คุณอิ่วเฮง แซ่ปึง หนุ่มใหญ่วัยกลางคนดูเป็นคนเปิดเผย อารมณ์ดี มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา เขาและครอบครัวได้ยึดอาชีพค้าขายมาตลอด ถึงจะเหนื่อยหน่อย แต่รายได้ ก็พอคุ้ม สามารถสร้างฐานะให้เป็นหลักเป็นฐานได้
ที่บ้านจะอยู่ด้วยกันในลักษณะครอบครัวใหญ่ พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันทำการค้ามาตลอดเป็นเวลา ๒๐ กว่าปี กับการแสวงหาความสมบูรณ์ให้กับชีวิต วันนี้คุณอิ่วเฮงบอกว่า สิ่งใดที่คนในโลก ยุคใหม่นี้ที่เขามีกัน คุณอิ่วเฮงก็สามารถหาสิ่งนั้น ให้แก่ตนเองและครอบครัวได้ แต่ก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่มันยังขาดหายไป แล้วมันคืออะไร คำถามเริ่มผุดขึ้นมาในใจ วงจรของชีวิต มีแค่นี้เอง หรือ ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวให้มีความสุข แล้วสิ่งใดล่ะคือหลักประกันเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เรามีพลังต่อสู้ยามเราอ่อนล้า หรือเมื่อต้องพบเจอ ในสิ่งที่เราไม่พึง ปรารถนา เมื่อเราถูกความชราความเจ็บป่วยและมรณภัย เข้ามาเบียดเบียน
คำถามที่เป็นปริศนาในใจของคุณอิ่วเฮงพบคำตอบ เมื่อเขาได้มีโอกาส มาศึกษาหลักธรรมในพุทธศาสนาที่วัดพระธรรมกายเมื่อกลางปี พ.ศ.๒๕๔๐ ตามคำแนะนำของเพื่อน ที่นี่คือ โรงเรียนสอนศีลธรรมของชาวโลก วิธีการสอนทันสมัย เข้าใจง่าย สามารถเลือกหัวข้อหลักธรรมไปปฏิบัติ เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต และได้รับการสอนสมาธิอย่างง่ายๆ ทุกคน สามารถเรียนรู้พร้อมๆ กันหมด ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อใจแล่นเข้าไปพบกับความสว่างภายในแล้ว ใจจะพบความสุขที่เกิดจากความสงบ เกิดปัญญารู้ว่า ความดีที่เราเพียรกระทำมานั้น ไม่หายไปไหน ได้กลั่นเป็นดวงบุญ ใสสะอาดบริสุทธิ์ ติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายของผู้ที่เป็นเจ้าของ ยิ่งมีบุญมากเท่าใด บุญในตัวก็จะพาไปสู่สิ่งที่ดี ในภพภูมิที่สูงยิ่งๆ ขึ้น เป็นผู้บันเทิง ในโลก ทั้งสอง ไม่ต้องหวั่นไหวในภัยชาติ ชรา และมรณภัย
ครอบครัวนี้อยู่ร่วมกันทั้งหมด ๑๐ กว่าคน ทั้งลูกๆ หลานๆ ปกติแล้วคุณอิ่วเฮงซึ่งเป็นพี่ชายคนโต จะเป็นหลักในการไปดูแลแผงขายผักสดทั้งสองแห่ง ที่ปากคลองตลาดและตลาดไท โดยมีน้องสะใภ้ชื่อคุณต๋อย ออกไปช่วยอีกแรง ซึ่งคุณต๋อยเองค่อนข้างจะรูปร่างผอมบาง หนักแค่ ๔๐ กิโลกรัม เพราะมีโรคประจำตัวคือต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ต้องไปหาหมอประจำ กินยาควบคุมเอาไว้ไม่ให้พิษกำเริบ
เช้าวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๒ คุณอิ่วเฮงและคุณต๋อยหลัง จากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ต่างก็เตรียมตัวไปปากคลองตลาดตามปกติ คุณอิ่วเฮงขับรถปิคอัพ มีน้องสะใภ้นั่งไปด้วย ออกจากบ้าน เวลาประมาณ ๑๐ โมงเช้า ถนนหนทาง ในเวลานั้นก็ดูปลอดโปร่งโล่งตลอด ขับรถ กันแบบสบายๆ
