บทสัมภาษณ์ของกิ่งฉัตร |
* ขอขอบคุณ น้องพลอยแก้ว ผู้พิมพ์และส่งบทความนี้เข้ามา * |
กิ่งฉัตร อีกก้านแกร่งแห่งป่าอักษร (หน้า3) โดย สุธาทิพย์ โมราลาย (จากหนังสือ WRITER MAGAZINE ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 พฤศจิกายน ธันวาคม 2538) |
ความในใจของผู้เขียนที่ได้เคยเผยเอาไว้ครั้งบอกกล่าวกับผู้อ่านใน บอกกล่าวเล่าไปเรื่อย สู่ภูเขา สู่ท้องฟ้า สู่มายาตวัน นวนิยายเรื่องล่าสุดที่ได้รับการนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์ของสะท้อนความคิดของผู้เขียน และ ตอบคำถามบางประการในกรณี อุบัติเหตุ นี้ได้ชัดเจนกว่าคำอธิบายใด ๆ จากส่วนหนึ่งของความคิดฝันที่ กิ่งฉัตร ได้วางแผนเอาไว้สำหรับการทำงานเขียน และเธอได้สารภาพในวันนี้ว่าได้ ถูกทำลาย ไปแล้ว ความคิดความฝันที่จะเขียนนวนิยายที่มีเนื้อหาเป็นชุดต่อเนื่อง (ประมาณ 3 เรื่อง) แตกหน่อออกมาหลังจากที่ได้อ่านนวนิยายหลาย ๆ ชุดของนักเขียนหลาย ๆ ท่านทั้งไทยและเทศแบบชนิดโงหัวไม่ขึ้น (โรคประจำตัวที่รักษาไม่หายขาดสักที) โดยเฉพาะในช่วง 4 5 ปีที่ผ่านมา ในความรู้สึกของฉัน การได้ติดตามเรื่องราวของตัวละครที่เคยผ่านตา ที่เคยรู้จักมักคุ้น จากเรื่องหนึ่งสู่อีกเรื่องหนึ่งเป็นสิ่งที่มีเสน่ห์ น่าหลวงใหลชวนติดตาม และให้ความรู้สึกสนิทสนม ราวกับเปิดประตูมาพบกับเพื่อนที่เคยคุ้นกันมาก่อนยืนอยู่ตรงหน้า ได้ย้อนระลึกถึงอดีตและติดตามรู้จักชีวิตของเขาเพิ่มเติม จากที่เคยรู้เพียงราง ๆ ในเรื่องที่ผ่านมา มายาตวัน เป็นเรื่องแรกในความคิดความฝันของนวนิยายชุดนี้ ซึ่งฉันใช้เวลาเขียนนานพอดูกว่าจะจบ ใจแป้วไปหลายครั้งเหมือนกันเพราะทำท่าจะล้มมิล้มแหล่กลางคันหลายหน ด้วยความท้อถอย แต่ด้วยกำลังใจที่ได้รับอย่างไม่คาดฝันจากผู้อ่านบางท่านที่เคยได้รู้จักมายาตวันจากโลกวลีมาบ้างแท้ ๆ ทำให้ฉันมีกำลังฮึดเขียนเรื่องที่ค้างไว้อยู่ไม่กี่บทจนจบ ต้องขอขอบคุณตรงนี้เลยนะคะ เพราะสำหรับนักเขียนมือใหม่อย่างฉัน นอกจากความอดทนและความพยายามของตัวเองแล้ว กำลังใจของผู้อ่านเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด และเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุดอีกด้วย ! นวนิยายชุดที่เริ่มจากมายาตวันนี้ ทั้งสามเรื่องตัวเอกฝ่ายหญิงเป็นนักข่าว หรือจะเรียกให้หรูหน่อยก็เป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์สยามสารทั้งหมด