เมื่อผมเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก
วินัย  เพชรช่วย
*****

................ตอนที่ 2                ตอนที่ 3

 ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ  8--Sep--2007

ตอนที่ 1
(เริ่มเขียน 25 สิงหาคม 2550)

1. ทำไมจึงเขียนเรื่องนี้
2. ต่อมลูกหมาก และโรคของต่อมลูกหมาก
3. ตรวจสุขภาพประจำปี ค้นหามะเร็ง
4.การตัดตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy)
5. พบมะเร็งแล้ว  ทำอย่างไรต่อไป

ภาพมะเร็ง 4 ระยะ


             1. ทำไมจึงเขียนเรื่องนี้

            เมื่อเพื่อนๆ รู้ว่าผมต้องเข้าผ่าตัดต่อมลูกหมาก เนื่องจากเป็นมะเร็ง ก็พากันสงสัยว่า

                         เป็นไปได้ไง  ดูไปแล้ว วินัยมันก็แข็งแรงดี ไม่น่าเป็น ?
                       
 ตรวจพบได้อย่างไร  มีอาการอย่างไร
                                  
???

                        หลายคนให้กำลังใจ บอกให้ทำใจให้สบาย เชื่อหมอ ทำตามที่หมอสั่ง ขอบคุณทุกกำลังใจและความห่วงใย

 ผมเข้าโรงพยาบาลศิริราช เพื่อเตรียมตัวรับการผ่าตัด เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2550  วันรุ่งขึ้น 10 สิงหาคม เข้าห้องผ่าตัดเวลา 8.30 น. ผ่าตัดเสร็จกลับหอผู้ป่วย เวลา 15.00 น. หมออนุญาตให้ออกมาพักฟื้นที่บ้านได้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2550 และกลับไปพบหมอตามนัดอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2550  จนถึงวันที่เริ่มบันทึกเรื่องนี้ คือ 25 ส.ค. อาการทั่วไปฟื้นตัวได้เร็ว ถ้าคะแนนเต็ม 10 คงได้สัก 7-8

 หลังการผ่าตัด ก็ได้รับความห่วงใยและและแสดงความยินดีที่ทราบว่าการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี  ขอให้พักผ่อนมากๆ เพื่อนผู้ชายบางคนมีคำถามที่เป็นห่วงว่า 

            ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ?
                       
จะยังทำหน้าที่ลูกผู้ชายได้ต่อไปไหม  ?

เพื่อนผู้หญิงจะถามว่า 

            แข็งแรงดีแล้วหรือยัง
                       
กินอาหารได้ไหม ?
                      
 ปัสสาวะเป็นอย่างไร  ?

 ประธานช้างผงาด คุณสท้าน แก้วก่า (ผู้มีประสบการณ์จากการเป็นต่อมลูกหมากโต และรับการผ่าตัดมาแล้ว) จากขอนแก่นบอกว่า “ ..นายมีประสบการณ์เรื่องมะเร็งต่อมลูกหมากแล้ว น่าจะเล่าให้เพื่อนๆ ผู้ชายที่ยังลังเลไม่ยอมตรวจตัวเองได้ทราบขั้นตอน  น่าจะเป็นประโยชน์..” 

 ผมคิดว่าดี  เพราะในสหรัฐ มีพวกที่เคยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก และรักษาตัวหายแล้ว  รวมตัวกันเป็นองค์กรการกุศล ให้ความรู้แก่ผู้ที่ยังไม่ได้รับการตรวจ อยู่ระหว่างการเฝ้าระวัง ยังไม่ได้รับการรักษา หรือภายหลังการรักษา ได้เข้าใจโรคนี้ ไม่กลัวจนเกินเหตุ และอยู่กับมันได้  โดยมีเว็บไซท์   http://www.ustoo.com  เผยแพร่  ผมเองก็ได้ความรู้อย่างมากจากเว็บนี้ก่อนเข้ารับการผ่าตัด

TOP

   2. ต่อมลูกหมาก และโรคของต่อมลูกหมาก

หลายคนยังไม่ทราบเลยว่าต่อมลูกหมากอยู่ตรงไหนในร่างกายผู้ชาย อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย ผู้ชายบางคนยังคิดว่า อัณฑะหรือต่อมเพศคือต่อมลูกหมาก  เมื่อผมบอกว่าจะต้องตัดต่อมลูกหมากโดยผ่าหน้าท้อง ก็ถามกลับมาว่า ทำไมต้องผ่าหน้าท้อง มันอยู่ตรงโน้นไม่ใช่หรือ  หรือที่ถามว่าทุกอย่างจะอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่า ก็คิดในแนวเดียวกัน  ทำความรู้จักกับต่อมลูกหมากกันก่อนดีกว่า

ต่อมลูกหมากนั้น เป็นอวัยวะหนึ่งของระบบสืบพันธุ์เพศชาย โดยต่อมจะอยู่ด้านหน้าของลำไส้ตรง หรือ rectum คือส่วนปลายสุดของลำไส้ใหญ่ และอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากจะหุ้มรอบท่อปัสสาวะส่วนต้น มีรูปร่างลักษณะคล้ายเม็ดเกาลัด หนักประมาณ 20 กรัม หน้าที่ของมันคือ ผลิตน้ำเมือกและน้ำหล่อเลี้ยงตัวอสุจิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของน้ำกามที่หลั่งออกมาตามปกติของผู้ชาย

 ความผิดปกติหรือโรคที่เกิดกับต่อมลูกหมาก มี 3 อย่าง คือ

 ต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis)

 ต่อมลูกหมากโต  (BPH, or benign prostatic hyperplasia)

 มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer)

ความผิดปกติทั้งสามอย่างนี้เป็นเอกเทศ  หมายความว่า การเป็นต่อมลูกหมากอักเสบ หรือต่อมลูกหมากโต ไม่เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ในคนคนหนึ่งอาจมีความผิดปกติมากกว่าหนึ่งอย่างในเวลาเดียวกัน

