คุณกวินนา สงครามศรี เป็นผู้เล่าเรื่องแสงสว่างปาฏิหาริย์
เธอ มีชื่อเล่นว่า หลุยส์ ปกติแล้วทำงานอยู่ประเทศอังกฤษ เพิ่งเดินทางกลับประเทศไทย เมื่อก่อนเดือนสิงหาคม ๒๕๔๑ ไม่นาน ด้วยสาเหตุ พบเรื่องอัศจรรย์ แผ่นกระดาษ พิมพ์ข้อความเชิญชวน ทำบุญสร้างองค์พระประดิษฐาน ที่มหาธรรมกายเจดีย์แสดงปาฏิหาริย์
วันที่เกิดเหตุ คุณกวินนาอยู่ที่อังกฤษ วันนั้นใจคิดปรารถนาทำบุญมาก จึงซื้ออาหารเดินทางไป ถวายพระที่วัดไทยพุทธประทีป เมื่อไปถึง พบสตรีผู้หนึ่งชื่อ คุณเครือวัลย์ สุขเจริญ กำลังจัดอาหารอยู่จึงได้ทำ ความรู้จักพูดคุยกัน รู้สึกถูกอัธยาศัยมาก
ก่อนจากกันคุณเครือวัลย์ได้เล่าเรื่องวัดพระธรรมกายที่เมืองไทย กำลังทำงานบุญใหญ่สร้าง พระมหาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐาน พระธรรมกาย ประจำตัว ของมนุษย์ผู้ทำบุญทุกคน โดยจารึกชื่อไว้ที่ฐานองค์พระ สามารถบริจาคได้ตั้งแต่ ๑-๓ หมื่นบาท ตามแต่ที่ประดิษฐาน คือที่นอกเจดีย์ ในเจดีย์ ที่บนโดม และที่แกนกลาง ภายในเจดีย์ คุณกวินนาฟังแล้วเกิดความสนใจองค์พระบนโดม ทำบุญองค์ละ ๒ หมื่นบาท จึงขอแผ่นกระดาษ เชิญชวนทำบุญเป็นแผ่นพับ ๔ สีจากคุณเครือวัลย์ติดตัวกลับบ้านหนึ่งใบ
บ่ายโมงเศษ คุณกวินนาขับรถกลับถึงห้องพัก อากาศทั่วไปมืดครึ้มอย่างหนัก ไม่มีแสงสว่างส่อง ผ่านเลย เพราะเป็นฤดูหนาว ซึ่งเป็นสภาพ อากาศปกติของประเทศนั้น เธอนำแผ่นใบเชิญชวนทำบุญไปวางบนโต๊ะ ในห้อง แล้วหยิบจับสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ อยู่ใกล้ๆ เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง คุณกวินนารู้สึกตกใจ ที่เห็นภายในห้องพัก สว่างไสวทั่วทั้งห้อง เมื่อมองออกไปภายนอกอากาศ ยังคงมืดครึ้มอยู่เหมือนเดิม ความสว่างนั้น มีมาก จนคุณกวินนา คิดไปถึงยานอวกาศ ของมนุษย์ต่างดาว (ยู.เอฟ.โอ.) รู้สึกสงสัยเป็นกำลัง แน่ใจอย่างเดียวว่า เป็นแสงที่เกิดอยู่ใน ห้องพัก แสงข้างนอกไม่มี เธอจึงเริ่มเดินสำรวจของไปทีละอย่างจนทั่วห้อง กระทั่งมาถึงโต๊ะที่วางใบเชิญชวนทำบุญสร้างองค์พระไว้
ฉับพลัน ได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่คาดคิด นึกไม่ถึงว่า จะเกิดขึ้นได้ในชีวิตของตนเอง คือ เห็นลำแสงสว่าง พุ่งออกมาจากแผ่น กระดาษ ใบบอกบุญ ตรงรูป มหาธรรมกายเจดีย์ เป็นแสงสีขาวนวล สว่างไสวเย็นตาเย็นใจ แสงนั้นสวยงามมาก ในขณะที่กำลังยืนนิ่งตกตะลึง อยู่นั้น พลันก็ได้ยินเสียงออกมาจากภายในร่างกาย เหมือนก้องกังวานจากกลางท้องของตนเองว่า กลับบ้าน กลับบ้าน เลยยิ่งทำให้เกิดอาการขนลุกชูชัน ไปหมดทั้งตัว บอกความรู้สึกไม่ถูก ทั้งตกใจทั้งตื่นเต้นในเหตุการณ์แปลก ประหลาดมหัศจรรย์ล้นพ้น ครู่ใหญ่แสงสว่างทั้งหมดจึงหายไป
