เริ่มย่างเข้าเดือนกันยายนเป็นต้นมา ฝนเริ่มตกชุกตกหนักเกือบทุกวัน จนบริเวณที่เตรียมหน้าดินสำหรับ ทำถนนเข้าโครงการหมู่บ้าน ที่ยังขุดท่อระบายน้ำไม่ทัน มีพื้นที่ดินเฉอะแฉะ มีน้ำขังนองอยู่ทั่วไป พอน้ำขังหลายวันเข้าเริ่มเป็นโคลนตม ธุรกิจต้องสะดุดลงเพราะฟ้าฝนไม่อำนวย
ท่ามกลางความเงียบของชนบทแห่งหนึ่ง ทุกๆ เย็นจะได้ยินเสียงสวดมนต์ เพื่อบูชาคุณพระศรีรัตนตรัย ที่เปล่งออกมาจากใจของผู้สวด ซึ่งบ่งบอกถึงพลังศรัทธา และความสงบภายใน ใครก็ตาม เมื่อได้ยินเสียงสวดอันไพเราะนี้แล้ว ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ว่า นี่แหละ คือความสุขความสงบที่ทุกคนแสวงหา เสียงสวดมนต์นี้ มาจากบ้านแก้วเรือนธรรม ผู้เป็นเจ้าของ บ้านหลังนี้คือ คุณชาตรี สูติวราพันธ์ ทนายความหนุ่ม ที่ใช้เวลาว่างจากการว่าความ มาทำธุรกิจโครงการหมู่บ้านจัดสรร ที่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
เขารู้ว่า ขณะนี้ตนเองได้เดินทางมาพบกุญแจดอกสำคัญ ที่จะไขประตูแห่งความสำเร็จในการดำเนินชีวิต และเขาก็ไม่รอช้าที่จะรีบเดินตามทาง ที่บัณฑิตทั้งหลาย ได้เดินมาก่อนแล้ว สำหรับคุณชาตรี เขาจะนำความเป็นสิริมงคลเข้าบ้านทุกวัน ด้วยการชักชวนสมาชิกในบ้าน และเพื่อนบ้านใกล้เคียง มาสวดมนต์นั่งสมาธิกลั่น กาย วาจา ใจ ให้ใสทุกๆ วัน หลังจาก นั่งสมาธิใจใสสบายปลอด โปร่งดีแล้ว จึงถือโอกาสดีนี้ คิดงานโครงการหมู่บ้านจัดสรร โครงการที่ ๕ ต่อ ซึ่งยังมีปัญหาคือ ที่ไม่สามารถนำโครงการ เสนอขอกู้เงินจากธนาคารได้ เนื่องจากทางธนาคารมีเงื่อนไขว่า การจะเสนอโครงการหมู่บ้าน จำเป็นต้องมีถนน ไฟฟ้า น้ำประปา ท่อระบายน้ำ เสร็จก่อนถึงจะอนุมัติ แต่ช่วงนี้ฝนตกทุกวัน
คุณชาตรีจึงคิดว่าทำอย่างไรดี จึงจะสร้างสาธารณูปโภคให้เสร็จ หันไปเห็นหนังสืออานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ อยู่ที่ชั้นวาง ลองหยิบมาอ่านดู เผื่อจะพบอะไรดีๆ ที่อยู่ในนี้ หยิบ ฉบับที่ ๓๒ พอเปิดเรื่องแรกก็เจอเลย มือสะบัดปัดพายุ ยิ่งอ่านยิ่งเกิดกำลังใจ เรื่องที่เขาเล่าไว้คล้ายกับปัญหาที่เราเจอพอดี ทำถนนขณะพายุฝนเข้า แต่จะต้องทำให้เสร็จได้ ตามกำหนด จึงขอพึ่งพระมหาสิริราชธาตุ ให้ท่านช่วยกันฝนให้งานเสร็จทันกำหนด คุณชาตรีอ่านจบนึกไตร่ตรองดู เขาทำสำเร็จมาแล้ว หรือเราจะลองทำตามดูบ้าง
ตัดสินใจแล้วจึงตั้งใจนั่งสมาธินึกว่า เฉพาะตัวเราเองก็บูชาท่านตั้ง ๕ องค์ พระยอดโดม ๒ พระภายนอก ๑ พระคะแนนสุดสุด ๑ พระพิชิตมาร ๑ เช้าตรู่นั่งสมาธิทำใจสบายๆ ตั้งจิต อธิษฐาน ทั้งที่มองดูฟ้าแล้ว บรรยากาศรอบด้านก็มืดครึ้มไปด้วยเมฆฝนสลัวไปรอบด้าน แต่ด้วยความเชื่อมั่นในอานุภาพ พนมมือขึ้น หลวงพ่อครับ ขอฝนอย่าเพิ่งตกสัก ๒ วัน ลูกขอทำท่อระบายน้ำเสร็จก่อน ค่อยตกนะครับ หลวงพ่อ สัมมา อะระหัง