 ต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis) เป็นการอักเสบจากการระคายเคืองหรือการติดเชื้อของต่อมลูกหมาก 50% ของผู้ชายมักมีอาการนี้ครั้งหนึ่งในชีวิต อาการที่ปรากฏ ดังนี้    เพิ่มเติม

 ปัสสาวะลำบากหรือมีอาการปวด  แสบ หรือเสียวขณะถ่ายปัสสาวะ

ปัสสาวะบ่อยทั้งที่มีน้ำปัสสาวะน้อย       มีอาการไข้ร้อนๆ หนาวๆ

ปวดบริเวณเอวหรือลำตัว                     ปวดบริเวณท้องน้อยหรือหลังอัณฑะ

รู้สึกกดทับหรือปวดที่ทวารหนัก            ลำไส้บีบตัวขณะถ่ายปัสสาวะ

องคชาตและทวารหนักเต้นกระตุก         รู้สึกเจ็บขณะหลั่งน้ำอสุจิ

 ต่อมลูกหมากโต  (BPH, or benign prostatic hyperplasia)..  benign แปลว่า ไม่ใช่มะเร็ง และ hyperplasia แปลว่า เจริญมากเกินไป  ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้ต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ต่อมลูกหมากโต แบบ BPHไม่เป็นผลทำให้เกิดมะเร็ง แต่ถ้าเติบโตผิดปกติมาก ที่เรียกว่า high-grade Prostatic Intraepitelial Neoplasia (PIN) อาจมีความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น


(ซ้าย) ต่อมลูกหมากปกติ..... 
ไม่บีบอัดท่อปัสสาวะ.....

(ขวา)   ต่อมลูกหมากโตจนบีบอัด
 ท่อปัสสาวะและกระเพาะปัสสาวะ

แต่อาการของต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมากคล้ายคลึงกัน  อาการของต่อมลูกหมากโตจะเริ่มแสดงให้เห็นหลังจากชายมีอายุ 50 ปีไปแล้ว อาการมีดังนี้  เพิ่มเติม
           

ปัสสาวะออกยาก เมื่อออกแล้วเพียงไหลริน     ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน

รู้สึกปัสสาวะไม่สุด ยังค้างอยู่                       ปวดปัสสาวะรุนแรง อยากถ่ายในทันที

ปัสสาวะไม่พุ่งและไหลช้า                           หยุดเบ่งและถ่ายปัสสาวะสลับกันหลายครั้ง

 ต่อมลูกหมากโตขั้นรุนแรง อาจนำไปสู่อาการต่อไปนี้ เช่น  กระเพาะปัสสาวะอ่อนแอ  ปัสสาวะไหลย้อนกลับทำให้กระเพาะปัสสาวะหรือไตอักเสบ  ท่อทางเดินปัสสาวะอุดตัน  ไตวาย

  มะเร็งต่อมลูกหมาก (Prostate cancer) เป็นโรคของต่อมลูกหมากที่รุนแรงที่สุด  เกิดจากการที่เซลล์ต่อมลูกหมากมีการแบ่งตัวและเจริญมากผิดปกติ เซลล์มะเร็งเหล่านี้จะมีลักษณะเหมือนกับเซลล์ปกติของต่อมลูกหมาก จะผิดกันตรงที่แทนที่จะเจริญเป็นเนื้อเยื่อปกติของต่อมลูกหมาก มันกลับแบ่งตัวไม่มีระเบียบกลายเป็นก้อนเนื้องอกแทน เนื้องอกนี้จะทำให้การทำงานของต่อมลูกหมากผิดปกติ และเซลล์ที่หลุดออกมาจากก้อนเนื้องอกก็สามารถกระจายไปที่ใดก็ได้ในร่างกาย แล้วแบ่งตัวเป็นเนื้องอกขึ้น

 ผู้เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากนอกจากเกิดอาการเหมือนต่อมลูกหมากโตแล้ว ยังอาจมีอาการอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น  ปวดหลัง  องคชาตแข็งตัวยาก   ปวดสะโพก   ปัสสาวะมีเลือดปน

อย่างไรก็ตามผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากบางรายอาจไม่มีอาการผิดปกติดังกล่าวเลยก็ได้

 สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งต่อมลูกหมากนั้น ยังไม่มีใครทราบ จากผลการศึกษาวิจัยพบว่าชายที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้ จะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากสูงขึ้น

 อายุ  เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดของมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยจะพบน้อยมากในชายอายุน้อยกว่า 45 ปี  และความเสี่ยงจะค่อยๆ สูงขึ้นตามอายุ ผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมากส่วนใหญ่มักมีอายุมากกว่า 65 ปี

ประวัติครอบครัว ความเสี่ยงจะสูงขึ้นหากมีพ่อหรือพี่ชายเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมีญาติผู้หญิงที่เป็นมะเร็งเต้านม

เชื้อชาติ  มะเร็งต่อมลูกหมากพบในชาวแอฟริกันและคนผิวขาวได้มากกว่าคนเอเชีย

อาหาร  อาหารที่มีเนื้อหรือไขมันสัตว์มาก อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ส่วนอาหารประเภทผักและผลไม้อาจช่วยลดความเสี่ยงได้
                               (เรื่องราวของมะเร็งต่อมลูกหมากจะมีเพิ่มเติมในตอนต่อไปอีกเป็นระยะๆ) 

