.....เกื้อกูลอุ่นเอื้อเฟื้อ ไมตรี
เพิ่มพูนบุญบารมี มากล้น
หลงบ้าเงินตรา เป็นพระเจ้า
จิตย่อมมืดมอดม้วย หมดสิ้นไมตรี
.........สายตามาหดสั้น ทันใด
ความคิดติดรั้วใน ที่นี่
ความครัวตัวกู กำหนด
หลงรักโลภล้น ห่มหุ้มคลุมใจ
........กูอิ่มลูกอิ่ม ยิ้มแย้ม
แต่งแต้มฟุ่มเฟือย ยิ่งใหญ่
สังคมจมทุกข์ (ก็)ทุกข์ไป
ตัวใครตัวมัน พันธ์สัตว์เมือง.
โรจน์ระวี
๑๕มีนาคม๒๕๔๕
...หนาวหลีกผีกร้อน ปลายหนาว
เรื่องราวร้อนแล้ง ฟูเฟื่อง
น้ำไหลล้นหลาก ดากคนเมือง
บ้านป่าสะเทือน ตำดินกิน...
หน้าแล้งจู่โจม มาเยี่ยมยามถามข่าวกันแล้ว ความอุ่นเอื้อเกื้อกูล เห็นใจในความทุกข์ยากลำบากของคนอื่น
เป็นเรื่องที่ท่านญาปู่ ชูมาตอกย้ำ เป็นหัวข้อธรรมอย่างถี่ยิบ ในช่วงนี้ ..คนต้องมีเมตตา หมาถึงเห็นแก่ตัว..แรงแทงใจ
พ่ะยะค่ะ..!
Happiness depends on what you can give not what you can get.
ความสุขเกิดจากการได้ให้ มิใช่เกิดจากการได้เอา
"มองให้ไกลเกินรั้วบ้าน ขยันทำทานอย่างมีปัญญา เห็นทุกข์ของคนอื่น เสมอทุกข์ของตน นี่แหละชนเผ่า
โพธิสัจแท้ๆ.."
สารสาระในมหาญาณ ก็เป็นหนึ่งในการทานด้วย วิทยาตรง..ชัด..คัก..กัดกิเลสไม่มีปล่อย สะเทือนซางใคร
ก็ช่วยไม่ได้เพราะเราไม่ได้หมายว่าจะว่าใคร? เราไม่ได้เกลียดคนชั่ว แต่เราเกลียดความชั่ว.วิทยาทาน..อภัยทาน..ธรรม
ทาน.. เป็นบุญบารมีที่ไม่ต้องอาศัยเงิน ทุกคนทำได้ทุกเวลา.. สถานที่ไร้ขีดจำกัด
วันนี้คุณได้ยิ้มให้ใคร..ได้อภัยให้คน..แล้วหรือยัง !
ฉบับเดือนเมษายน๒๕๔๕
สงกรานต์ก่อการร้าย ทั่วไทย
ประชาชนล้มตาย ทั่วหล้า
บาดเจ็บพิการ เกลื่อนกล่น
รถยนต์,ถนนล้วน เข่นฆ่าประชาไทย
มโหธรเทวี ปีม้า
นอนหลังมยุรา มาได้
ทัดดอกสามหาวมา แปลกน่ะแม่
มือขวาถือจักรร้าย มือซ้ายตรีศูล
สี่นาคาให้น้ำ เนืองนอง
ห้าสิบห่าเต็มคลอง ท้องทุ่ง
ผลผลิตจะพาเป็น เศรษฐีใหม่
ได้มือถือรุ่นล้า ชูหน้าประชาชี
เงินหลวงไหลหลากล้น ท่วมนา
น้ำโรงงานฆ่าปลา ป่นปี้
ในนามีดอกเบี้ย บานชูช่อ
กู้มาโก้เกิดก่อ หนี้ท่วมแผ่นดินไทย
น้ำมัน น้ำของมึง พุ่งสูง
NPL กินชาวทุ่ง ไทยจับไข้
ทัพประชา รากหญ้า มุ่งมาไทย
ปวดกระโหลก บรรลัย พี่แม้วกู
คนในรัฐ จะรุมฟัด แสวงผล
ไดโนเสาร์ บางตน ใช้กลหรู
ไทยรักไทย ลากไทย ไกลจากรู
ก็ต้องตาม ไปดู แหละสูเอย...
โรจน์ระวี
๑๗เม.ย.๒๕๔๕
... วันตรุษสงกรานต์ กลายเป็นงาน มหกรรมตายโหงประจำปีช่วงวันหยุดยาว ๑๑-๑๖เม.ย.มีสถิติอุบัติเหตุ ที่น่าตื่นตระหนก
คือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ๗๖,๗๔๔รายตาย ๘๒๑ ศพบาดเจ็บ๓๗,๔๓๗ราย ค่าเสียหายหลายหมื่นล้านบาท ประเพณีอันดีงามของไทย
ไหงมากลาย เป็นโศกนาฏกรรม ที่นำมาซึ่งความสูญเสียมหาศาลทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างนี้ น่าตั้งคำถามแล้วน่ะว่า การให้วันหยุดยาว
เพื่อลางานกันไปตาย มันคุ้มไหม...?
นสพ.New york Time.[USA] ฉบับ๑๕เม.ย.๔๔ ได้เขียนถึงการเล่นสงกรานต์ของไทยว่า....
เป็นแค่การสาดน้ำเข้าใส่กันเท่านั้น ไม่ได้มีคุณค่าทางวัฒนธรรมเหลืออยู่เลย แถมยังพบว่า มีความรุนแรง
ในการเล่นสาดน้ำอีกด้วย เช่นใช้ท่อพีวีซี หรือน้ำแข็งมาสาดใส่กัน..และน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์ ก็ยังเป็นน้ำสกปรก..
ไอ้ฝาหรั่งตาน้ำข้าว นี่มันใส่ร้ายวัฒนธรรมไทย เหลือเกินเลยน่ะครับ คนไทยเขาเล่นน้ำแบบสุภาพมา...ก
ไอ้พวกที่ใช้แป้งลูบคลำขยำอก ...รดกันด้วยน้ำคลองท้องร่อง... ฟาดด้วยถุงน้ำแข็งผสมเมล็ดแมงลักในน้ำ...ฉีดถล่มด้วยปืน
น้ำแรงอัดสูง ...ฯลฯนั้นมันเป็นคนเผ่าอัปรีย์ชน ไม่ใช่คนไทยหรอกขอรับ... ที่ตำรวจไม่กล้าจับ ทั้งๆที่การเล่นแบบนั้นมันผิด
กฏหมาย ก็เพราะกลัวว่าจะไม่เหลือคนไทยไว้ติดประเทศ เท่านั้นเอง จริงๆน่ะ จะ-บอก-ไห่..
ร้อนรุนแรงเพียงไร ชาวมหาญาณ ก็ยังขยันขันแข็ง เพื่อจะนำโพธิธรรม มาอบร่ำจิตใจให้ฉ่ำเย็น โปรดเพียรพลิกเข้าไปพลัน....
Email:
yogithai@thaimail.com
Copyright:2002-2005 by Mahayan Mahasarakham Thailand..
|