หลังจากนั้นก็สั่งลูกน้องลงมือทำงาน แต่เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องมา หลายวัน พื้นที่จึงแฉะ พอขุดลงไปก็เป็นโคลน วันแรกผ่านไปฝนไม่ตก แต่งานก็ยังไม่ได้ไปถึงไหน เพราะทำกันด้วย ความลำบาก พื้นดินมีน้ำขังมาก ย่างเข้าวันที่ ๒ ฟ้าก็เริ่มมืดรอบทุกทิศ คุณชาตรีก็ไม่วิตกกังวลใดๆ ทำใจสบายๆ ตั้งใจมั่นคิดว่า อย่างไรก็ต้องขุดท่อระบายน้ำให้เสร็จ งานยืดเยื้อ ๒ วัน ยังไม่เสร็จ แต่ก็คิดว่าถ้าเกิดฝนตกลงมา จะหาเครื่องสูบน้ำออก แล้วขุดต่อให้เสร็จ
ปรากฏว่าทำไปร่วม ๗ วัน ฝนไม่ตกหนักเลย ทั้งที่บางวันคุณชาตรี ออกไปธุระนอกโครงการห่างกันแค่ ๕ กิโลเมตร เจอฝนตกถล่มทลาย คิดว่าหน้างานคงเละแน่นอน แต่พอกลับมาดู ที่หน้างาน ฝนกลับไม่ได้ตกหนักอย่างที่คิดกลัว ตกแค่ปรอยๆ พอทำงานได้สบายๆ ไม่เสียหายอะไร
หลังจากวางท่อระบายน้ำเสร็จก็มาถึงขั้นตอนทำถนน เชื่อมั่นในบุญว่า ท่านช่วยได้อีก ลูกขออีกสัก ๑๐ วันเถิดขอทำถนนต่อให้เสร็จ ขออย่าให้ฝนตกลงมา ทำให้งานของลูกเสียหาย นะครับ หลวงพ่อ สัมมาอะระหังไปเรื่อยๆ และตัดสินใจสั่งลูกน้องลงมือทันที ดูงานไป สัมมาอะระหังไปด้วย พอมีโอกาส ก็หลับตาทำสมาธิ อธิษฐานจิตตอกย้ำไปเรื่อยๆ คุณชาตรี จำได้ว่า วันที่ ๓ นั้นฟ้าปิดหมด คิดว่ายังไงวันนี้ฝนคงจะเทลงมาแน่ ดูงานไปสัมมา อะระหัง สบายๆ ฝนที่ตั้งเค้าก็ยังมาไม่ถึง
งานก็รุดหน้าต่อไปพักใหญ่เหลือบดูท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เริ่มมีช่องขาวเปิดทีละนิดๆ จนแสงอาทิตย์ลอดออกมาได้ ดีใจฟ้าเปิดแล้ว จึงสั่งลูกน้องลุยงานเต็มที่ คุณชาตรีบอกว่า ้ถ้าถนนยัง ไม่เสร็จ เชื่อ ๑๐๐ % ว่า ฝนไม่มีทางตกลงมาให้งานของตนเองเสียหายแน่นอน
พองานเสร็จตามเป้าหมาย คุณชาตรีจึงทำเรื่องขอกู้เงินจากธนาคาร ได้ตามต้องการ ผมว่าเรื่องแบบนี้ ถ้าใครมีโอกาสประสบกับตัว ก็ยากที่จะปฏิเสธได้ ต้องปฏิบัติแล้วเจอเอง อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุนี้ ท่านไม่มีประมาณเลยจริงๆ ครับ ผู้เล่ากล่าวยืนยันด้วยน้ำเสียงเหน่อๆ ของคนเมืองกาญจนบุรี ฟังดูแล้วยิ่งเพิ่มบรรยากาศ ของความจริงใจมากขึ้น
เรื่องอานุภาพของบุญของพระมหาสิริราชธาตุนี้ ผมและครอบครัวจะพบว่า ท่านคุ้มครองตลอดเวลา อย่างน้องสาวผมนี้ ก็รอดจากการไถลเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อ ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด ตรงสี่แยกตายโหง ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ลองคุยกับเขาดูไหมครับ พร้อมกับแนะนำตัวน้องสาวลูกพี่ลูกน้องว่าชื่อ คุณอโนมา จงสุขศรี