      TOP

3. ตรวจสุขภาพประจำปี ค้นหามะเร็ง

ตอนวัยเด็กผมเป็นเด็กขี้โรค ทุกๆ ปีจะต้องเป็นไข้สูง ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ 1 ครั้ง ด้วยโรคที่มักจะเป็นกันในสมัยก่อน เช่น ปวดหัวตัวร้อนอย่างแรง ไข้จับสั่น ปวดท้อง ท้องร่วง แม้แต่พยาธิในท้อง  ทำให้ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง อ่อนกำลัง พ่อต้องหายาทั้งยาหลวง และยาต้มมาให้กินบำรุงร่างกาย เคยกินเลือดค้างคาว เนื้ออีกา กะรอก หรือแม้แต่เนื้อตะกวด เมื่อเขาบอกว่ากินแล้วแรงดี  จนกระทั่งเข้าวัยรุ่น สุขภาพเริ่มดีขึ้น และไม่เคยต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกเลย  และตั้งแต่เริ่มรับราชการ เมื่อปี 2505 เป็นต้นมาจนเกษียณอายุ เมื่อปี 2543  ผมเบิกเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลน้อยมาก  คราวที่เป็นมะเร็งต่อมลูกหมากคราวนี้แหละที่เบิกไปหลายหมื่นบาท

 หลังเกษียณแล้วก็มีความห่วงสุขภาพตัวเอง จึงไปตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อค้นหาความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ อยู่ถนนพระราม 6  ใกล้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่ปี 2546  การตรวจนี้เขาจะตรวจผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปี ขึ้นไป ตรวจเป็นหมวดๆ ได้แก่ การเจาะเลือดไปตรวจเพื่อดูความสมบูรณ์ของเลือด สารเคมีในเลือด การทำงานของไต การทำงานของตับ สารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก(PSA) สารบ่งชี้มะเร็งตับ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอ็กซเรย์ปอด ตรวจอุจจาระ ตรวจปัสสาวะ ตรวจต่อมลูกหมาก(ส่วนผู้หญิง จะตรวจภายในมดลูกและเต้านมด้วย)

ปีแรก ผลการตรวจที่เขาแจ้งกลับไปแบบรวมๆ ไม่มีรายละเอียด บอกว่าปกติ ยกเว้นมีไขมันในเลือดสูงและความดันโลหิตสูง ซึ่งก็ไม่สูงมาก ไม่ต้องกินยา เพียงแนะนำให้ออกกำลังกายและลดอาหารบางชนิด

ปลายปี 2547 ไปตรวจอีกคราวนี้เขาแจ้งผลการตรวจและการวิเคราะห์มาเป็นตารางอย่างละเอียด แต่หมอก็สรุปว่าเราปกติ ยกเว้นไขมันสูง ความดันสูง ไม่ต้องกินยา ปีต่อๆ มาซิเริ่มเห็นปัญหาของต่อมลูกหมาก  ดูผลการตรวจเลือดในตาราง (ค่าที่ทำเป็นสีแดงไว้ แสดงว่าไม่อยู่ในเกณฑ์ปกติ ต่ำไป หรือสูงไปตามตัวเลข)

 ผลการตรวจเลือดประจำปี  ของ นายวินัย เพชรช่วย (จากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ)

เดือน ปี ที่ตรวจ

 

ก.พ.2550

ก.พ.2549

ต.ค.2547

รายการตรวจ

ค่าปกติ

ค่าที่ได้ 

 ค่าที่ได้ 

 ค่าที่ได้ 

หมู่เลือด(Blood group)   O

 

 

 

 

ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด(CBC)

 

 

 

 

ความเข้มข้นของเลือด(Hemoglobin)

14.0-17.0g/dL

14.8

14.8

15.1

ความเข้มข้นของเลือด(Hematocrit)

42.0-53.0%

45.4

43.9

43.9

จำนวนเม็ดเลือดขาว(WBC)

5.2-12.4 10^3/uL

5

6.1

6

จำนวนเกร็ดเลือด(Platelet count)

150-400 10^3/uL

188

182

158

การตรวจสารเคมีในเลือด

 

 

 

 

ระดับน้ำตาลในเลือด(FBS)

55-115 mg/dL

110

99

97

การทำงานของไต: BUN

9-20 mg/dL

14

13

16

                         Creatinine

0.5-1.2 mg/dL

1.6

1.5

1.4

กรดยูริค(Uric acid)

2.5-7.0 mg/dL

7

6

7

ไขมันคลอเรสตอรอล(Cholesterol)

120-200 mg/dL

224

235

251

ไขมัน เอช ดี แอล(HDL Chol)

35-55 mg/dL

60

69

70

ไขมัน แอล ดี แอล(LDL Chol)

0-130 mg/dL

141

174

161

ไขมันไตรกลีเซอรไรด์(Triglycerides)

50-190 mg/dL

164

109

146

การทำงานของตับ(LFT)

 

 

 

 

          Total protien

6.5-8.5 g/dL

8.5

8.1

7.9

          Albumin

3.5-5.0 g/dL

5.2

4.7

4.6

          T.Bilirubin

0.0-1.5 mg/dL

1.03

1.28

1.14

          D.Bilirubin

0.0-0.5 mg/dL

0.28

0.36

0.28

          SGOT (AST)

5-40 U/L

35

27

31

          SGPT (ALT)

5-40 U/L

43

33

42

          Alk.Phosphatase

35-125 U/L

57

54

56

Total PSA (สารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก)

0-4 ng/mL

9.28

6.91

4.57

HBs Ag

Negative

negative

negative

negative

AFP (สารบ่งชี้มะเร็งตับ)

0-10.6 ng/mL

3.64

3.46

3.75

VDRL

Non-Reactive

non-reactive

non-reactive

non-reactive

Anti HIV.