ทำไมต้องเป็นนักข่าว? อาจจะเป็นเพราะ นักข่าวเป็นอาชีพที่ใกล้ตัวฉันมากที่สุด เคยได้ผ่านประสบการณ์ชีวิตชีพทั้งจากการเรียนรู้ในห้องเรียนและรับรู้จากการทำงานในชีวิตจริง ดังนั้นจึงจะมีเรื่องราวที่อยากจะบอกเล่าผ่านนักข่าวสาวทั้งสามมากมาย ชีวิตนักข่าวเป็นชีวิตสนุกมากค่ะ แม้บางครั้งจะต้องสูญเสียน้ำตาและความศรัทธาให้กับสิ่งที่เราได้เรียนรู้เพื่อเติบโต แต่ทุกสิ่งทุกอย่างคือประสบการณ์ที่คุ้มค่า นวนิยายชุดนี้แทรกเสี้ยวหนึ่งแห่งความทรงจำมันมีค่าที่ฉันได้พานพบมา และหวังอย่างสุดใจว่า มัทนา สาระวารี และมีคณา จะแทรกเข้าไปเป็นเสี้ยวหนึ่งในความทรงจำของท่านผู้อ่านทุกท่านเช่นกัน ขอฝากสาวสามคนนี้ไว้ด้วยค่ะ !
ทำไมต้องเลิกอาชีพนักข่าวซึ่งเป็นสายวิชาที่ร่ำเรียนมาโดยตรงในเวลานั้น
เรียกว่าหัวใจร่ำร้องออกมาเขียนหนังสือใช่ไหม
แปลว่ามีเหตุผลที่มากกว่านั้น พอเปิดเผยได้ไหม
เรื่อง มายาตวัน เขียนให้ตัวเองเป็นนางเอกใช่หรือไม่
วางพล็อตแต่ละเรื่องใช้เวลานานไหม
วางแผนการเขียนอย่างไร
หมายถึงให้เดินไปตามโครงเรื่องที่วางไว้
พฤติกรรมการเขียนโดยทั่วไปเป็นอย่างไร
ส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือประเภทไหน
นักเขียนคนอื่น ๆ ที่รู้สึกชื่นชมในผลงานมีอีกไหม
รู้สึกอย่างไรกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าผลงานของ กิ่งฉัตร มีกลิ่นอายของนักเขียนคนนั้นคนนี้ หรือไปลอกผลงานนักเขียนต่างประเทศมา
เรื่องแนวโรแมนติกที่บอกว่าชอบอ่าน เป็นผลงานของใครบ้าง
ใครเป็นคนแปลเรื่องเหล่านี้
ชอบอ่านจากต้นฉบับภาษาต่างประเทศหรืองานแปล แล้วติดตามสำนวนแปลของใครเป็นพิเศษอีกหรือไม่
ชอบอ่านงานแนวคลาสสิค ประเภทวรรณกรรมสำคัญของโลกบ้านหรือไม่
มีความเห็นอย่างไรต่อการตัดสินใจของเจนแอร์ให้ตัวเอกของเรื่องตัดสินใจไม่แต่งงานกับคนที่ตนรักในตอนแรก แล้วเปลี่ยนใจแต่งในตอนหลัง
|
[ หน้าบ้าน ] [ ประวัติ ] [ ผลงาน ] [ เรื่องย่อ ] [ สัมภาษณ์ ] [ สมุดเยี่ยม ] [ หลังบ้าน ]
"บ้านกิ่งฉัตร" เป็นโฮมเพจกิ่งฉัตรอย่างไม่เป็นทางการ มิได้จัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ใดๆแก่ผู้จัดทำ "กิ่งฉัตร" และผลงานที่อ้างอิงบนโฮมเพจนี้ ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนและผู้พิมพ์ทุกประการ
"บ้านกิ่งฉัตร" จัดทำโดย กมลวรรณ อ่อนละมัย 7 ก.พ. 2544 โดยได้รับการเอื้อเฟื้อข้อมูลจากแฟนๆกิ่งฉัตรบนบอร์ด chulabook