คุณไพรัตน์ จันทร์ทุม เล่าว่า
แต่เดิมมีอาชีพทำเฟอร์นิเจอร์และรับตกแต่งภายใน ในยุคเศรษฐกิจมีปัญหาขณะนี้ ไม่ค่อยมีใครว่าจ้างให้ทำงาน จึงไปประมูลร้านขายขนม ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านสร้าง ในระยะแรก นั้นขายไม่ดีเลย
ต่อมาคุณพูนสุข รัตนเสาวคนธ์ และอาจารย์นิติ ศิริกุล จ้างให้ขับรถมาวัดพระธรรมกาย เมื่อมาถึงวัด คุณไพรัตน์ได้มีโอกาสฟังเทศน์ จาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อ รู้สึกซาบซึ้งมาก และได้หัดนั่งสมาธิเป็นครั้งแรก เมื่อกลับไปแล้วก็หาโอกาสมาที่วัดอีก ครั้งหลังที่มาวัด ก็ได้รับภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ที่ด้านหลังภาพเป็นคำสวดสรรเสริญ คุณไพรัตน์จึงนำภาพไปให้ช่างเคลือบพลาสติกกันเปียกนํ้า และตั้งใจสวดสรรเสริญทุกวัน เป็นประจำ อธิษฐานจิตขอให้ขนมขายได้ดี นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ ขายไม่ดีมาไม่รู้กี่วันแล้ว
แต่วันนั้นพอสวดสรรเสริญ แล้วทำสมาธิอธิษฐานจิตขอให้ขายดี ปรากฏว่านักเรียนมายืนเข้าแถวซื้อขนม ร้านคุณไพรัตน์ เป็นแถวยาว เหยียด ร้านข้าวแกงอยู่ซ้ายมือ ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ขวามือ ไม่มีใครไปซื้อ คุณไพรัตน์รู้สึกแปลกใจมาก ทำไมเด็กทานของหวานก่อนอาหารคาว เมื่อเห็นเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ดังนั้นรู้สึกขนลุก พนมมือขึ้นกล่าวสาธุการในอานุภาพของ พระมหาสิริราชธาตุ
วันรุ่งขึ้นเป็นวันที่ ๒ ปรากฏว่า เด็กนักเรียนยังมาซื้อขนมมากเป็นแถวยาวเช่นเดิม จนร้านข้างเคียงถามว่า ี่แตง เล่นของรึไงเนี่ย ทำไมถึง ขายดีอย่างนี้ คุณไพรัตน์จึงนำภาพพระมหาสิริราชธาตุให้ดู แล้วติดไว้ที่หน้าตู้ขนม อยากให้คนถามเชื่อถือศรัทธาบ้าง คุณไพรัตน์เองเชื่อเต็มล้าน เปอร์เซนต์ ร้านของคุณไพรัตน์ขายดีมากจนแม่ค้าขายข้าวแกง และแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว ต้องมาช่วยคุณไพรัตน์ขายขนม ขายดีจนขนมหมดทุกอย่าง
ตั้งแต่วันนั้นจนกระทั่งทุกวันนี้ยังขายดีอยู่เหมือนเดิม คุณไพรัตน์หมั่นสวดสรรเสริญ ทำสมาธิจิต อธิษฐานอยู่เป็นประจำไม่ได้ขาด
คุณไพรัตน์มีหนี้อยู่ ๕ หมื่นบาท อยากมีเงินใช้หนี้ คุณไพรัตน์กับลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ ป.๒ ได้สวดสรรเสริญเป็นประจำ และขอพรพระ มหาสิริราชธาตุ ขอให้มีงานทำเพิ่ม จะได้รวบรวมเงินใช้หนี้ อธิษฐานจิตไปได้ ๓ วัน พอวันที่ ๔ ไปขายขนมที่โรงเรียนตามปกติ จัดของเสร็จราว ๕ โมงเช้า ยังไม่ถึงเวลาขาย จึงขับมอเตอร์ไซด์เข้าไปตลาด ไปตรงที่มีคนเลี้ยงไก่ คุณไพรัตน์ไม่ทราบเหมือนกันว่า ทำไมจึงไปที่นั่น คนเลี้ยงไก่ เห็นเข้า จึงพูดขึ้นว่า แหม กำลังจะไปหาพอดีเลย มีงานอยู่ชิ้นหนึ่ง น้องชายทำมา ๔ เดือนแล้ว ยังไม่เสร็จ ขอให้คุณไพรัตน์ไปช่วยหน่อย เสร็จแล้ว จะได้เก็บเงินค่าจ้างไปจ่ายให้กับลูกน้อง เพราะลงทุนไว้หลายแสนแล้ว