Negative

-

-

-

             ดูจากตาราง ผมสามารถลดไขมันคลอเรสตอรอลลงได้ทุกปี จนเกือบจะเข้าสู่เกณฑ์ปกติ  แต่ค่า PSA ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมากเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างช้าๆ ดังนั้นในปี 48-49 หมอที่สถาบันมะเร็งไม่ได้แนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม หมอคลำดูไม่พบก้อนอะไรที่ต่อมลูกหมาก ก็บอกว่าปกติ  ก่อนปีใหม่ 2550 ผมไปพบหมอที่คลินิกข้างบ้านเพื่อตรวจอาการแพ้ที่ผิวหนัง และให้เขาดูผลการตรวจเลือด เมื่อเห็นระดับ PSA หมอก็บอกว่าเป็นระดับที่น่ากังวลแล้ว ต้องเฝ้าระวังและไปตรวจเพิ่มเติมโดยเร็ว เมื่อนำเรื่องนี้มาบอกคุณราตรี ทำให้เขาเป็นกังวลขึ้นมาทันที   แต่ผมคิดว่าต้องหาความรู้เกี่ยวกับมะเร็งต่อมลูกหมาก และทำความเข้าใจเรื่อง PSA ให้ได้ (ส่วนใหญ่ค้นจาก internet) 

 PSA  คืออะไร?.....PSA ย่อมาจาก  Prostate-specific antigen  เป็นโปรตีนที่จำเพาะต่อเนื้อเยื่อของต่อมลูกหมาก พบครั้งแรกในปี ค.ศ.1971  เป็น polycoprotein สายเดี่ยวที่มีขนาด 34 Kd เป็นโปรตีนที่สร้างจาก  epithelial cells บริเวณ  acinus  และท่อของต่อมลูกหมากเท่านั้น จึงค่อนข้างมีความจำเพาะต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก  วัดระดับได้จากการตรวจเลือด มีหน่วยเป็น  ng/ml จะพบมีค่าสูงในมะเร็งต่อมลูกหมาก ระดับในซีรั่มมีความสัมพันธ์กับระยะและการลุกลามของโรค  ใช้ในการพยากรณ์และตรวจหามะเร็ง หรือตรวจหาการลุกลามของโรคภายหลังการรักษา  ความไวของ PSA ต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ประมาณ 70%......

ระดับของ PSA บอกอะไร? ... ระดับ PSA  วัดได้จากการตรวจเลือด มีหน่วยเป็น นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร (ng/ml.) แพทย์ส่วนใหญ่ มีความเห็นว่า  PSA <4.0 ng/ml. เป็นค่าปกติ  อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้พบมะเร็งต่อมลูกหมากในชายที่มีระดับ PSA ต่ำกว่า 4.0 ng/ml.มากขึ้น แพทย์ส่วนหนึ่งจึงกำหนดระดับในการพิจารณาใหม่ โดยไม่กำหนดระดับปกติหรือไม่ปกติ ดังนี้

0-2.5   ng/ml.  ระดับต่ำ

2.6-10  ng/ml. ระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

10-19.9 ng/ml. ระดับสูงปานกลาง

>20 ng/ml.   สูงมากอย่างมีนัยสำคัญ

 ผู้ชายปกติจะมีระดับ PSA ในเลือดต่ำ  แต่คนที่มีต่อมลูกหมากโต หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก จะทำให้ระดับ PSA สูงขึ้น เพียงรู้ระดับ PSA  ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้แพทย์จำแนกได้ระหว่างต่อมลูกหมากโตและมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ช่วยให้แพทย์ตัดสินใจตรวจสอบหามะเร็งโดยวิธีอื่นต่อไป

 เอาละ ดูจะเป็นข้อมูลหนักๆ เป็นวิชาการไปมากแล้ว  มาติดตามเรื่องของผมต่อ

 ก.พ.2550 ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีที่สถาบันมะเร็งอีกครั้ง ผลออกมาดังตาราง ค่า PSA ขึ้นมาเป็น 9.28  เพิ่มอีกแล้ว รายงานผลตรวจว่ามีความผิดปกติที่ต่อมลูกหมาก ค่า PSA สูงกว่าปกติเล็กน้อยให้มาพบแพทย์ที่สถาบันฯ หมอนัดไปพบ วันที่ 8 มี.ค. คราวนี้หมอคลำดูรู้สึกว่าพบก้อนเล็กๆที่ต่อมลูกหมาก แนะนำว่าตรวจเลือดอีกครั้งในวันที่  1 มิ.ย. เพื่อดู total PSA และ free PSA  ไปฟังผลวันที่ 8 มิ.ย. หมอไม่บอกค่าอะไรที่วัดได้ แต่แนะนำว่าควรตัดชิ้นเนื้อที่ต่อมลูกหมากไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง  ถึงตอนนี้ผมเริ่มมึน อึ้งและสับสนเล็กน้อย แต่ในใจคิดก้ำกึ่งว่าเราเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากแล้วจริงหรือ น่าจะไม่นะ ถ้าควบคุมอาหารการกินน่าจะลดระดับ PSA ลงได้ (มีบางคนทำได้)  ถ้าเป็นมะเร็งจริง ที่สถาบันมะเร็งเขาก็รักษาได้เหมือนกัน แต่ดูแล้วหมอไม่ค่อยจะเป็นกันเองเท่าไร ถามอะไรก็ตอบห้วนๆ จึงบอกหมอที่นั่นว่า ขอตรวจเลือดอีกครั้งก่อนที่จะให้หมอตัดชิ้นเนื้อ เขายอม และนัดตรวจเลือดอีกครั้งวันที่ 4 ก.ย.50

 ถึงตรงนี้ต้องแทรกวิชาการอีกนิดหน่อย  คือ Total PSA  และ  Free PSA

PSA ที่ปะปนหมุนเวียนในกระแสเลือด มี 2 รูปแบบ คือ ที่เกิดจากเซลล์มะเร็ง เรียกว่า attached psa จะจับยึดอยู่กับโมเลกุลของโปรตีน และ ที่เกิดจากต่อมลูกหมาก เรียกว่า Free PSA ลอยตัวเป็นอิสระ ดังนั้น ถ้ามี  Free PSA สูงแสดงว่าต่อมลูกหมากโต แต่ถ้า Total PSA สูง  แต่ Free PSA ต่ำ เป็นการบ่งชี้ว่าเป็นมะเร็ง

TOP

4. การตัดตรวจชิ้นเนื้อ (biopsy)