คุณกวินนาตั้งสติได้ พยายามคิดทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้น ตนเองควรทำ อย่างไรต่อไป ก็คิดขึ้นมาว่า คำว่า กลับบ้าน น่าจะหมายถึง กลับ เมืองไทย พอคิดได้ดังนั้น รู้สึกอยากเดินทางกลับ ทันที รีบโทรศัพท์พูดกับคนรักซึ่งเป็นชาวนอร์เวย์ ทำงานอยู่ฮ่องกง ชวนกลับเมืองไทย นัดพบกัน ที่ท่าอากาศยาน กรุงเทพ เมื่อพบกันแล้ว คุณกวินนาได้เล่าเหตุการณ์ประหลาดที่ได้พบ หยิบแผ่นกระดาษรูปมหาธรรมกายเจดีย์ แผ่นนั้นให้คนรักดู แล้วพากันเดินทางไปที่วัด ทำบุญสร้างองค์พระทุกชนิดที่มีอยู่ โดยเฉพาะองค์พระที่แกนกลาง ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาเต็มเปี่ยม
ครั้นได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุแล้ว ยิ่งรู้สึกยินดีที่สุด รู้สึกรักผูกพันเหมือนองค์พระท่าน มีชีวิตและราวกับ ท่านส่งกระแส พลังพิเศษให้ มีกำลังใจใคร่ทำความดี ให้เป็นบุญกุศลยิ่งๆ ขึ้น ได้เดินทางกลับ บ้านเดิม ที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ชักชวนสตรี จำนวน หนึ่งที่นั่นมาบวชอุบาสิกาแก้ว ในโอกาสวันแม่ที่ ผ่านมา ๗-๙ สิงหาคม ๒๕๔๑
ฟังเรื่องที่คุณกวินนาเล่าแล้ว หลายคนอาจสงสัยว่าเหตุการณ์ดังที่เขียนเล่ามา เกิดได้อย่างไร ส่วน คนที่ไม่สงสัยเลยมีอยู่ ๒ คน
ท่านแรกเป็นชาวบ้านอยู่จังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย คลับคล้ายคลับคลาว่า จะเป็นชัยภูมิ เคยเขียนเล่าลงใน วารสารกัลยาณมิตรของวัด เมื่อปีเศษมาแล้ว หญิงชาวบ้านผู้นั้นได้รับแจกใบ เชิญชวนสร้างองค์พระทำนองเดียวกับคุณกวินนา เธอนำไปวางไว้บน หลังตู้ ใจไม่คิดจะทำบุญเพราะเห็นว่า เงินถึงหนึ่งหมื่นบาท ฐานะครอบครัวของเธอทำไม่ได้ เกินกำลังจริงๆ แม้แต่ผ่อนส่งก็ไม่มี แต่กระนั้น ก็ต้องการทราบว่า เจดีย์มีรูปทรงแบบไหน เมื่อว่างจากงานบ้าน จึงหยิบกระดาษชวนทำบุญนั้น มาดูหน้าปกเป็นรูป พระธรรมกายประจำตัว ซึ่งเธอรู้สึกตื่นเต้น ที่เห็นภาพองค์พระงดงามอย่างไม่เคยเห็นที่ไหนๆ มาก่อน จึงเพ่งพินิจดูด้วยความพอใจ
