Home

เรื่องให้คิดสำหรับคนที่กำลังจะเริ่มต้นหาจักรยานสักคัน
Dirt Zone
Suzuki 4x4
เริ่มต้นหาจักรยาน
ปั่นจักรยานขึ้นเขาใหญ่
เส้นทางจักรยาน

 อยากมีจักรยานสักคัน ต้องทำยังไง อย่างแรกคือต้องถามใจเราเองก่อนว่า อยากได้เพราะ
อะไร แล้วจะเอามันไปทำอะไร

จักรยานเสือภูเขาไม่ได้ถูกมองว่ามันเป็นแค่"ยานพาหนะ" เพราะถ้าคิดว่าจะซื้อมาเป็นยาน
พาหนะแล้ว ด้วยราคาค่าตัวของมันจัดได้ว่าไม่คุ้มค่าเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าถ้าจะซื้อมาแค่
จ่ายกับข้าว ซื้อก๋วยเตี๋ยวปากซอยไหว้วานเอาได้จากจักรยานเฟสสันราคา 2 - 3 พันบาท ก็
เกินพอแล้ว

ด้วยราคาค่าตัวเรือนหมื่น เสือภูเขาควรจะถูกมองว่าเป็น"เครื่องกีฬา" หรือ "เครื่องออก
กำลังกาย" จะเหมาะสมกว่า

การที่ผมว่ามันควรจะมองได้เป็น 2 อย่าง เพราะว่าจะให้คุณคิดว่าจะซื้อมันมาทำอะไร 
OKถ้าคิดจะเอามันมาเป็นเครื่องมือออกกำลังกาย สำหรับวงเงินไม่เกิน 15000 บาท  ก็จะได้
รถที่มีประสิทธิภาพสมกับราคาที่จะเสียไป ( อย่าลืมนะครับว่าจะเอามาเป็นเครื่องมือออก
กำลังกาย ) คราวนี้มันก็มีปัญหาเรื่องว่าอุปกรณ์ที่ให้มากับรถราคาระดับนี้ มันก็ออกจะพื้นๆ
เช่นเกียร์ก็คงจะเป็น 24 เกียร์ ชอคแอบซอบเบอร์ หรือที่ชอบเรียกกันผิดๆว่าโชคอัพ มันก็คง
จะเป็นรุ่นล่างๆ น้ำหนักรวมๆมันก้อคงป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 13-14 กก. (รวมชอค และ อุปกรณ์
อื่นๆ )  คุณอาจจะเกิดอาการคันเวลาไปปั่นกับเพื่อนๆที่ใช้รถราคา 3 หมื่นup (อันนี้ผมมอง
ว่ามันเป็นะ"เครื่องกีฬา"แล้วนะครับ ไม่แปลกนี่ทีไม้กอล์ฟชุดเป็นแสน(ขี่ก็ไม่ได้ นั่งก็ไม่ได้)
ยังมีคนซื้อมาใช้กันเลย อิ อิ อิ ของแบบนี้ว่ากันไม่ได้ครับ ) เพราะว่ารถของเพื่อนจะเบากว่า
ลื่นกว่า เปลี่ยนเกียร์ได้เนี๊ยบกว่า และอะไรอีกหลายๆอย่างที่มันดีกว่ารถราคาหมื่นเศษๆ จาก
จุดนี้เองทำให้คนที่ถลำตัวเข้ามาเล่น ( เน้นนะครับ ว่า"ถลำ" อิ อิ อิ ) แล้วเกิดอาการถูกเนื้อ
ต้องใจเจ้าจักรยานชนิดนี้ขึ้น เกิดอาการอยากเสียเงินเพิ่มด้วยการหารถคันใหม่ที่ดีกว่า
อุปกรณ์รุ่นที่สูงกว่า น้ำหนักตัวที่น้อยกว่า  ผลก็คือ"เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" ดั่งคำ
พังเพยไทย