 กลับจากสถาบันมะเร็งมาบ้าน ปรึกษากับคุณราตรี ภรรยา  คราวนี้ทำให้เธอวิตกมากขึ้น  เพราะเป็นสัญญาณชัดว่ามะเร็ง มาเร่งเราเข้าแล้ว เธอบอกว่าถ้าจะรักษาต้องไปโรงพยาบาลศิริราช เพราะมีเครื่องมือพิเศษรุ่นใหม่ เป็นหุ่นยนต์ในการผ่าตัดต่อมลูกหมาก  เคยเห็นคณะแพทย์จากศิริราชมาออกรายการทีวีแนะนำเครื่องมือนี้  ขณะเดียวกันพี่สาวของเธอซึ่งเป็นพยาบาลอยู่สหรัฐ ซึ่งทราบค่า PSA ของผม ตั้งแต่เดือน มี.ค. ก็โทรมาว่าต้องรีบไปทำ biopsy ตรวจชิ้นเนื้อโดยเร็ว อย่าปล่อยไว้นาน เพราะพี่เขยของคุณราตรี  ค่า PSA เพียง 5 เขาไปตรวจและผ่าตัดเรียบร้อยมาปีกว่าแล้ว (เราเพิ่งรู้) สุดท้ายด้วยแรงผลักดันของคนใกล้ตัวทั้งหลาย ผมจึงไปโรงพยาบาลศิริราช วันพุธที่ 13 มิ.ย.2550 ใช้บริการคลินิกพิเศษนอกเวลา (16.00-20.00) นำผลการตรวจจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติตามตารางข้างต้นไปให้หมอพิจารณา

 ระหว่างที่รอตรวจวันนั้น เห็นพี่ประเทิน มหาขันธ์ พี่บางแสนรุ่น 1 นั่งรออยู่ด้วย คุยกันจึงรู้ว่า พี่เขารู้ผลการตรวจชิ้นเนื้อแล้ว รพ.ชลบุรีส่งต่อมาที่ศิริราชเพื่อรักษาโดยการผ่าตัด  สักครู่จึงเจอภารดี(ตึ๋ง) เพื่อนช้างบางแสนรุ่น 4 จึงคุยกันเรื่องการตรวจพบและอาการต่างๆ ทำให้ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกก่อนเข้าตรวจ ผมได้เข้าพบหมอก่อนพี่ประเทิน เพราะพี่เขาต้องไปทำเอกสารส่งตัวจากชลบุรีให้เข้าระบบของศิริราชก่อน

 หมอที่ศิริราช (รศ.นพ.สุนัย ลีวันแสงทอง) พิจารณาตัวเลขค่า PSA ครู่เดียวก็บอกว่า ไม่ต้องตรวจเลือดซ้ำ การที่ค่าเพิ่มขึ้นทุกปี  PSA ะดับนี้ต้องทำ biopsy แล้ว ให้ใบนัดทันที ให้มาตัดชิ้นเนื้อตรวจใน วันที่ 21 มิ.ย. พร้อมใบสั่งยาและอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม (รับจากห้องจ่ายยา)

มียาปฎิชีวนะชนิดเม็ดที่ต้องเริ่มกินก่อนตรวจ 2 วันและต่อไปจนหมด ยาฉีดสำหรับฉีดเข้าเส้นในวันตรวจ และเข็มตัดตรวจอันใหญ่ยาวเกือบฟุต อีกหนึ่งอัน หมอให้เอกสารแผ่นพับแนะนำการเตรียมตัวเพื่อรับการตรวจมาให้ศึกษาด้วย  ผมจะได้รับการตรวจ ที่เรียกว่า การใช้เข็มตัดตรวจเนื้อต่อมลูกหมากผ่านทางทวารหนักด้วยเครื่องอัลตร้าซาวด์ (Transrectal Ultrasound and Biopsy of Prostate Gland) คือการสอดใส่หัวตรวจอัลตร้าซาวด์เข้าทางทวารหนัก และใช้เข็มตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากส่งตรวจว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเป็นพยาธิสภาพอย่างอื่นของต่อมลูกหมาก

วันที่ 19 มิ.ย. ผมเริ่มกินยาตามที่หมอสั่ง สวนอุจจาระตอนเย็นวันที่ 20 มิย. เพื่อให้ลำไส้และทวารหนักสะอาด เช้าวันที่ 21 ถ่ายเป็นปกติ ไม่ต้องสวนอีก  วันที่ 21 มิ.ย. ออกจากบ้านแต่เช้าพร้อมคุณราตรี นำยาและอุปกรณ์ที่หมอสั่งไปถึงศิริราช 8.30 น. หมอนัด 9.00 น. ที่ตึกสยามมินทร์ ชั้น 5 ห้องตรวจระบบทางเดินปัสสาวะ มีคนมานั่งรอกันทั้งหญิงชายหลายวัยอยู่แล้วมากมาย มีรายชื่อหมอ 3 คน ที่จะตรวจค้นไข้ คนป่วยมาตามนัดของหมอประจำของตัวเอง (โรคระบบทางเดินปัสสาวะมีหลายโรค)  ยื่นใบนัดแล้วนั่งรอ ดูความพลุกพล่านของผู้คน ทั้งคนป่วย ญาติ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ชั้นนี้เป็นชั้นที่มีห้องผ่าตัดหลายห้อง เจ้าหน้าที่เข็นเตียงออกจากลิฟท์นำคนป่วยที่ต้องผ่าตัดเข้ามาส่งเป็นระยะๆ 

ระหว่างที่นั่งรอให้พยาบาลเรียก เหลือบไปเห็นข้อความที่เขียนตัวโตพอสมควร แสดงความเสี่ยงของผู้ที่มีความผิดปกติของต่อมลูกหมากว่า  ต่อมลูกหมากโต มีโอกาสเป็น 1 ใน 10 คน  ส่วนมะเร็งต่อมลูกหมาก มีโอกาสเป็น 1 ใน 100 คน คุณราตรี ใจระทึกคาดเดาไปว่า เราจะเป็น 1/10 หรือจะเป็นคนหนึ่งที่อาจต้องไปร้องเพลง หนึ่งในร้อย "...ร้อยคน มีหนึ่งเท่านั้นเอง.."