ทันใดนั้นเอง เธอก็ต้องตกตะลึงตาค้าง เมื่อภาพองค์พระค่อยๆ หมุนเมื่อหยุดหมุนก็เปล่งรัศมีหลายสี เป็นประกายสว่างไสวออกมา สองมือ ของหญิงนั้น จับแผ่นภาพองค์พระ นั่งตัวแข็งนิ่งขึง เพื่อนข้างบ้านเรียกหา เสียงดังแค่ไหนก็ไม่ได้ยิน ในที่สุด เพื่อนบ้านต้องเดินเข้ามาดูว่า ทำอะไรอยู่ ทำไมนั่งนิ่ง เรียก ไม่ขาน เมื่อเข้ามาใกล้เห็นนั่งดูรูป จึงมองข้ามไหล่หญิงนั้นว่าดูรูปอะไร
ครั้นแล้วเพื่อนก็ต้องนั่งอ้าปากค้างตกตะลึงไปอีกคนหนึ่งที่เห็นภาพปาฏิหาริย์ ทำนองเดียวกัน หลังจากเหตุการณ์สงบลงเป็นปกติ สองคนหายตกตะลึง แล้วได้คุยกันเรื่องนี้ เชื่อมั่นเต็มเปี่ยมว่า การสร้างพระบนเจดีย์ที่ทราบนี้ ต้องเป็นบุญใหญ่มาก ขนาดเป็นภาพในกระดาษ ยังแสดงปาฏิหาริย์ให้ดู องค์พระจริงๆ บนเจดีย์จะต้องศักดิ์สิทธิ์นับเท่าไม่ถ้วน และการที่เขาทั้งสองมีโชคดีวิเศษได้พบเหตุการณ์ มหัศจรรย์ดังนี้ ต้องเป็นผู้มีบุญเป็นเจ้าขององค์พระแน่นอน ทั้งสองคนจึงตกลงใจจะเก็บหอมรอมริบ ผ่อนส่งสร้างองค์พระให้ได้ พร้อมกันนั้น ก็เล่าเรื่องราว ที่เกิดขึ้น และชักชวนญาติสนิทมิตรสหายร่วมทำบุญได้ อีกหลายราย
ท่านที่สองคือ อุบาสิกาถวิล วัติรางกูล ผู้อยู่ในคณะบุกเบิกสร้าง วัดพระธรรมกาย เคยปรารถนา พบเห็นปาฏิหาริย์ต่างๆ บ้าง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๑ ครั้งสมัยเรียนปฏิบัติธรรมกับคุณยายอาจารย์ อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง และพระเดชพระคุณ หลวงพ่อทั้งสององค์ แต่แล้วเป็นเวลา ผ่านมาถึง ๓๐ ปี ก็ไม่เคยได้เห็นปรากฏการณ์อะไร ที่อัศจรรย์ กระทั่งเลิกอยากเห็นสิ้นเชิง
ครั้นเมื่ออาทิตย์ต้นเดือน ดูเหมือนมิถุนายน ๒๕๔๑ วันหล่อองค์พระธรรมกายประจำตัว โดยมีผู้ที่ ทำบุญสร้างเกินหนึ่งล้านบาทเป็นตัวแทน วันนั้นเมื่อลืมตาจากการนั่งสมาธิ อุบาสิกาถวิลเล่าว่า ได้มอง ไปทางทิศที่พระมหาเจดีย์ตั้งอยู่ เห็นด้วยตาชัดๆ ว่า มีเจดีย์รูปทรงแบบเดียวกัน แต่ ขนาดใหญ่โตกว่า มากมาย ไม่ได้ทำด้วยอิฐ หิน ปูน ทรายอย่างเจดีย์จริง แต่เหมือนเอาแสงสว่างเจิดจ้าสุกใส มาปั้นเป็น รูปเจดีย์ เจดีย์แสงสว่าง ที่เห็นเกิดสลับสับเปลี่ยนองค์แล้วองค์เล่า ใกล้บ้างไกลบ้าง บางองค์ไกล เหมือนอยู่สุดขอบฟ้า แต่ทุกองค์สว่างสุกใสเท่ากัน
ถ้าทั้งสองรายนี้ ได้ทราบเรื่องของคุณกวินนา คงจะดีใจที่ทราบว่า มีผู้พบปาฏิหาริย์เหมือนตน ได้เอามาพูดถึงไว้ในที่นี้ ให้คุณกวินนา ดีใจด้วยที่มีพวกเดียวกัน