จริงๆแล้วถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมเองก็คงจะเลือกรถดีๆไปเสียเลย ไม่ต้องมานั่งเสียเงินเสียเวลา
ซ้ำซากในการเปลี่ยนรถใหม่ หรือUpgrade อุปกรณ์ติดรถใหม่ด้วยการเสียเงินซื้อรถดีๆไป
เสียทีเดียวในครั้งแรกที่ตัดสินใจจะเล่นมัน  แต่ใครหละจะกล้าทุ่มเงินมากๆขนาดนั้นกับ
อุปกรณ์กีฬา ที่มี "ล้อ สองล้อ" คล้ายๆหรือใกล้เคียงกับ "ยานพาหนะจ่ายตลาด" โดยที่ไม่
เคยได้ลองสัมผัสมันกับตัวเองเสียก่อน บางคนที่มักจะบอกว่าเผื่อไม่ชอบมันหรือเบื่อมัน จะ
ได้ไม่ต้องเสียเงินไปปล่าวๆ แต่เชื่อผมมั๊ยครับเท่าที่ผมรู้จักมาไม่น้อยกว่า 20 คนที่เริ่มต้น
ด้วยรถถูกๆ แล้วต่อมาก็ต้องมาเสียเงินเปลี่ยนเป็นรถแพงๆ อุปกรณ์ดีๆ แต่มีเพียงแค่ 2 คน
เท่านั้นที่ซื้อไปแล้วเสียเงินเปล่าๆเพราะว่าไม่เอามันมาปั่น คนแรกเกิดอาการแหยงเพราะว่า
ถูกมอ'ไซด์ชนตอนกำลังเลี้ยว ( อันนี้จริงๆประมาทร่วมเพราะว่าชอบคิดว่าคนอื่นเขาจะมอง
เห็นรถจักรยานเหมือนที่คนขี่รถจักรยานมองเห็นรถคันอื่น ) ส่วนอีกคนเป็นคนที่ใจไม่สู้ ( ผม
ผิดเองแหละ แกซื้อรถคันแรกมา คือ Giant ATX 830 ผมก็พาแกไปถ้ำประทุนเลยแค่เจอ
ทรายไม่กี่สิบเมตร ก็เกิดอาการจะขาดใจตาย    พาลท้อแท้สิ้นหวังกับจักรยานซะแล้ว แบบ
นี้ซื้อโดยไม่ได้ถามใจตัวเองก่อน เฮ้อ )รู้หรือเปล่า ขนาดพวกเสี่ย หรือ เถ้าแก่ อวดรวยแถว
จังหวัดที่ผมทำงานอยู่แกซื้อเอามาอวดกันว่าของใครแพงกว่ากันก็ยังพยายามเอามันออกมา
ปั่นออกกำลังกายเลย บางคนนะ ซื้อมา 2 เดือนเลขไมล์วิ่งไปเกือบ 2000 กม. โอ มากกว่าผม
ปั่น 1 ปีเสียอีก (ปีแรกที่ผมซื้อจักรยานเสือภูเขานะครับ )

เราจึงไม่ควรจะคิดว่า คนส่วนใหญ่เขาจะซื้อมาเก็บ หรือเอามาอวดกันเพราะจริงๆแล้วนั่น
เป็นคนส่วนน้อยเท่านั้น คนที่ได้มาสัมผัสกับมันแล้วน้อยคนนักครับ ที่จะเลิกเสียกลางคัน
ขนาดบางคนล้มแขนหัก ไหปลาร้าหักพอหมอบอกว่าเอาเฝือกออกแล้วปั่นได้ ยังกลับมาปั่น
ใหม่เลย ไม่เข็ดหรอกครับผมเองก็เคยเจ็บหนักๆงดปั่นมา 2 เดือน พอผ่าเอาเหล็กออกผมก็ยัง
กลับมาซ่าส์อีก แถมหนักกว่าเก่าด้วย หึหึหึ อันนี้เป็นรสนิยมส่วนตัว ซึ่งหลายๆคนชอบ
เหมือนกันมันก็เลยเกิดเป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นหมู่ชนที่รักจักรยานเหมือนกัน (ถ้าหากลุ่มที่รัก
อะไรเหมือนๆกันแล้วมาทำอะไรด้วยกัน เช่นปั่นจักรยานไปด้วยกันเชื่อหรือเปล่าหละครับ
มันทำให้เกิดแรงจูงใจให้เราอยากทำสิ่งนั้นๆมากกว่าที่เราจะทำมันคนเดียวเสียอีก เช่นเวลา
ผมปั่นคนเดียว จะปั่นสัก 30 กม./ชมนี่มันช่างเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสเสียจริงๆ ไม่รู้จะปั่น
ไปทำไมให้มันเร็วขนาดนั้นแต่พอมาเข้าฝูงเอ๊ยเข้ากลุ่ม ปั่นสัก 35 ก็ยังปั่นกันได้ ไม่เห็นมี
ใครบ่นเลย )

