อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๗๐. ช่วยให้กำลังใจ ไม่มีสิ่งใดเหมือน

คุณรมย์ สุทธิสว่าง เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๔ อายุ ๑๕ ปี โรงเรียนหอวัง เล่าว่า

เธอเป็นคนเสียงดีมาตั้งแต่เด็ก ทั้งครูและผู้ปกครองมักพาไปประกวดร้องเพลง หรือเล่านิทานอยู่เสมอ นับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยประสบ ความสำเร็จ เนื่องจากทุกครั้ง สามารถทำได้ดี ในเวลาฝึกซ้อม ครั้นพอเวลาจริง ต้องขึ้นเวที ยืนต่อหน้าคนดูจำนวนมาก จะรู้สึกประหม่า ถ้าเป็นเพลง ก็จะลืมเนื้อร้อง ถ้าเป็นนิทานก็จะลืมเนื้อเรื่อง ที่สุดแล้วไม่เคยแข่งขัน ชนะสักครั้งเดียว จนกระทั่งหมดกำลังใจ

เวลานี้ทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลาง ได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ และยังฝึกนั่งสมาธิ โดยเอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกาย นึกองค์พระ มหาสิริราชธาตุให้ใสๆ ก็รู้สึกมีความมั่นใจ มากมายเกิดขึ้น เมื่อได้มีโอกาส ประกวดเล่านิทาน ครั้งสุดท้าย ที่ผ่านมา ก่อนจะขึ้นเวที ได้นำพระ มหาสิริราชธาตุมาทำสมาธิ และอธิษฐานจิต นึกถึงท่านอยู่ที่ศูนย์กลางกาย ให้องค์พระมหาสิริราชธาตุใสๆ อาราธนาให้ท่าน คุ้มครองตัวเอง ให้ประสบความสำเร็จ

ปรากฏว่าขณะอยู่กลางเวที ไม่มีความประหม่าเลย ทุกคำพูดและกิริยาอาการ เหมือนถูกสั่งให้ทำ จากศูนย์กลางกายทั้งหมด แสดงได้อย่าง เต็มที่ ดีกว่า ทุกครั้งที่เคยซ้อมมา จึงได้รับรางวัลชนะเลิศ

ความเชื่อมั่นในตนเอง เป็นกำลังใจสำคัญยิ่งอย่างหนึ่ง ทำให้เกิดความ องอาจเข้มแข็ง เอาชนะอุปสรรคทั้งปวงได้สำเร็จ คนน้อยคน สามารถ สร้างกำลังใจ ให้ตนเองได้ตามลำพัง ส่วนใหญ่แล้ว ต้องอาศัยจากสิ่งเกี่ยวข้อง หรือคนแวดล้อมอื่นๆ เช่น การเชียร์กีฬา คำชมเชย การให้รางวัล ล้วนเป็นสิ่งสร้างกำลังใจทั้งสิ้น

พระมหาสิริราชธาตุของพวกเรา ความจริงคือสิ่งที่ให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าของ แต่ที่พิเศษล้นเหลือคือ ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาด้วยกัน ให้กำลังใจ แต่เป็นพระพุทธเจ้า ที่นับประมาณมิได้ นับจำนวนไม่ถ้วน มอบผ่านพระเดชพระคุณ หลวงพ่อมาให้ อานุภาพของท่าน จึงคำนวณ ไม่ไหว

อย่างไรก็ดี แม้ผู้ให้จะประเสริฐที่สุด ของที่ให้จะศักดิ์สิทธิ์ที่สุด แต่ถ้าผู้รับไม่เห็นคุณค่า ไม่สร้างบุญกุศลให้สม่ำสมอ ขาดความเคารพ เลื่อมใส อานุภาพของพระของขวัญ ย่อมไม่มีทาง แสดงให้พบเห็นได้ เหมือนสายไฟฟ้าที่มีขั้วบวกเพียงอย่างเดียว ให้มีประจุไฟฟ้ามากมาย มหาศาลแค่ไหน ก็ไม่ได้พลังงานไฟฟ้ามาใช้ แต่เมื่อใด มีสายไฟขั้วลบมาต่อเข้า จึงจะได้พลังงานนั้น มาใช้ทำ ประโยชน์ให้เกิดขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ขอให้ทุกคนพึงระลึกนึกถึงพระคุณของ พระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ในพระนิพพาน เรื่อยมา จนกระทั่ง ครูบาอาจารย์ยุคปัจจุบัน รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายใน พระพุทธศาสนา โดยตอบแทนพระคุณท่าน ทั้งอามิสบูชา และปฏิบัติบูชา เสมือนเรา ทำหน้าที่เป็น สายไฟฟ้าขั้วลบให้ดีที่สุด

เมื่อทำหน้าที่สมบูรณ์ดียิ่งแล้ว เราก็ย่อมพบพลานุภาพพิเศษ สามารถเป็นที่พึ่งที่ระลึกให้ชีวิตของตนเอง ทั้งชีวิตในปัจจุบันนี้ และชีวิต ในปรโลก ขอให้ยึดถือคำสอน ของครูบาอาจารย์ และของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นขวัญกำลังใจ สร้างบุญกุศลให้เต็มที่ หนีบาปอกุศล ให้ห่างไกล ออกไปทุกที ทุกที อย่าให้กระแสบาปอกุศลตามทัน ให้หนีพ้นจนถึงที่สุดแห่งธรรม


[สารบัญ] [ ๖๘ ] [ ๖๙ ] [ ๗๐ ] [ ๗๑ ] [ ๗๒ ] [ ๗๓ ] [ ๗๔ ] [ ๗๕ ]