มาถึงทางเลี้ยวกลับรถประชานุกูล น้องสะใภ้ก็เริ่มไอแบบ ถี่ๆ มากขึ้น เธอบอกว่าคันคอ คุณอิ่วเฮง มองดูที่คอก็เห็นลำคอของเธอแดงไปหมด น้องสะใภ้ไอมากเข้า ร่างที่ดูผอมเกร็ง อยู่แล้ว ขดงอไปมาในรถ คุณอิ่วเฮงรู้สึกสงสารกับอาการป่วยอย่างกะทันหัน อย่างไม่รู้สาเหตุ คิดว่าคงจะกินอาหารผิดสำแดงกับโรคไทรอยด์ แต่ตอนเช้าก็ไม่มีอาหารอะไรพิเศษ จะมีก็แต่เห็ดเข็มทองผัดเท่านั้น ที่เมื่อวานเพื่อนให้มาเขาบอกว่าอร่อย ลองเอาไปผัดดู เช้านี้ก็เห็นเธอกินเข้าไปด้วย
คุณอิ่วเฮงเห็นน้องสะใภ้ไอจนหอบจึงแนะนำว่า ลองจิบน้ำดูซิต๋อย เผื่อจะค่อยยังชั่ว คุณต๋อยทำตามคำแนะนำ คว้ากระติก น้ำเย็นมาดื่มได้อึกเดียว แค่น้ำเย็นไหลผ่านลำคอเท่านั้น เธอก็เริ่มอึดอัดหายใจไม่ออก รีบบอกพี่สามีว่า อาแปะ หนูหายใจไม่ออก พร้อมกับอาการดิ้นทุรนทุราย คุณอิ่วเฮงตกตะลึง เพราะอาการยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิมอีก โรงพยาบาลก็ยังหาไม่พบ ไม่รู้ว่าอยู่ใกล้หรือไกล
รถวิ่งมาถึงสามแยกเตาปูน ขณะที่ติดไฟแดง น้องสะใภ้ดิ้นรนต่อสู้กับความอยู่รอดพยายามหายใจเข้าปอด ตัวเริ่มคล้ำดำ อ้าปากหาอากาศ ตาเหลือกค้าง
คุณอิ่วเฮงจึงบอกให้น้องสะใภ้พึ่งพุทธคุณ โดยเฉพาะคุณอิ่วเฮงนั้น คล้องพระอยู่ที่คอถึง ๑๐ องค์ แต่ละองค์ได้มาจากการสั่งสมบุญ ที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นสื่อใน การระลึกถึงคุณ พระศรีรัตนตรัย และบุญที่ได้ทำมาเป็นอย่างดี เขานำพระมหาสิริราชธาตุที่คล้องอยู่ มาอธิษฐานขอบารมีท่านช่วย น้องสะใภ้เองก็คล้องพระมหาสิริราชธาตุ (พิชิตมาร) ซึ่งได้มาจาก การไปร่วมงานบวชอุบาสกแก้ว นำพระมหาสิริราชธาตุที่คล้องอยู่มาอธิษฐาน ขอบารมีท่านให้ช่วย
น้องสะใภ้ยังพอมีสติอยู่บ้างก็คว้าองค์พระออกมาจากคอมาพนมมือได้พักเดียว มือกำพระอยู่ ตาเหลือก อ้าปากค้างมือเท้าเกร็งหมดสติไปต่อหน้า
คุณอิ่วเฮงตกใจรีบขับรถไปโรงพยาบาลโดยด่วน จอดรถถามผู้คนแถวหน้าห้างสรรพสินค้าบางลำภูว่า โรงพยาบาลอยู่ที่ไหน เขาก็ชี้ให้ดูว่าอยู่ตรงข้ามนี้ไง รีบเลี้ยว รถเข้าโรงพยาบาล จอดรถหน้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่รีบมารับตัวเข้าไป เมื่อถึงมือหมอ คุณอิ่วเฮงก็คลายกังวลใจ ขับรถไปหาที่จอดโชคดีได้ที่จอดใกล้ๆ แล้วรีบเดินไปดูน้องสะใภ้ที่ห้องฉุกเฉิน
พอไปถึงห้องฉุกเฉิน ก็เห็นร่างของน้องสะใภ้นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ตัวดำอ้าปากค้าง ขาแขนแข็งทื่อ รีบถามว่า คนไข้เป็นยังไงบ้าง ครับ เสียงคุณหมอพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ ว่า คนไข้หมดลมแล้ว คุณอิ่วเฮงคอแห้งผากแขนขาหมดแรง รับไม่ได้ อะไรกันนี่! นั่งรถมาด้วยกันคุยกันอยู่ยังไม่ถึง ๑๐ นาที ตายแล้วหรือ คุณหมอบอกให้คุณอิ่วเฮงไปรอนอกห้อง คุณอิ่วเฮงทำตามที่คุณหมอสั่ง เดินออกมาด้วยอาการช๊อค
คุณอิ่วเฮงบอกว่า นั่งรถกันไปตามปกติ ใครเลยจะนึกว่าในวินาทีข้างหน้านี้จะต้องเผชิญกับความตาย ซึ่งมันไม่ได้มีเครื่องหมายบอก มันจะมาจากทางไหน รูปแบบใด ใจตกลงไปอยู่ที่ ตาตุ่ม ทำไมถึงได้รวดเร็วนัก บุญกุศลที่ทำมาน่าจะช่วยเราได้ ภาพแห่งการสั่งสมความดีที่คุณอิ่วเฮง และครอบครัวได้สร้างกันมา ด้วยความศรัทธามั่น ทยอยกันขึ้นมา ระลอกแล้ว ระลอกเล่า ล่าสุดกำลังปรับปรุงบ้าน เพื่อเป็นบ้านกัลยาณมิตร ชักชวนหมู่ญาติมาทำความดี มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง มีความดีงามเป็นครรลองในการดำเนินชีวิต