นอกเรื่องมาตั้งนาน ก็จะเข้าเรื่อง( ซึ่งจริงๆมันก็มีอยู่ไม่มากนักหรอกครับ )เสียทีเรื่องของ
การจะหาซื้อจักรยานสักคันมีคำแนะนำคือ ให้เลือกซื้อรถจักรยานจากร้านจำหน่ายที่มีการ
บริการหลังการขายและยินดีรับฟังจุดประสงค์ของเรา และสามารถแนะนำเราถึงปัญหาและ
วิธีการใช้รวมไปถึงการให้เราได้มีโอกาสลองรถทุกๆคันที่เราปรารถนาจะซื้อได้เพราะร้านที่
ดีจะไม่เชียร์ให้ลูกค้าซื้อรถของตัวเองอย่างบ้าเลือดแต่จะพยายามให้ลูกค้าได้รถที่เหมาะสม
กับตัวลูกค้าเอง ทั้งขนาด และ จุดประสงค์ถึงแม้เราจะไม่เสียเงินซื้อในตอนนั้นก็จะไม่รู้สึก
หงุดหงิด (เพราะต้องเผื่อใจว่าเงินขนาดนั้นไม่ใช่ว่าใครจะยอมจ่ายง่ายๆถ้ามันไม่เหมาะสม
ให้จ่าย )ร้านเหล่านี้จะเป็นที่รู้จักกันปากต่อปาก ( ถามหากันได้ครับ , ผมไม่เชียร์ใคร หรือ
วิจารณ์ร้านค้าไหน ในWebsite ที่เป็นสาธารณะ เช่น Pantip ครับ )ร้านค้าที่ดีก็จะทำให้คุณ
สามารถเลือกซื้อรถจักรยานได้ถูกต้องตามขนาดสัดส่วนของคุณเอง ไม่เล็กเกินไป หรือไม่
ใหญ่เกินไป ( ข้อนี้ถือว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่ง )สามารถแนะนำให้คุณได้จักรยานที่มีลักษณะ
ตรงกับการใช้งานให้มากที่สุดอันนี้จะหาไม่ได้จากจักรยานที่ขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้า (ซื้อ
เอากับร้านค้าข้างนอกยังถูกกว่า และได้รับบริการหลังขายที่ดีกว่าครับ )

ประเด็นที่คุณจะต้องตัดสินใจเองก็ได้แก่ การเลือกยี่ห้อ วัสดุที่นำมาทำโครงจักรยานสีที่ชอบ
รวมไปถึงวัสดุอุปกรณ์ติดตั้งที่เหมาะสม และ คุ้มค่าราคาและอันนี้ให้คุณคิดเอาเองเถอะครับ
ว่าคุณไม่ควรจะซื้อจักรยานที่มีราคาเกินหรือต่ำกว่าฐานะทางรายได้ หรือ อัตภาพ

 ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอบคุณครับ ที่อุตส่าห์ทนอ่านจนจบ

จากคุณ : lucifer - [4 ม.ค. 22:28:33]  

คุณ lucifer กำลังรวบรวมเรื่องราวที่ให้ความรู้เกี่ยวกับจักรยานไว้ที่Home Page ชื่อ

BikeLover รอติดตามกันได้เร็วๆนี้ครับ

คุยกันรอบกองไฟ

เซ็นสมุดเยี่ยม

 

สมัครสมาชิก Thailand Outdoor ฟรี

กรุณาใส่ email และคลิ๊ก submit
Powered by YourMailinglistProvider.com