เช้าวันนั้น นพ.สุนัย  ติดคุมสอบนักศึกษา จึงขึ้นมาตรวจสาย กว่าพยาบาลเรียกให้ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เซ็นหนังสือยินยอมรับการตรวจ และเตรียมตัว ก็เกือบ 10.00 น. แล้ว  แต่งตัวรอโดยใส่เสื้อคนป่วยเอาสาบเสื้อไว้ข้างหลัง กางกางในไม่ใส่ นั่งรออีกชั่วโมงหนึ่ง พยาบาลจึงเรียก เข้าไปฉีดยาที่เตรียมไว้เข้าเส้นเลือด ผมไม่แพ้ยาใดๆ จึงไม่มีปัญหา พยาบาลบอกกระบวนการตัดตรวจย่อๆ และให้คำแนะนำว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรหลังการตรวจ วันนั้นมีคนมาตรวจแบบเดียวกับผมอีกสองคน อายุมากกว่าผม คนหนึ่งมาจากนครสวรรค์ ได้คุยกัน  PSA ของเขาเพียง 5 กว่า  ส่วนอีกคนไม่ได้คุย นั่งรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง พยาบาลเรียกเข้าตรวจตามลำดับคิว ใช้เวลาในการตัดตรวจคนหนึ่งประมาณ 10 นาที

ผมเข้ารับการตัดตรวจเป็นคนสุดท้าย เข้าห้องผ่าตัดเล็กสำหรับการนี้โดยเฉพาะ ขึ้นเตียงนอนตะแคงซ้ายหันหน้าเข้าฝาห้อง งอเข่าทั้งสองข้างชิดหน้าอก (เหมือนตอนที่คลำต่อมลูกหมาก) ไม่เห็นหน้าหมอและพยาบาล ซึ่งอ่านหน้าจอดูตำแหน่งที่จะตัด หมอใช้เครื่องมือที่กล่าวข้างต้นสอดเข้าทางทวารหนัก ตัดชิ้นเนื้อของต่อมลูกหมากไป 12 ชิ้น ข้างละ 6 ชิ้น ขณะที่ตัดมีเสียงดัง แก้บ ๆ ๆ คล้ายเสียงดีดของสปริง ไม่เจ็บเท่าไร ไม่ทราบว่ายาที่ฉีดเข้าเส้นเลือดระงับปวดด้วยหรือเปล่า เสร็จแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นของเรา  นั่งรอรับใบนัด หมอนัดให้มาฟังผลการตรวจในวันที่ 4 ก.ค.50 ที่คลินิกพิเศษนอกเวลา ได้ใบนัดแล้วกลับบ้าน

บ้านผมอยู่ถนนพิบูลสงคราม นนทบุรี การเดินทางมาศิริราชสะดวกมาก  ถ้านั่งแท้กซี่จะเสียค่าโดยสารประมาณเที่ยวละ 90-100 บาท  นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าน้ำนนท์ก็ได้ ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าโดยสาร 13 - 18 บาท ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเรือธงส้มหรือธงเหลือง หรือจะนั่งรถประจำทางสาย 32  หรือ 203 มาลงที่ท่าพระจันทร์แล้วนั่งเรือข้ามฟากไปศิริราช  เลือกวิธีใดก็ได้ตามความเหมาะสมของวัน เวลา และสภาพการจราจร ส่วนการจะขับรถไปเอง มีปัญหาเรื่องที่จอด

คำแนะนำเรื่องการดูแลตนเองหลังการตัดตรวจมีดังนี้

1. รับประทานยาตามแพทย์สั่งจนหมด ไม่ควรซื้อยามารับประทานเองโดยแพทย์ไม่ได้สั่ง

2. ให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว (1500-2000 ซีซี) รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารอ่อน  อาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อถ่ายอุจจาระสะดวก ไม่ระคายเคือง

3. ไม่ควรออกกำลังกายหรือทำงานหนักภายหลังการตรวจ 4-5 วัน

4. อาจมีปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือดเล็กน้อยประมาณ 1-2 วัน

5. อาการผิดปกติที่ต้องมาพบแพทย์ก่อนวันนัด  ได้แก่ มีปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือดมากผิดปกติ  มีไข้สูง หนาว สั่น หรือปวดปัสสาวะมากแต่ปัสสาวะไม่ออก

ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ถึง วันที่ 3 ก.ค. ผมปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด การดื่มน้ำมากทำให้ปัสสาวะบ่อย แต่มีเลือดปนเฉพาะวันแรกเท่านั้น เรื่องอาหารการกินได้รับการดูแลอย่างดีจากคุณราตรี ภรรยาผู้มีความกังวลค่อนข้างมากต่อผลการตรวจ

TOP

5. พบมะเร็งแล้ว  ทำอย่างไรต่อไป 

ระหว่างที่รอผลการตัดตรวจชิ้นเนื้อ  จะกล่าวถึงวิธีที่แพทย์ใช้ตรวจความผิดปกติในต่อมลูกหมาก  3 วิธีหลักๆ คือ

1. ใช้นิ้วคลำผ่านทางทวารหนัก ( Digital rectal exam) หรือ  DRE  เป็นวิธีมาตรฐานในการตรวจต่อมลูกหมาก  สวมถุงมือยางทาสารหล่อลื่น ใช้นิ้วชี้ล้วงเข้าทางทวารหนักเพื่อสัมผัสต่อมลูกหมาก ใช้เวลาประมาณ 10-15 วินาที วิธีนี้ใช้ตรวจลักษณะต่อไปนี้