ตายไม่ได้นะ เธอจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป คุณหมอต้องช่วยชีวิตเธอได้ คุณอิ่วเฮงรวบรวมพลังศรัทธา ทำใจให้สงบนิ่งเป็นทางมาแห่งบุญกุศล นึกถึงบุญที่เคยตั้งใจทำมา ทั้งบำเพ็ญทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา มีใจเอื้อเฟื้อต่อทุกๆ คน นำองค์พระทั้งหมดมาพนมมือ อธิษฐานจิต ขอพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยให้ได้ชีวิตน้องสะใภ้กลับคืนมา นึกถึงบุญที่ทำมาดีแล้ว และกำลังจะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้น้องสะใภ้รอดเป็นอัศจรรย์ด้วย บ้านที่กำลังตกแต่ง เพื่อจะเปิดบ้านกัลยาณมิตร ชักชวนหมู่ญาติ และคนรู้จัก มาประกอบทางมาแห่งบุญกุศล ให้ได้ มีที่พึ่งอันประเสริฐ ถ้าน้องสะใภ้ตายแล้วจะไปบอกไปชวนเขาได้อย่างไร ขอบุญกุศลช่วยพลิกสถานการณ์ ขอคุณหมอช่วยชีวิตคนไข้ได้ด้วยเถิด
อธิษฐานเสร็จกำลังชะเง้อดูประตูห้องฉุกเฉิน คุณหมอก็รีบออกมาเรียกให้ผู้ที่รับผิดชอบให้ไปพบ ใจก็นึกว่า คุณหมอคงจะให้ไปรับศพ คุณหมอถามว่า ใครรับผิดชอบคนไข้ ช่วยเซ็น รับรองการรักษาหน่อย เพราะตอนนี้คนไข้หัวใจเริ่มเต้นขึ้นมาบ้างแล้ว สักครู่เขารีบเข็นเตียงคนไข้ ซึ่งมีสายห้อยระโยงระยางไปหมดย้ายไปห้อง I.C.U. โดยด่วน
คุณอิ่วเฮงรีบตามไปและนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง I.C.U. ทำใจให้สงบและนึกอธิษฐานจิตอีกครั้ง ขอพระมหาสิริราชธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ คุณครูบาอาจารย์ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ให้ท่านช่วยตลอด เวลาผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง พยาบาลเดินออกมาบอกว่า คุณหมอได้ช่วยชีวิตคนไข้พ้นขีดอันตรายแล้ว หัวใจเต้นเป็นปกติดี
น้องสะใภ้พักฟื้นอยู่โรงพยาบาลอีก ๑ สัปดาห์ ปัจจุบันแข็งแรง อ้วนกว่าเดิม น้ำหนักเพิ่มขึ้น ออกไปขายของได้ตามปกติ และในทุกเช้าวัน เสาร์ เวลา ๙ โมง ทุกคนจะวางงาน จากการ ขายของ เพื่อมาร่วมใจกันสั่งสมบุญ ด้วยการทำใจหยุดใจนิ่ง ให้ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กล่อมเกลาจิตใจให้ใสสะอาด มีพระรัตนตรัยเป็นทั้งที่พึ่งที่ระลึก การเดินทางของชีวิต นั้น ยังต้องอาศัยเสบียงคือบุญไว้เป็นอันมาก
คุณอิ่วเฮงพูดถึงสัจธรรมที่ตัวเองได้พบมาว่า ยามที่มีชีวิตต้องมาเจอกับภาวะคับขันเช่นนี้ สิ่งเดียวที่จะแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ คือบุญบารมีเท่านั้น ที่เอาชนะและฟันฝ่าเหตุการณ์ตรงนี้ ไปได้ ทุกวันนี้ผมขอยืนยันว่า ธรรมะของพระพุทธองค์นี้เป็นของแท้ เป็นของจริงให้ผลอย่างไม่มีประมาณ แก่ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา และนำมาประพฤติปฏิบัติ ของดีมีอยู่แล้ว อย่าไป ไขว่คว้าหาสิ่งอื่นมาแทนเลยครับ