อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๑๐๙.เข้าฝันผู้เป็นเจ้าของให้สร้างบุญ

คุณสุวรรณา ปรีชาจารย์ เป็นมารดาของคุณสหทัย โทเพ็ชร เล่าเรื่องว่า

เมื่อประมาณปลายเดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ คุณสุวรรณาเดินทางจากที่ทำงาน โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จังหวัดนครสวรรค์ มายังกรุงเทพฯ ได้พบกับ คุณดวงพร วุฒิพันธ์เรืองชัยและเพื่อนๆ ทุกคนพูดแนะนำให้คุณสุวรรณาทำบุญ สร้างพระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์

คุณสุวรรณาจึงถามความเห็นคุณสหทัย ผู้เป็นลูกสาว คุณสหทัยขัดข้องเรื่องการเงิน คิดว่าคงทำบุญไม่ทัน องค์พระที่แกนกลางมหาเจดีย์ คงหมดเสียก่อน ครั้นจะสอบถามไปทางสามีซึ่งอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลก เกรงว่าสามีคงไม่เห็นด้วย ทั้งคู่แต่งงานกันมาถึง ๕-๖ ปีแล้วยังไม่มีลูกด้วยกัน คุณสหทัยต้องการจะมีพระมหาสิริราชธาตุไว้บูชามาก เมื่อยังไม่มีทางเป็นไปได้ จึงนำรูปภาพและหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ ติดตัว กลับบ้านพิษณุโลกเพื่อไปหาสามี

ในเวลานั้นเอง สามีคุณสหทัยนอนหลับฝันไปว่า มีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อกล้ามสีขาวเข้ามาหา ยื่นของอย่างหนึ่งในมือให้สามีคุณสหทัย แล้วบอกว่า เก็บพระแกนกลางนี้ไว้ให้ดีนะ ในฝัน สามีคุณสหทัยก้มลงมองสิ่งที่รับไว้ในมือเป็นพระสีดำๆ ก็เก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อตัวเอง พร้อมกับนึกในใจว่า ไม่เคยได้ยินคำว่า พระแกนกลาง ไม่เคยรู้จัก พระแกนกลางเป็นอย่างไร เมื่อตื่นขึ้น นึกดีใจว่า ฝันได้พระอย่างนี้ อาจจะมีลูกชายสักคนกระมัง แต่งงานมาหลายปี ยังไม่มีลูกเลย

เมื่อคุณสหทัยมาถึงบ้าน สามีก็ลืมเล่าเรื่องความฝันเสียสนิท ต่อมาอีกหลายวันสามีคุณสหทัย ได้เห็นหนังสืออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเข้า จึงสอบถามเรื่องราวต่างๆ จากภรรยา และบอกกับภรรยาว่า พอเห็นภาพที่ปกหนังสือก็ขนลุกขึ้นมาเลย เหมือนพระที่เห็นในฝัน และเล่าความฝัน ของตนให้ภรรยาฟัง คุณสหทัยดีใจมากที่สามีเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้เอง โดยไม่ต้องให้เธออธิบายอะไรมาก จึงรีบโทรศัพท์ถึงคุณดวงพร เพื่อนของมารดา ขอทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ทำให้ทุกคนในบ้านปลาบปลื้มใจทั่วกัน

อำนาจกุศลจิตที่คุณสหทัยต้องการทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ คงจะมีส่วนให้เทพยดา ที่ดูแลรักษา พระมหาสิริราชธาตุซึ่งสามีเธอเป็นเจ้าของ นิมิตเหตุการณ์ทั้งหมดให้สามีคุณสหทัยเห็นในความฝัน ในเห็นพระมหาสิริราชธาตุ ให้ได้ยินคำว่า พระแกนกลาง ล่วงหน้าเป็นอัศจรรย์ เมื่อพบเอกสารรูปภาพของ องค์พระมหาสิริราชธาตุ และฟังภรรยาเล่าเรื่อง การสร้างองค์พระธรรมกาย ประจำตัว ประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ จึงเป็นเรื่องตรงกันโดยบังเอิญ ไม่มีอะไรทำให้รู้สึกลังเลสงสัย มีศรัทธาเต็มเปี่ยม ทำบุญสร้างพระทันที

หินมีชีวิตที่เรียกว่าหินเป็น ดังเช่นหินที่นำมาทำเป็นพระมหาสิริราชธาตุนี้ เป็นหินวิเศษอายุหลายร้อยล้านปี มีเทพยดารักษาดูแลไว้ เพื่อให้ผู้มีบารมี แก่กล้าอย่างพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยใช้สร้างบารมี โดยมอบให้เป็น ของขวัญแก่หมู่คณะผู้ร่วมใจกัน ทำงานฟื้นฟู พระพุทธศาสนานั้น ต้องไม่ใช่เทพยดาธรรมดาทั่วๆ ไป เมื่อมอบเป็นของสำหรับผู้สร้างบารมี เทพยดา ก็ต้องเป็นเทพยดานักสร้างบารมีด้วย ท่านต้องปรารถนาที่จะพ้นจาก การเวียน ว่ายตายเกิดเหมือนผู้ให้ ผู้มอบ ผู้รับของขวัญในทำนองเดียวกัน

ดังนั้นผู้เป็นเจ้าของพระมหาสิริราชธาตุ ควรเก็บรักษาท่านไว้ในที่สมควร ควรประพฤติตนให้ดี ที่ทำให้ท่านเต็มใจอยู่ด้วย คือ หมั่นสร้าง บุญกุศลต่างๆ เป็นเนืองนิตย์ ไม่ควรสร้างบาปอกุศล หรือคิดเบื่อหน่ายในการสร้างบารมี

อันจะทำให้เทพยดาท่านเบื่อหน่ายไม่อยากอยู่ด้วย เพราะไม่มีโอกาสอนุโมทนาบุญ แล้วหนีหายไปเสีย พร้อมกับนำวิมานของท่าน คือเนื้อหินที่ใช้ทำองค์พระไปเสียด้วย ซึ่งเนื้อหินนั้นเหมือนสื่อเชื่อมกระแสบุญจากผู้ให้คือพระนิพพาน มายังผู้มอบคือ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโย และผู้รับคือผู้เป็นเจ้าของ เมื่อไม่มีธาตุเนื้อหินอยู่ด้วยเสียแล้ว เหมือนกับสื่อถูกทำลาย เหมือนไฟฟ้าไม่มีสายไฟต่อ ไฟก็เดินไม่ได้ บุญก็มาไม่ถึงตัว


[สารบัญ] [๑๐๔] [๑๐๕] [๑๐๖] [๑๐๗] [๑๐๘] [๑๐๙] [๑๑๐]