คนเท่านั้น ถ้าท่านเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนติดต่อมานาน อาจมีสหเหตุจากโรคตับหรือไตก็ได้ 
              ท่านควรจะไปให้แพทย์ตรวจสุขภาพของท่านให้ละเอียด และควรปรึกษาแพทย์ก่อนกดจุด
              
              
              ตำแหน่งที่กดจุด 
              จุดที่ร่างกาย 
              1. ชื่อจุด : จุดจางเหมิน 
              ตำแหน่ง : อยู่ตรงใต้ชายโครงซี่ที่ 11 ประมาณ 0.3 ซม. (วิธีหาจุดให้งอข้อ
                ศอกแนบที่ข้างลำตัว จุดนี้จะอยู่ใต้ข้อศอกพอดี)
                วิธีนวด : นวดทแยงขึ้นบน
                 
 
                
                2. ชื่อจุด : จุดฉีเหมิน
              ตำแหน่ง : จุดจะอยู่ใต้ราวนม (ประมาณซี่โครงอันที่ 6  7) ในแนวเดียวกันกับหัวนม
                วิธีนวด : นวดขึ้นบน
                 
 
                
                3. ชื่อจุด : จุดเหลียงเหมิน
              ตำแหน่ง : จุดจะอยู่บริเวณเหนือเอวเล็กน้อย ห่างจากจุดกึ่งกลางของลำตัวไปทาง
                ด้านข้างประมาณ 3 นิ้วมือ จุดจะอยู่สูงกว่าระดับสะดือประมาณ 5 6 
                นิ้วมือ
                วิธีนวด : นวลลงล่าง
                 
 
                
                4. ชื่อจุด : จุดฉี่ไห่
              ตำแหน่ง : จุดอยู่ต่ำกว่าสะดือประมาณ 2  3 นิ้วมือ (ประะมาณ 4 
                 5 นิ้วมือในคน
                อ้วน)
                วิธีนวด : นวดขึ้นบน
                
                จุดที่ใบหู 
                หูขวา 
                จุดที่ 1. อยู่บริเวณด้านหลังของใบหู ห่างจากขอบใบหูประมาณ ? นิ้วมือ 
                จุดตรงนี้กับจุดคอ และ
              กระเพาะอาหาร
                วิธีนวด นวดขึ้นบน
              จุดที่ 2. อยู่ที่สันกลางหู ส่วนที่โผล่มาจากแอ่งหู มีหลายจุด ให้นวดตามเข็มนาฬิกา 
                จุดนี้เป็นที่รวมของเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกระเพาอาหารและช่องท้อง
                วิธีนวด นวดขึ้นบน และเอียงไปด้าน
                หูซ้าย ไม่มีการกดจุด
              
การรักษา 
              สำหรับอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน จะดีขึ้นเมื่อได้กดจุดที่ใบหู 
              ส่วนอาการแพ้ท้องที่เป็นอยู่นาน และหลังจากให้แพทย์ตรวจแล้ว ท่านสามารถใช้วิธีกดจุดที่ร่างกายและใบหูสลับวันก็ได้ 
              การกดจุดในกรณีนี้ควรจะทำในเวลาเช้าตรู่ และอาจจะกดจุดอีกครั้งก่อนกินอาหารประมาณ 
              ?- 1 ชั่วโมงก็จะดีให้กดจุดนานครั้งละ 5  10 นาท
              
              ปวดส่วนล่าง (ปวดบั้นเอว) 
              กระดูกสัยหลังส่วนล่าง (ส่วนบั้นท้าย) ประกอบด้วยกระดูกสันหลัง 5 ชิ้น 
              หมอนรองกระดูก เส้นประสาท
            กล้ามเนื้อ และเอ็น เป็นส่วนที่ต่อจากกระดูกหลังส่วนอกชิ้นที่ 12 
              ลงมา กระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกส่วนบั้นเอวเป็นส่วนที่รับน้ำหนักมากที่สุดของร่างกาย 
              ดังนั้นหลังที่แข็งแรงจะต้องมีกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรง
              อาชีพที่เป็นโรคปวดบั้นเอวมาก ได้แก่ ชาวนา กรรมการ หรือผู้มีอาชีพแบกหามของหนัก 
              ๆ เป็นประจำ หรือในพวกที่มีอิริยาบถหรือท่า ยืน นั่ง นอน ยกของ ไม่ถูกวิธี
              อาการปวดหลัง (ปวดบั้นเอว) ที่ห้ามกดจุดรักษา ก็คือ กระดูกส่วนหลังเคลือนหรือหัก 
              หรือหมอนกระดูกแตกกดทับรากประสาท อาการปวดหลังจากสาเหตุเหล่านี้ต้องพบศัลแพทย์ทางกระดูกเพื่อการรักษษที่ถูกต้องเท่านั้น
              อาการ
              จะรู้สึกปวดหลังส่วนล่างหรือปวดบั้นเอว ถ้ากระดูกสันหลังส่วนล่างได้รับอันตรายหัก 
              เคลื่อน รากประสาท
            ถูกกด ผู้ปวยจะมีอาการเจ็บปวดมากและอาการจะร้าวลงไปตามขา อาจจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งร่วมกับอาการปวดหลัง
              สาเหตุ
              1. เกิดจากอิริยาบถหรือท่าต่าง ๆ ที่ไม่ถูกต้อง ดังได้กล่าวไว้แล้วเรื่องปวดหลังส่วนบน
              2. ได้รับอุบัติเหตุ เช่น หกล้มกระแทก ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อน หัก 
              หรือ รากประสาทถูกกดทับ
              3. เกิดจากการเสื่อมของหมอนรองกระดูก ทำให้แคบลง มีหินปูนไปเกาะที่ขอบของกระดูกสันหลัง 
              อาจทำให้กดทับถูกเส้นประสาทได้ มักพบในวัยกลางคนซึ่งมักมีน้ำหนุกตัวมาก 
              การเปลี่ยนแปลงกระดูกสามารถเห็นได้ในภาพถ่ายเอกเรย์
              ี
              