ปาฏิหาริย์ประเภทนี้ ถ้านำมาคิดใคร่ครวญให้ดี ก็พออธิบายได้ ว่า ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์มักจะเห็น ในเวลาที่จิตใจ หยุดคิด เรื่องราวต่างๆ ไม่มีคนที่ต้องพูดคุยด้วย จิตรวมตัวหยุดโดยบังเอิญ ทำให้ตาของกายเนื้อ และอาจรวมถึงตาของกายอื่นๆ ตรงกันขึ้นมา ตามนุษย์ จึงสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ในมิติ ของกายมนุษย์ละเอียดหรือกายฝัน ยิ่งสำหรับคุณกวินนาแล้ว ไม่ใช่แต่เรื่องตาตรงกันอย่างเดียว หูของกายมนุษย์ ก็ยังตรงกับหูของกายฝัน กายฝันจึงบอกให้ กลับบ้าน หูมนุษย์ก็ได้ยิน และที่บอกว่า เป็นเสียงที่ออกมาจากกลางท้อง ก็ทุกกายมีศูนย์กลางกาย ซ้อนอยู่ที่เดียวกัน ตรงศูนย์กลางกายของ มนุษย์ ตรงกลางท้องเหนือสะดือ ๒ นิ้ว
อย่างไรก็ตามถ้าคิดตามหลักวิชา พาให้เข้าใจยากยิ่งแล้ว เชื่อว่า เป็นปาฏิหาริย์ ย่อมเป็นประโยชน์ อย่างยิ่ง เป็นที่ตั้งของศรัทธา ผู้ได้พบ ได้ยิน ได้ฟัง ย่อมรู้สึกตื่นเต้น มีใจอ่อนโยน และคล้อยตามใน ทางที่ดี สร้างบุญสร้างบารมี ให้ตนเองได้ง่าย
และอันที่จริง ใบเชิญชวนทำบุญทุกชนิด ย่อมเป็นกระดาษศักดิ์สิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว ผู้สร้างขึ้นย่อม ตั้งใจเป็น กัลยาณมิตร ให้ชาวโลกมีโอกาส ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา ไม่ใช่กระดาษ ชักชวนประกอบ อกุศล เหมือนโฆษณาบางอย่าง ขายเหล้า ขายบุหรี่ ขายอาวุธ หรือชวนเที่ยว บ่อน เที่ยวบาร์ เมื่อเป็นสื่อ ชักชวนผู้คนทำบุญกุศล พลังบุญจากพระนิพพานนั่นเอง ย่อมติดตามไปกับสิ่งเหล่านั้น ยิ่งผู้จัดสร้าง เป็นผู้มีความ สามารถทางจิตสูง ย่อมสามารถอาราธนา ทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ ไว้ในสื่อเหล่านั้น มีอานุภาพ พิเศษ หากผู้พบเห็น เป็น ผู้มีกุศลจิต พลังศักดิ์สิทธิ์ ยิ่งเกิดทับทวี บุญกุศลนั้น เป็นสิ่งเห็นได้ในญาณ ของผู้มีสมาธิขั้นสูง มีลักษณะเป็นความสว่างไสว เย็นตาเย็นใจ ไม่ใช่เจิดจ้าแสบตา อย่างแสงสว่าง ทางโลก
ใครก็ตาม เห็นความสว่างไสว จากสิ่งใดที่เป็นดังว่านี้ ซึ่งไม่ใช่แสงสว่าง ของธรรมชาติในโลก ย่อมหมายความว่า เขาได้เห็นพลังบุญ ที่มีอยู่ ในสิ่งนั้นๆ ขอให้ถือเป็นสิริมงคล เป็นพลังใจในการประกอบบุญ กุศลให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
[สารบัญ] [ ๑ ] [ ๒ ] [ ๓ ] [ ๔ ] [ ๕ ] [ ๖ ] [ ๗ ] [ ๘ ] [ ๙ ] [ ๑๐ ]