คุณอโนมาเป็นเด็กสาววัยรุ่นหน้าตาสดใส เธอรับราชการเป็นหมออนามัยอยู่ที่ อ.ด่านมะขามเตี้ย เธอบอกว่าโชคดีที่ได้มาทำงานหน้าที่นี้ เพราะสถานีอนามัย จะเป็นที่พึ่งแห่งแรก ของ ชาวบ้านที่มีความทุกข์ จากความเจ็บป่วย เธอจึงถือโอกาสนี้ทำบุญ รักษาให้ฟรีอยู่เสมอๆ
ทุกๆ วันอาทิตย์เธอ จะมีกิจวัตรที่เธอตระหนักดีว่าเป็นส่วนสำคัญในชีวิตเลยทีเดียว นั่นคือการเข้าวัดฟังธรรม ใฝ่หาความสุขที่แท้จริง เพื่อชีวิตจะได้มีหลักประกันที่ดีทั้งในปัจจุบัน และอนาคตจนถึงภพเบื้องหน้า
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๒ เหตุการณ์ผ่านมา ๕-๖ เดือน เธอยังจำเหตุการณ์นั้นได้ดี ปกติตอน เย็นของวันเสาร์เธอจะต้องเดินทางไป อ.ท่ามะกา ซึ่งอยู่ห่าง อ.ด่าน มะขามเตี้ย ประมาณ ๗๐ กิโลเมตร เพื่อไปพักค้างบ้านพี่ชาย รุ่งเช้าจะได้เดินทางไปวัดพระธรรมกายพร้อมๆ กัน
ในวันนั้นเธอมีงานติดพันเข้ามาเยอะ กว่าจะทำงานเสร็จ ก็เกือบห้าโมงเย็น เธอรีบขับมอเตอร์ไซค์คู่ชีพ ออกจาก อ.ด่านมะขามเตี้ยทันที ระยะทาง ๗๐ กิโลเมตร ถ้าขับแบบปกติ ๕๐-๖๐ ก.ม. /ช.ม. ก็จะใช้เวลาเกือบ ๒ ชั่วโมง เนื่องจากกลัวจะมืดเสียกลางทาง เธอจึงเร่งความเร็ว ๑๐๐-๑๒๐ ก.ม./ช.ม.ช่วงที่ผ่านหมู่บ้าน ก็อุ่นใจหน่อย แต่ช่วงที่เป็นป่าเปลี่ยว ก็มีเยอะ เหมือนกัน แต่ใจเธอไม่รู้สึกเปลี่ยวไปตามป่า เพราะ ทุกๆ ครั้งที่ขับขี่เครื่องยนต์ เธอจะสร้างเกราะคุ้มภัย ให้ความอุ่นใจ ด้วยการสวดสรรเสริญ พระมหาสิริราชธาตุ ตลอดเวลา
สองตามุ่งตรงไปข้างหน้า โดยมีหน้ากากของหมวกกันน๊อค ช่วยกันแมลง ฝุ่นละออง และสายลมมาปะทะใบหน้า บิดคันเร่ง ผ่านโค้งอันตรายไปหลายโค้งแล้ว อาศัยความชำนาญ ใน เส้นทาง เสียงบทสวดสรรเสริญ ยังดังก้องอยู่ในโสตประสาท อย่างต่อเนื่อง ภาพบรรยากาศสองข้างทาง ไม่สามารถมองได้เลย มันเลื่อนไหลไปเร็วมาก รถแล่นเข้าเขตหมู่บ้าน ต.หวายเหนียว ใกล้ถึงจุดหมายปลายทางบ้านพี่ชายที่ ต.แสนตอ
ขณะขับถึงบริเวณที่ชาวบ้านเรียกว่า สี่แยกตายโหง ซึ่งเป็นสี่แยกที่ยังไม่มีสัญญาณไฟแดง มองในระยะไกล ก็เห็นว่า ถนนโล่งดี แต่พอขี่มาถึงช่วงระยะทางอีก ๓๐๐ เมตร จะถึง สี่แยก กลับมีรถสิบล้อ โผล่มาขวางเต็มทางเลย เธอเบรคกะทันหัน ด้วยสัญชาตญาณ การเอาตัวรอด ใจที่จรดศูนย์กลางกาย อยู่แล้วอธิษฐานขอหลวงพ่อ ช่วยทันที
