อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๕๖. เช่าแล้วเฮง

คุณประภัสสร ศิรธารา อยู่ที่อำเภอธนบุรี กรุงเทพฯ เล่าว่า

เธอเริ่มเข้าวัดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๑ ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้ศึกษาเรื่องราวของวัดพระธรรมกาย มาตลอดเป็นเวลา ๑ ปีเต็ม เพราะเธอก็เคยได้ข่าว ที่บิดเบือน เหมือนในสมัยปัจจุบัน จนเธอเองได้มาพิสูจน์ที่วัด และได้ศึกษาธรรมะทุกแบบ ทั้งจากเทปธรรมะ หนังสือธรรมะ ฟังธรรมะ และ สนทนาธรรม เพื่อให้ทราบถึง เหตุและผลในเรื่องต่างๆ แต่พอยิ่งศึกษา ก็ยิ่งศรัทธาวัดพระธรรมกาย เพราะเห็นมโนปณิธาน และความบริสุทธิ์ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และหมู่คณะ ปัจจุบันจึงมาวัดทุกวันอาทิตย์ และในวันเสาร์ก็ยังแบ่งเวลามาช่วยงาน ที่วัดพระธรรมกายอีกด้วย

เธอได้เล่าในครั้งแรกๆ ตอน ที่เข้าวัด ได้ทราบข่าวการสร้างองค์พระแกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ขณะนั้นได้ตั้งใจสร้างในนามหลวงพ่อ ธัมมชโย เพราะศรัทธาในมโนปณิธาน และความบริสุทธิ์ของท่านมาก ซึ่งในการสร้างพระให้ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อในครั้งนั้น เธอรู้สึกปีติ อย่างที่เธอไม่เคยมีความรู้สึกที่ดีๆ อย่างนี้มาก่อน และเมื่อได้รับพระของขวัญคือ พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นกรอบพญานาคมา เธอรู้สึกรัก และผูกพันในองค์พระท่านมาก โดยคุณประภัสสรได้สวดสรรเสริญท่านทุกวัน ไม่เคยขาด และภายหลังจากนั้นไม่นาน เธอก็พบอานุภาพทันที คือ เธอมีตึกให้เช่าอยู่หลังหนึ่ง ที่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ ๑๓ แต่ว่างมานานหลายเดือน

วันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ก็มีคนโทรศัพท์มาบอกจะเช่าตึก แต่จะขอเปิดเป็นร้านขายเหล้า จึงไม่รู้ว่า จะให้เช่าดีหรือไม่ จึงไป กราบเรียนถามพระอาจารย์ ก็ได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควรทำ เพราะจะเป็นเศษกรรมติดตัว เหมือนสนับสนุนให้คนเขาทำบาป จึงได้ตอบ ปฏิเสธผู้ที่จะเช่าไป 

และในระยะเวลาไม่นานต่อมา ก็มีคนมาติดต่ออีก แต่ขอให้เธอกั้นห้องและทำมุ้งลวด และเหล็กดัดให้ด้วย แต่เธอเห็นไม่สะดวก จึงได้ปฏิเสธ ไป ซึ่งก็แปลกไม่รู้เป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่เธอปฏิเสธไปแล้ว ผู้เช่าคนเดิมก็ยืนยันว่า จะเช่าและจะต่อเติมสิ่งต่างๆ และจะออกค่าใช้จ่ายเอง และจะ ยกส่วนต่อ เติมทั้งหมด ให้คุณประภัสสร เมื่อหมดสัญญา เช่า ๓ ปี แต่พอเช่าได้เพียง ๒ เดือน คุณประภัสสรก็ได้ส่วนที่ต่อเติมมาฟรีๆ ทั้งหมด เพราะทางผู้เช่า มีธุระจำเป็น ต้องเปลี่ยนที่อยู่ แต่เธอก็ยังไม่หยุดยั้งแห่งความพยายาม ในการให้คนมาเช่าตึก