เจ้าของงานนี้ชื่อคุณจารึก ร้านอยู่ที่ถนนพุทธมณฑลสาย ๒ คุณ ไพรัตน์ไม่รู้จักเลย จึงเดินทางโดยทางรถไฟมากรุงเทพฯ แล้วก็นั่งแท็กซี่ คุณไพรัตน์บอกให้พาไปร้านอัลลอยด์ แท็กซี่บอกว่ามีร้านอัลลอยด์เต็มไปหมด จะไปร้านไหนดี แล้วแท็กซี่ก็จอดที่ร้านแห่งหนึ่ง เป็นห้องแถว ๒ ห้อง ไม่มีชื่อร้าน พอถามว่าใช่ร้านของคุณจารึกหรือเปล่า ก็กลายเป็นว่า ถามกับตัวเจ้าของชื่อ เอาทีเดียว น่าอัศจรรย์ใจจริง เพราะตลอด การเดินทาง คุณไพรัตน์นึกสวดบทสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุมาตลอด
คุณจารึกคุยให้ฟังว่า วันรุ่งขึ้นจะไปทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวอีก เขาทำบุญสร้างองค์พระ และได้รับพระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุ กรอบพญานาค ๔ สีมาแล้ว และยังบอกให้คุณไพรัตน์อธิษฐาน คุณไพรัตน์จึงอธิษฐานว่าขอให้มีเงินทำบุญสร้างพระบ้าง
คุณไพรัตน์ได้อธิษฐานจิตกับพระของคุณจารึก เพียงวันรุ่งขึ้นก็มีงานเข้ามาเต็มไปหมด ทั้งงานอัลลอยด์ ทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ งานที่กำลัง จะได้มาอีก คืองานของโรงเรียนหนองจอก ซึ่งทั้งคุณจารึกและคุณไพรัตน์ช่วยกันสวดสรรเสริญ ทำสมาธิอธิษฐานจิตขอพรเป็นการใหญ่ ถ้างานเสร็จแล้ว จะมีเงินทำบุญสร้างองค์พระได้สมใจคุณไพรัตน์
คุณไพรัตน์ยังเล่าเพิ่มเติมถึงเรื่องที่ประสบกับตนเองเมื่อวันทอดกฐินที่วัดพระธรรมกาย เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ลูกสาวของ คนที่ทำบุญสร้างพระรายหนึ่งถามว่า พี่เชื่อหรือ ที่มาทำบุญที่นี่น่ะ พี่เชื่อได้ยังไง นี่ไม่รู้ว่าแม่โดนล้างสมองรึเปล่า ดูซิมาทำบุญอะไรกัน สร้างพระ ตั้ง ๗ องค์ นี่พี่หนูถามจริงๆนะ พี่เชื่อได้ยังไง พี่รู้ได้ยังไงว่าที่นี่ดีจริง ไม่ได้หลอกลวง
คุณไพรัตน์จึงเล่าประสบการณ์ทั้งหมดที่ตนเองพบมาให้ฟัง ขณะเดียว กันก็นึกในใจว่า หลวงพ่อพระมหาสิริราชธาตุ หลวงพ่อสด หลวงพ่อ ที่วัดพระธรรมกาย ช่วยลูกด้วยเถิด ทำไงดี ทำไงให้เขาเชื่อดี
เวลานั้นคุณไพรัตน์กับคนซักถามเดินไปสุดสภาธรรมกายสากลพอดี เวลาราวบ่าย ๕ โมงครึ่ง มีใครคนหนึ่งชี้ให้ดูบนฟ้า คุณไพรัตน์ก็ หันขวับมองขึ้นไป คนที่มาถามคุณไพรัตน์ก็หันตามไปมอง คุณไพรัตน์ยกมือพนมขึ้นไหว้ทันที เห็นดวงแก้วใสแจ๋วทีเดียว ใสเป็นแก้ว รอบๆ ดวงเป็นสีชมพู แล้วมีแสงซ้อนกันออกมาหลายๆ ดวง ซ้อนแล้วซ้อนอีก คุณไพรัตน์หันไปดูคนรอบตัว เห็นผู้คนยกมือพนมขึ้นไหว้เป็นอัตโนมัติ บางคนก็ขนลุก ผู้หญิงช่างถามคนนั้นพูดกับคุณไพรัตน์ว่า หนูเชื่อแล้ว หนูเชื่อแล้ว ที่ถามมาทั้งหมดน่ะ เชื่อแล้ว หนูเชื่อพี่แล้ว นอกจากบอกว่า เชื่อแล้ว ยังบอกต่อว่าจะไปบอกพี่ๆ น้องๆ อีกหลายคน ให้มาทำบุญกันที่นี่ ตรงนี้เป็นบุญที่แท้จริง พ่อแม่ของเขาทำบุญสร้างพระถึง ๗ องค์ ทั้งที่ยังไม่เคยมาวัดนี้เลย
คุณไพรัตน์กล่าวยํ้าว่า ตนเองเพิ่งเข้าวัดมาไม่นาน แต่ประสบการณ์ต่างๆ ที่พบ ทำให้เลื่อมใสศรัทธา และเชื่อมั่นล้านเปอร์เซนต์ และบอกว่า ให้ทุกท่านสร้าง พระธรรมกายประจำตัวเถอะครับ แล้วจะได้พบสิ่งอันดีงามกับชีวิตของท่าน