คุณสุทธามาศ ภัทรนุรักษ์ อยู่ที่ ตำบลคลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เล่าว่า
ตนเองได้ทำบุญสร้างองค์พระ ประดิษฐานภายนอก และบนโดม มหาธรรมกายเจดีย์ โดยปกติแล้ว จะมาวัด เฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือน และวันสำคัญทางศาสนา ส่วนใหญ่ พอพิธีภาคเช้าเสร็จ ก็จะกลับ จึงไม่ค่อยทราบข่าว คราวว่า วัดทำอะไรอยู่
วันหนึ่ง มีเพื่อนกัลยาณมิตรชื่อ บุญเกื้อ ซึ่งเคยอยู่ชมรมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ด้วยกัน โทรศัพท์มาชวน ไปปฏิบัติ ธรรม ช่วงวันศุกร์-วันอาทิตย์ ที่เขาใหญ่ ก็ตกลงทันที จึงได้ทราบว่า
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ท่านได้เมตตา มอบพระ-มหาสิริราชธาตุ กรอบพญานาค เป็นของขวัญ สำหรับผู้ที่ทำบุญ สร้างองค์พระ แกนกลาง ก็มีความรู้สึก อยากได้มาบูชา แต่ยังลังเล เนื่องจากตนเอง ยังมีภาระหนี้สินอยู่ จนกระทั่ง ได้มาวัดในวันอาทิตย์ ได้ฟังเรื่อง เล่าถึง อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ จึงตัดสินใจทำบุญ สร้างองค์พระ ๑ องค์ บูชาคุณหลวงพ่อ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
วันฉลองปิดแกนกลาง คุณสุทธามาศได้เห็นความอัศจรรย์ ดวงอาทิตย์ที่กำลังส่องแสงจ้าอยู่นั้น มีดวงกลม สีเขียวเย็นตา มาบังไว้ หมุนวนไปทางขวาเร็วจี๋ และเห็นจีวรของพระภิกษุสงฆ์ ที่นั่งอยู่บนพระเจดีย์ เป็นสีชมพูสดสวยงาม รู้สึกปีติมาก รู้สึกดีใจ ที่ตัดสินใจทำบุญ มีความสุขมาก ไม่เคยคิดเสียดายเงินเลย ทั้งๆ ที่มีเงินเก็บอยู่เพียง ๓ หมื่นบาทเศษ และมีหนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน อีกประมาณ ๑.๖ ล้านบาท รายได้ในแต่ละเดือน ก็ต้องจ่ายหมด
ในสภาพเศรษฐกิจช่วงนี้ มีแต่ความกังวลใจ เกรงจะถูกให้ออกจากงาน รู้สึกเป็นทุกข์ใจมาก เพราะไม่เคยคิดว่า ตนเองจะตกอยู่ใน สภาพ เช่นนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยใช้เงินอย่างสบาย อยากได้อะไรก็ได้ ไม่เหมือนปัจจุบันนี้ แต่เมื่อคิดว่า เงินเพียง ๓๐,๐๐๐ บาท ที่เรามีอยู่ ไม่อาจช่วยให้เรา คลายทุกข์ได้ หนี้สินยังคงมีอยู่เหมือนเดิม เหตุที่เราเป็นเช่นนี้ คงเป็นเพราะ เราสร้างทานบารมีมาน้อย และไม่ได้ทำ อย่าง สม่ำเสมอ จึงตัดสินใจทำบุญ
เมื่อได้ทำบุญแล้ว ความกลัดกลุ้มกังวลใจ ก็มลายหายไปหมด ความทุกข์ใจที่มีอยู่ กลับมีความสุขมาแทนที่ เมื่อได้รับองค์พระมาแล้ว ก็ยิ่งมีความสุข รู้สึกเชื่อมั่นในบุญ ในอานุภาพองค์พระ ตั้งใจสวดสรรเสริญ และหมั่นนั่งสมาธิทุกวัน และแขวนองค์พระไว้ที่คอ
วันหนึ่งหลังจากรับองค์พระไม่นาน ขณะที่คุณสุทธามาศ กำลังพักสายตา จากการทำงาน โดยยืนมองออกไป นอกหน้าต่างกระจก ก็รู้สึกว่า มีคนเอานิ้วมาผลัก ที่กลางหลัง ค่อนข้างแรง และขณะที่กำลังน้อมตัวลง เพื่อจะนั่งบนเก้าอี้ ด้วยความสงสัย ก็รู้สึกว่า มีอะไรสัมผัส อยู่ข้างหลัง จึงจับสร้อยดู จึงรู้ว่า สร้อยหลุดออกจากกัน ปลายหนึ่งไปอยู่ข้างหลัง ส่วนปลายอีกข้างหนึ่ง ที่แขวนองค์พระ อยู่ด้านหน้า จึงคิด ได้ว่า คงเป็นเทวดาที่ดูแลรักษาอยู่ มาเตือนให้ดูแลสร้อยให้ดี ก่อนที่จะหล่นหาย ทำให้มีความรู้สึกมั่นใจ ในอานุภาพขององค์พระ ยิ่งขึ้นอีก ตั้งใจ สวดสรรเสริญ ปฏิบัติธรรม และหมั่นตรึกระลึกถึงองค์พระ ในทุกอิริยาบท มีความรู้สึกอบอุ่นใจมาก ที่มีท่านอยู่กับตัว
[สารบัญ] [๒๑๙] [๒๒๐] [๒๒๑] [๒๒๒] [๒๒๓] [๒๒๔] [๒๒๕]
[๒๒๖] [๒๒๗] [๒๒๘] [๒๒๙] [๒๓๐] [๒๓๑] [๒๓๒] [๒๓๓] [๒๓๔] [๒๓๕] [๒๓๖]