แต่ในเศรษฐกิจแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเช่นกัน เธอก็ได้อธิษฐานทุกวันว่า ขอให้มีคนเช่าตึกไวๆ จะได้มีรายได้ไว้สร้างบุญบารมี และถ้าใครมา เช่าทำธุรกิจ ก็ขอให้เขาขายดี เขาก็จะได้เช่านานๆ ไม่อยากเปลี่ยนผู้เช่าบ่อย 

และหลังจากผู้เช่าเดิมย้าย ออกไปเพียงแค่ ๒ สัปดาห์ ก็มีคน โทรศัทพ์เข้ามาติดต่อชื่อคุณลัดดา เขาบอกว่า พอเห็นป้ายที่ประกาศให้เช่า ก็รู้สึกสนใจทันที จึงรีบโทรมาขอเช่า และจะทำเป็นมินิมาร์ท โดยตกลงคุณประภัสสรบอกว่า ให้เช่าในราคา ๘,๐๐๐ บาท ต่อเดือน คุณลัดดา ก็ตอบตกลงทันที โดยไม่ขอต่อราคาเลย และขอทำสัญญาเช่าตลอด ๓ ปี และในวันรุ่งขึ้น คุณลัดดาก็นำเงินมาวางมัดจำ คุณประภัสสร ก็อัศจรรย์ว่าทำไมง่ายจัง เพราะในขณะที่บ้านบริเวณแถวบ้าน ก็ประกาศให้เช่าเหมือนกัน ตั้งหลายหลัง และจากวันนั้นถึงวันนี้ เป็นเวลา ๕ เดือนแล้ว ร้านมินิมาร์ทของคุณลัดดาขายดีมาก เหมือนอย่างที่คุณประภัสสร อธิษฐานเอาไว้ ทำให้เธอเชื่อมั่นในอานุภาพบุญ ในการหมั่น สวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุอย่างมาก ว่า ท่านศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

นับว่าคุณประภัสสรเป็นคนมีปัญญา ไม่ฟังข่าวจากสื่อบิดเบือน แล้วเชื่อเหมือนคนทั่วๆ ไป คุณประภัสสรใช้ตนเอง มาพิสูจน์ ก้อนทองคำ มีคนเอาโคลน สาดเปรอะเปื้อน จนไม่เห็นเนื้อทอง แล้วบอกผู้อื่นว่า เป็นก้อนดิน คนขาดปัญญา ย่อมโยนทิ้งทันที คนฉลาด ก็จะใช้น้ำล้างดู ให้แน่ใจ

วัดพระธรรมกายและพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เป็นดังคำอุปมาดังกล่าว คนสาดบางพวก ก็ต้องการให้ก้อนทองสูญค่าไป ต้องการให้ก้อน กรวดของเขา มีค่าแทน บางพวกรับจ้างมาสาด บางพวกตนเองมีแต่กรวด ไม่อยากให้ใครเห็นทองคำก็สาด บางพวกได้ประโยชน์ก็สาด บางพวกเสียประโยชน์ก็สาด ฯลฯ

จะมีใครสักกี่คนเอาน้ำมารดล้างโคลนออก เหมือนคุณประภัสสร ทำให้เห็นคุณค่าของทองคำ ได้เนื้อทองไปใช้ประโยชน์ (คือนำคำสอนไป ปฏิบัติตาม) มาวัดทุกวันอาทิตย์ และวันบุญใหญ่ ได้ทำบุญต่างๆ มาก หันสร้างพระแกนกลาง บูชาคุณพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ ไม่ใช่ สร้างธรรมดาด้วยจิตเฉยๆ แต่เป็นการบริจาคด้วยปีติโสมนัส ทั้งก่อนทำ กำลังทำ และตามนึกถึงก็ยังชื่นใจตลอดมา เพราะทำบุญบูชาคุณ บุญที่ทำทั้งด้วยปีติ ด้วยปัญญา และตั้งใจกระทำ โดยไม่มีใครมาเซ้าซี้ชักชวน เป็นมหากุศลใหญ่ อานิสงส์ไพศาล ประมาณไม่ได้ ผลของบุญ จึงบันดาลในปัจจุบันทันตาเห็น


[สารบัญ] [๓๕๕] [๓๕๖] [๓๕๗] [๓๕๘] [๓๕๙] [๓๖๐] [๓๖๑]