพุทธ รวมทั้ง Sangha และ Deep Listening ของท่านติช นัท ฮันห์ และ Dialogue ของท่านกฤษณมูรติ
 
- Dialogue ช่วยแก้ปัญหาในเมืองไทยได้หรือไม่ อย่างไร
- เราได้อะไรจาก Dialogue
- สนใจแลกเปลี่ยน เรียนรู้ อยากให้สมองซ่าแบบโดนวาซาบิ
- ความคืบหน้าของกิจกรรม A Circle of Friends
- ไม่รู้ เอาไงดี
 
โปรดติดตามอ่านได้ที่ Webboard นะคะ
 
ด้วยความเคารพ
จารุพรรณ (จา)

 



หน้าแรก
| ปัญญาชนสยาม | หนุ่มสาวดัดจริต | กังวานเกี่ยวข้อง | ข้าวตอกดอกมะเขือ | กลับสู่ด้านบน

เว็บไซต์นี้จัดทำด้วยความกระตือรือล้นของใครหลายคนนั้น
ก้อนหิน และหรือดอกไม้ กรุณาหารือกับนักการ
พยายามปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่
๗ พฤศจิกายน ๒๕๔๗