ขนาด  ความแข็งแรง  และพื้นผิวของต่อมลูกหมาก

ความแข็งกระด้าง  ก้อนนูน โตจากต่อมลูกหมาก

ความรู้สึกเจ็บปวดขณะที่หมอสัมผัสหรือกดที่ต่อมลูกหมาก

โดย DRE แพทย์สามารถคลำต่อมลูกหมากได้เพียงซีกเดียวเท่านั้น  จึงอาจต้องตรวจโดยวิธีอื่นอีก

2. ตรวจระดับ PSA  ได้กล่าวรายละเอียดในตอนต้นแล้ว

3. การตัดตรวจชิ้นเนื้อ (Prostate biopsy) ใช้ในกรณีที่มีข้อบ่งชี้จากการตรวจโดยวิธีอื่นและอาการของโรค ว่าน่าจะเป็นมะเร็ง คือการตัดชิ้นเนื้อหลายๆ ชิ้นจากต่อมลูกหมากไปส่องกล้องจุลทัศน์เพื่อดูความผิดปกติของเซลล์  ซึ่งหลายๆ คนที่ตัดตรวจชิ้นเนื้อแล้ว พบว่าไม่เป็นมะเร็ง (คนที่เป็น คือ หนึ่งในร้อย.......สำหรับประเทศไทย)

วันที่ 4 ก.ค.50 ผมพร้อมกับคุณราตรีไปพบหมอที่ศิริราชตามเวลานัด ที่คลินิกนอกเวลา  หมอดูผลการตัดตรวจชิ้นเนื้อแล้ว บอกว่ามีมะเร็ง แต่เป็นระยะแรกๆ ซึ่งรักษาให้หายได้ การรักษามีสองวิธีสำหรับระยะนี้ คือ การผ่าตัดเอาต่อมลูกหมากออกทั้งหมด และการฉายรังสี หมอแนะนำว่าควรผ่าตัด คงเห็นว่าผมมีสุขภาพดี ร่างกายแข็งแรง

หมอบอกว่าการผ่าตัดมีสองวิธี คือ การผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง เป็นแผลยาวตั้งแต่ใต้สะดือลงไปถึงหัวเหน่า แบบนี้เป็นข้าราชการเบิกค่ารักษาได้หมด  อีกวิธีหนึ่ง ใช้หุ่นยนต์หรือมือกลช่วยผ่าตัด เป็นการเจาะหน้าท้อง 5 รู แผลเล็ก แม่นยำกว่า เสียเลือดน้อยกว่า และฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีแรก แต่ค่าใช้จ่ายส่วนของมือกล(หนึ่งแสนบาท) เบิกจากราชการไม่ได้ ผมบอกว่าจะผ่าตัด แต่จะเป็นวิธีใดจะขอไปปรึกษากับภรรยาและลูกก่อน  จากนั้นหมอสั่งให้ไปทำ bone scan ทั้งตัว ณ ตึกศูนย์โรคหัวใจ ชั้น 10 เพื่อให้แน่ใจว่ามะเร็งยังไม่กระจาย (มะเร็งต่อมลูกหมากจะกระจายไปยังกระดูกเป็นสำคัญ) และนำผลการสแกนมาพบหมอ ในวันที่ 11 ก.ค.50  ที่คลินิกพิเศษนอกเวลา จะได้เตรียมการ นัดวันผ่าตัดและวิธีผ่าตัดที่ต้องการด้วย

พบแล้ว มะเร็ง มันแอบมาอยู่กับเราตั้งแต่เมื่อไรกัน ตามเอกสารที่ศึกษา บอกว่ามะเร็งชนิดนี้เติบโตอย่างช้าๆ อาจอยู่ในตัวเรา 10, 20 หรือ 30 ปี จึงแสดงอาการให้เห็น มีบางคนที่อายุยืนมากพบมะเร็งนี้เมื่ออายุ 80  ตอนนี้อาการของผมก็ยังไม่มีอะไรมาก ปัสสาวะก็ปกติ อาจไม่พุ่งแรง แต่ไม่เจ็บปวดและไม่บ่อย กลางคืนก็เพียงครั้งเดียว ไม่มีเลือดปน ปวดสะโพกบ้างแต่ก็ไม่ประจำ คิดว่าเพราะขับรถทางไกลบ่อยๆ แต่แน่นอนว่ามันมาอยู่ในตัวเราแล้ว  สิบกว่าปีแล้วกระมัง  นับว่าโชคดีที่พบในระยะแรกๆ ของมัน...เมื่อกลับมาบอกคุณราตรี หน้าเธอเหี่ยวลงเล็กน้อย แสดงแวววิตกกังวลมากขึ้น  จึงบอกว่าไม่ต้องกลัว คนเป็นกำลังใจยังดี จะศึกษาให้เข้าใจและอยู่กับมัน คนใกล้ตัวอย่าเครียด เดี๋ยวจะป่วยหนักกว่า

วันที่ 5 ก.ค. ไปศิริราชอีกครั้ง ตั้งแต่แปดโมงเช้าเพื่อนัดทำสแกนกระดูก ที่ชั้น 10 ตึกโรคหัวใจ ชั้นนี้ เป็นชั้นของเวชศาสตร์นิวเคลียร์ มีเครื่องสแกนหลายรุ่น ซึ่งต้องใช้สารกัมมันตภาพรังสีประกอบ  ที่จะสแกนกระดูก เป็นเครื่อง PET (Positron Emission Tomograghy)

ปรากฏว่าเมื่อยื่นใบขอของหมอเพื่อนัดทำสแกน เจ้าหน้าที่บอกว่า เวลาปกติมีคิวเต็มหมด  จึงนัดให้มานอกเวลาในวันที่ 11 ก.ค. แต่ต้องมาเตรียมตัวตั้งแต่เที่ยงวัน ฉีดสารรังสีเข้าเส้นเลือดแล้วต้องรอ 3-4 ชั่วโมงจึงเข้าเครื่องสแกนได้ ใช้เวลานอนผ่านเครื่อง 45 นาที ทำเสร็จรับผลไปหาหมอตอนหนึ่งทุ่มได้เลย ตกลงนัดตามนี้ ได้ใบนัดและคู่มือไปอ่าน