              
               
ตำแหน่งที่กดจุด 
              จุดที่ร่างกาย
              1. กดที่ปวดบริเวณหลังและนวดจุดนั้น ๆ ในทิศทางดังรูป
              2. ชื่อจุด หยางเหลิงเฉีวยน จุดอยู่ที่แอ่งเล็ก ๆ อยู่ด้านน้า และต่ำกว่ายอดของกระดูกขาด้านนอก
              วิธีนวด นวดลงล่าง
              3. ชื่อจุด จุดคุนหลุน
              ตำแหน่ง จุดอยู่ที่แอ่งเล็ก ๆ ระหว่างกระดูกข้อเท้าด้านนอก (ตาตุ่มนอก) 
              กับเอ็น
              ร้อยหวาย (บริเวณเหนือส้นเท้าเล็กน้อย) ดูรูปประกอบ
              วิธีนวด นวดลงล่าง
              จุดที่ใบหู
              หูขวา
              จุดที่ 1. จุดสำหรับกล้ามเนื้อหลังส่วนล่าง
              ตำแหน่ง จุดจะอยู่เหนือแอ่งหู
              วิธีนวด นวดขึ้นบนและเอียงไปด้านหน้า
              จุดที่ 2. จุดพลังงาน
              ตำแหน่ง อยู่ที่สันกลางหูส่วนที่โผล่ออกมาจากแอ่งหู
              วิธีนวด นวดขึ้นบนเอียงไปด้านหน้า
              หูซ้าย
              นวดเช่นเดียวกับหูขวา ให้ทิศทางตรงข้าม
              
              
              การรักษา
              กดจุดที่ใบหูและร่างกายสลับวันกัน นวดนานครั้งละ 5  10 นาที นอกจากนี้ยังใช้วิธีการบริหารที่ช่วยแก้อาการปวดหลัง 
              และการนอนที่นอนที่ไม่นุ่มจนเกินไปจะช่วยได้มาก 
              
              
              วิงเวียนศีรษะเนื่องจากความผิดปกติภายในหู 
              เป็นอาการวิงเวียนที่เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะภายใน เนื่องจากระบบหมุนเวียนภายในหูไม่ดี 
              หรือมีการอักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะการทรงตัวภายในหูชั้นใน 
              และจากสาเหตุต่าง ๆ เหล่านี้ ก่อนที่ท่านจะกดจุดควรจะปรึกษากับแพทย์ก่อน
              อาการ
              รู้สึกวิงเวียน เห็นพื้นหรือเพดานหมุน การได้ยินไม่ดี หูอื้อ เสียงแว่ว 
              ดังในหู ตากระตุก
              สาเหตุ
              การติดเชื่อที่อวัยวะการทรงตัวภายในหูชั้นใน (มักเกิดจากไวรัสและหายได้เอง) 
              และอาจจะเกิดจาก 
              สาเหตุอื่นๆ ก็ได้ เช่น โรคของสมองขาดเลือดหรือเนื้องอกในสมอง ดังนั้นถ้าเกิดอาการดังกล่าวควรจะพบแพทย์เพื่อตวรจดูว่าอาการที่ท่านเป็นไม่ใช้อาการของโรคเนื้อ
              งอกในสมอง หรือโรคร้ายแรงอย่างอื่น ๆ และท่านควรปรึกษาแพทย์ก่อนกดจุด
                จุดที่ใบหู
                หูขวา
                จุดของหูชั้นในเกี่ยวกับการทรงตัว (labyrinth)
                ตำแหน่ง อยู่ด้านหลังของใบหู จุดอยู่บริเวณที่สูงที่สุดของซอกหู
                วิธีนวด นวดขึ้นบน
              หูซ้าย
                นวดในตำแหน่งเดียวกัน แต่ทิศทางตรงข้าม
                การรักษา
                นวดให้แรงทั้งสองหู นวดวันเว้นวัน เพื่อกระตุ้นหน้าที่ของหู