เนื่องจากรถวิ่งมา ด้วยความเร็วสูง พอแตะเบรคมือเบาๆ รถกระตุกเสียการทรงตัวทันที ขณะที่ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้นั้น เธอรู้สึกว่า มีแรงมาผลักให้มอเตอร์ไซค์ล้มลงเบาๆ ทับร่าง ของเธอตั้งแต่เอวลงมา แล้วก็มีอีกแรงหนึ่ง พยายามกระชากร่างของเธอ ไถลเข้าไปหาล้อรถสิบล้อ คันที่ขวางอยู่ จึงทำให้คนและรถมอเตอร์ไซค์ ไถลเข้าไปหาล้อรถทันที เธอไม่รู้ จะทำอย่างไร ทั้งรถและคนไหลเข้าไป จนจะถึงล้อรถสิบล้ออยู่แล้ว ขณะเดียวกันเ ธอรู้สึกถูกแรงยับยั้งอีกแรงมาชลอการไถลไป จนหยุดนิ่ง
เมื่อเหตุการณ์สงบลงเธอก็ค่อยลืมตามาดูว่า เธอยังอยู่ในโลกใบเดิม หรือเปล่า พอเงยหน้าขึ้นดู คุณพระช่วยจริงๆ ศีรษะของเธอ ห่างจากการบดขยี้ของล้อรถ เฉือนแค่ปลายจมูก กลิ่น ของยาง ลอยมาเข้าจมูกอย่างจัง คนขับรถสิบล้อ หายตะลึง รีบลงมาช่วยยกรถมอเตอร์ไซค์ ที่ทับร่างเธอออก คุณอโนมาตอนนี้รู้แล้วว่ารอด แต่ขาถูกรถทับและไถลไปตามพื้นเกือบ ๑๐๐ เมตร รู้สึกขาชาไปหมด คิดว่าขาต้องหักแน่เลย แต่พอยกรถออกได้ขาก็หายชา ถลอกนิดหน่อย สำรวจที่มือก็ถลอกนิดเดียวเช่นกัน
ตอนล้มศีรษะกระแทก ทำให้หน้ากาก หมวกกันน๊อค ด้านขวาแตกละเอียด แต่หน้าไม่ถูกกระจกบาด รถก็แค่กระจกมองข้างแตก พอลุกขึ้นได้ ไม่บาดเจ็บอะไรมาก ก็สตาร์ทรถ ขับรถ มุ่งตรงไปบ้านพี่ชายต่อ คนขับรถสิบล้อได้แต่ยืนงงว่า มันรอดไปได้ยังไง รถก็ทับตัวอยู่ไถลไปกับพื้นเป็น ๑๐๐ เมตร แต่ไม่เป็นอะไร เหลือเชื่อจริงๆ
พอถึงบ้านเล่าให้พี่ชายฟังด้วยความตื่นเต้น รุ่งเช้าก็เดินทางไปเพิ่มเกราะป้องกันภัย ด้วยการไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายต่อ เมื่อกลับบ้านแล้ว คุณพ่อ-คุณแม่ถามว่า ไปทำอะไรมา ขาแขนถึงได้ถลอก ก็บอกว่าขับรถแฉลบ แต่ยังไม่บอกว่าตรงไหน กลัวเดี๋ยวคนแก่จะตกใจ แม่ก็บอกว่า เออ เมื่อกี้นี้น้าข้างบ้าน เขาก็มาเล่าเหมือนกันว่า เมื่อเย็นวันเสาร์ ที่สี่แยกตายโหง บ้านเรา มีรถมอเตอร์ไซค์ แฉลบเข้าไปใต้ท้องรถสิบล้อ เขาบอกแม่ว่า สงสัยตาย เพราะเสียงดังมาก
คุณอโนมาได้แต่รับฟังอย่างสงบ นึก ในใจว่า ไม่ตายหรอกแม่ คนขับรถมอเตอร์ไซค์ เขามีพระรัตนตรัยคุ้มครอง และเขาคนนั้นก็คือลูกแม่นี่แหล่ะ เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องบอก หนูเอาบุญ มาฝาก ไปหล่อพระธรรมกาย ที่วัดพระธรรมกายมาค่ะ เสียงมารดาสาธุอนุโมทนาบุญกับลูกสาว
ขณะเดินทางไปไหนมาไหนไม่ปล่อยใจให้คิดเรื่องไร้สาระ กลับสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุตลอดเวลา ให้จิตสร้างมหากุศลไม่ว่างเว้น เมื่อต้องพบอุบัติเหตุดังที่เล่าไว้ จึงปลอดภัย อย่างอัศจรรย์
การให้ใจน้อมเคารพในคุณพระรัตนตรัยอยู่เป็นประจำ ย่อมทำให้มีสติดีกว่าปล่อยใจฟุ้งไปในเรื่องอื่นๆ ยามมีอันตรายคับขันสิ่งใดเกิดขึ้น สติจะทำให้ไม่ตกใจเกินกว่าเหตุ เรื่องหนัก จะกลายเป็นเบา อย่างไม่น่าเป็นไปได้อย่างรายนี้