วันที่ 11 ก.ค. ไปแผนกเวชศาสตร์นิวเคลียร์ หลังเที่ยงเล็กน้อย ยื่นใบนัดแล้วนั่งรอ  สักครู่เดียวเห็นพี่ประเทิน กับภารดี ขึ้นมา พี่ประเทินมาสแกนกระดูกเหมือนกัน พี่บอกว่าหมอนัดผ่าตัดพี่ วันที่ 25 ก.ค. โดยวิธีเปิดหน้าท้องเป็นแผลยาว ใจจริงพี่ต้องการผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์หรือมือกล แต่เพราะพี่มีแผลที่หน้าท้องจากการผ่าตัดลำไส้มาก่อน หมอบอกว่าไม่อาจใช้เครื่องมือชนิดนี้ได้

ผมและพี่ประเทินเป็นคนไข้ของหมอคนเดียวกัน คือ นพ.สุนัย ลีวันแสงทอง พี่ประเทินมาผ่าตัดที่ศิริราช เพราะหมอที่ชลบุรีซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหมอสุนัยส่งต่อมา บอกว่าหมอสุนัยเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินปัสสาวะ และเป็นมือหนึ่งด้านศัลยศาสตร์ยูโร คือการผ่าตัดระบบทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะต่อมลูกหมาก

ผมมาตรวจที่ศิริราชโดยไม่รู้อะไรมาก่อน แต่บังเอิญมาตรงกับวันที่หมอสุนัยตรวจพอดี หมอจะประจำที่คลินิกนอกเวลาเฉพาะวันพุธเท่านั้น .....นับว่าเป็นโชคของนายวินัย

ผมและพี่ประเทินผ่านกระบวนการสแกนกระดูกตามขั้นตอนตั้งแต่ฉีดสารรังสีเข้าเส้นเลือด รออีกสามชั่วโมง เมื่อได้เวลาจะเข้าเครื่องสแกน ต้องเปลี่ยนชุดเป็นชุดคนไข้ เข้าเครื่องคนละเครื่อง ผมถูกเรียกเข้าไปหลังพี่ประเทิน เสร็จประมาณ 17.00 น.

นั่งรอรับผลอีกเกือบชั่วโมง ประมาณ หกโมงเย็นได้ผลการสแกนกระดูก เป็นรูปเล็กๆ หลายรูปในกระดาษ A4 หนึ่งแผ่น แสดงด้านหน้าและด้านหลังของโครงกระดูกทั้งตัว ด้านหน้าหลังของส่วนอก และซ้ายขวาของส่วนกะโหลกศีรษะ  นำไปยื่นพร้อมใบนัดตรวจที่คลินิกพิเศษนอกเวลา

ได้เวลาตรวจ หมอพิจารณาผลการสแกนกระดูกแล้วบอกว่า OK ยังไม่มีการกระจายของมะเร็ง นัดวันผ่าตัด ผมบอกว่าจะผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์หรือมือกล และขอจองห้อง  หมอพิจารณาคิวผ่าตัดของหมอจากสมุดบันทึก บอกว่า มีคนไข้คนหนึ่งเลื่อนวันนัดออกไป  ให้ผมได้คิวนั้นเข้ารับผ่าตัดได้ ในวันที่ 20 ส.ค.50 ไม่เช่นนั้นต้องรอไปอีกสองเดือนคิวจึงว่าง

หมออธิบายให้ฟังว่ามือกลที่ใช้ผ่าตัดต่อมลูกหมากเป็นเทคโนโลยีใหม่ ในเอเชีย มีใช้แค่สามประเทศ คือ ญี่ปุ่น มาเลเซีย และไทย ค่าบริการที่ญี่ปุ่นครั้งละเจ็ดแสนบาท ที่มาเลเซียครั้งละสามแสนบาท ที่เมืองไทยปีนี้ยังคิดเพียงหนึ่งแสนบาท แต่ปีหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองแสนบาท  ที่แพงก็เพราะเมื่อใช้แล้วเปื้อนเลือด ต้องทิ้งเลย นำไปใช้ซ้ำกับผู้ป่วยคนอื่นไม่ได้

วันนี้ (11 ก.ค.) ให้ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และเอกซเรย์ปอดก่อน  หากหัวใจไม่แข็งแรงจะต้องส่งต่อไปพบแพทย์หัวใจ  การตรวจทั้งสองรายการทำได้ในเย็นวันนั้นเลย นำผลไปยื่นให้พยาบาลผู้รับเรื่อง เขานำเข้าไปให้หมอพิจารณา ออกมาบอกว่า ปกติทั้งสองอย่าง จึงออกใบนัดผ่าตัด จองห้องพักและกำหนดวันว่าต้องมาเข้าโรงพยาบาลวันอาทิตย์ที่ 19 ส.ค.ก่อนผ่าตัด 1 วัน (วันที่ 19 ส.ค.50 เป็นวันกำหนดลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ ขณะที่เขานับถอยหลังเรื่องลงประชามติ ..ผมก็นับถอยหลังจะเข้าโรงพยาบาล) ..กลับไปรออีก 40 วัน  จะถึงวัน ดีเดย์

 ่านต่อ  ตอนที่ 2      

TOP

ลักษณะของมะเร็งต่อมลูกหมาก 4 ระยะ
ระยะที่ 1 และ 2 ก้อนมะเร็งยังอยู่ภายในต่อมลูกหมาก
ระยะที่ 3 และ 4 เซลล์มะเร็งกระจายออกไปภายนอกต่อม สู่ส่วนอื่นของร่างกายแล้ว

  StageI cancer (also called T1) State II cancer (also called T2)

StateIII cancer

 StateIV cancer