..........................................................................................

Cis224 Project

นานเจนวิทย์ นาคเครือ 444372 กลุ่ม 01

นายยุทธพล บังเกิดแสง 451472 กลุ่ม 01

..........................................................................................

 
 


Network Technology
Network Architecture
Standard Organization
Basic Network
Modem
ISDN
ADSL
xDSL
Cable Modem
Wireless Lan
Sattelite
OSI Model
IEEE 802
IEEE and OSI Model
Ethernet
Tokenring
Gigabit Ethernet
FDDI
Frame Relay
ATM
Network Technology
TCP/IP
ISDN
ISDN
          ISDN (Integrated Services Digital Network) เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์นำมาเปิดให้บริการกันเป็นจำนวนมาก (ในประเทศไทยยังอยู่ในวงจำกัด เฉพาะบางชุมสาย และจังหวัดใหญ่ หรือบริเวณที่เป็นแหล่งธุรกิจเท่านั้น : ผู้แปล) ISDN เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่กำหนดโดย CCITT โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายดิจิตอลออกไปให้กว้างไกลทั่วโลก การเชื่อมต่อทุกขั้นตอนจากผู้ใช้บริการไปยังชุมสายผู้ให้บริการ สายสัญญาณที่เชื่อมต่อระหว่างชุมสาย และจากตู้ชุมสายไปถึงผู้รับใช้สัญญาณแบบดิจิตอลทั้งหมด จึงไม่มีความจำเป็นต้องแปลงรูปแบบสัญญาณไปมาอีกต่อไป ดังนั้นบริการของ ISDN จึงเป็นบริการในแบบดิจิตอลชนิดครบวงจรโดยแท้จริง นอกจากนี้บริการ ISDN ยังให้แบนด์วิดธ์ในการรับ/ส่งข้อมูลที่ดีกว่าระบบโรศัพท์แบบเก่าๆ และสามารถให้บริการข้อมูลเสียงหรือแม้แต่ข้อมูลรูปแบบอื่นๆ (เช่น คอมพิวเตอร์, เพลง และวิดีโอ) ไปพร้อมๆ กัน ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของโปรโตคอล ISDN คือสามารถต่อติดได้รวดเร็วกว่า (ประมาณ 5-6 เท่า) หากเปรียบเทียบกับระบบโทรศัพท์ธรรมดา

          ISDN ประกอบไปด้วยโปรดตคอลที่แตกต่างกัน 2 แบบ คือ BRI (Basic Rate Interface) และ PRI (Primart Rate Interface) ซึ่งจะต้องเลือกไว้ก่อนที่จะติดตั้ง โปรโตคอล PRI พอจะนำไปเปรียบเทียบได้กับ T1 สำหรับโปรโตคอล BRI นั้นเป็นมาตรฐานที่ถูกนำไปใช้งานมากกว่า ซึ่งจะประกอบไปด้วย 3 ช่องสัญญาณที่แยกจากกันคือ


          ช่อง D (Data) ขนาด 16Kbps เพื่อส่งข้อมูลที่เป็นสัญญาณควบคุมของระบบ ISDN
                     และข้อมูลของสัญญาณ
          ช่อง B (Bearer) ขนาด 64 Kbps ซึ่งใช้ในการรับ/ส่งข้อมูลทั้งเสียงและข้อมูลอื่นๆ
          ช่อง B อีกหนึ่งช่องที่ขนาด 64 Kbps เพื่อใช้ในการรับ/ส่งทั้งเสียงและข้อมูลอื่นๆ

          บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์ในแถบอเมริกาเหนือนั้นยังคงรองรับวิธีการเก่าๆ เพื่อสนับสนุนการใช้งาน ISDN อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ในบางครั้งการใช้ช่องสัญญาณ B สามารถทำงานได้ที่ความเร็วเพียง 56 Kbps แทนที่จะเป็น 64 Kbps เนื่องจากมาตรฐานที่ใช้ในการบีบอัดข้อมูลบน ISDN เอง ดังนั้นข้อมูลทิ่วิ่งอยู่บนระบบ ISDN ในปัจจุบันจึงยังไม่กำหนดให้มีการบีบอัดแต่อย่างใด ช่อง B ทั้งสองช่องนั้นสามารถถูกนำไปใช้ในการส่งข้อมูล ทั้งที่เป็นเสียงหรือข้อมูลอื่นได้พร้อมๆ กัน หรืออาจจะนำไปใช้ในการส่งข้อมูลเดียวกันไปยังปลายทางคนละแห่งกันก็ได้ หรือแม้แต่จะรวมสองช่องสัญญาณเข้าด้วยกันเพื่อใช้ในการสื่อสารกับสถานที่เดียวกันเพื่อให้ได้แบนด์วิดธ์ที่สูงขึ้น การดำเนินการดังกล่าวนี้เรียกว่า Inverse Multiplexing โดยกระบวนการนี้เป็นมาตรฐานที่ต่อยอดมาจากโปรโตคอล PPP (Point-to-Point Protocol) ที่เรียกว่า Mulltilink PPP (เรื่องของโปรโตคอล PPP จะมีการกล่าวถึงใน บทที่ 3 )


          อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเด็ม ISDN) ที่สนับสนุนการทำงานในลักษณะนี้มีไม่มากนัก ผู้ผลิตโมเด็ม ISDN หลายรายต่างใช้วิธีการที่เป็นรูปแบบเฉพาะของตนเองในการทำ Inverse Multiplexing ซึ่งก็ส่งผลให้การใช้ Terminal Adapter (ก็คือ โมเด็มแบบ ISDN นั่นเอง แท้จริงแล้วควรเรียกว่า TA น่าจะเป็นชื่อที่ถูฏต้องมากกว่า เพราะระบบ ISDN นั้นไม่ต้องทำกระบวนการ Modulate/Demodulate อีก : ผู้แปล) เพื่อให้เกิดการสื่อสารทั้งสองฝั่งต้องใช้โมเด็มของบริษัทเดียวกัน การให้บริการ ISDN นั้นเปิดให้บริการเป็นบางพื้นที่ ระบบ ISDN ยังคงอาศัยสายทองแดงที่ใช้กับโทรศัพท์ทั่วไป เจ้าหน้าที่ของโทรศัพท์จะต้องมาตรวจสอบคุณภาพสายก่อนการติดตั้ง หากพบว่าคุณภาพใช้ได ้ก็จะนำอุปกรณ์มาติดยังจุดของผู้ใช้บริการและที่ชุมสายโทรศัพท์ ทั้งนี้มีช้อที่น่าสังเกตคืออุปกรณ์ที่ติดตั้ง ต้องมีการป้อนทั้งสัญญาณและพลังงานไฟฟ้าเข้าไปด้วย ซึ่งหากมีปัญหาทงด้านระบบไฟฟ้าก็จะไม่สามารถใช้งานบริการ ISDN ได้ไม่ว่าจะเป็นเสียงหรือข้อมูล ผู้ใช้บริการจะไม่สามารถติดต่อได้หากไม่มีระบบโทรศัพท์แบบเก่ารองรับเหตุการณ์ที่เกิดนี้

>> Home <<


Webmaster : seeis_224@yahoo.com