November 24, 2003 ... Part |1|
|2| |3|
|4|
Third
day ... Early get up to see Mexican Sunflower in the morning ,drive
to Mae Hong Son for 1,864 curves certificate ,go to Jong Kam ,Jong
Klang and Phra That Doi Kong Mu temple and see Long Neck Kareng.
วันที่สาม...ตื่นแต่เช้าเพื่อชมบรรยากาศทุ่งบัวตองยามรับอรุณและทะเลหมอก
,เข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนรับใบประกาศ 1,864 โค้ง ,ชมวัดจองคำจองกลาง
,กระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า และชมวิวตัวเมืองยามเย็นที่วัดพระธาตุดอยกองมู
|
|
|
|
|
|
|
|
|

|
|
|
|
|
|
|
|
นี่ครับ สภาพภายในที่พักของแม่ฮ่องสอนฮิลล์เขาหล่ะ เล็กกะทัดรัดแต่มีห้องน้ำในตัว
ราคานี้ได้ห้องแบบพัดลมครับ ซึ่งใครมาช่วงนี้ก็คงไม่มีใครอยากได้ห้องที่มีแอร์หรอกมั้งครับแถมราคาจะแพงกว่าด้วย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
พอจัดเก็บข้าวของเสร็จก็ได้เวลาอาบน้ำก่อนออกไปทานกลางวัน(ที่ทุ่งบัวตองเราไม่ได้อาบน้ำเนื่องจากอากาศหนาว...ฮิฮิ)
เที่ยวกว่าๆ เราขับรถออกมาเพียงไม่กี่เมตรก็เจออนุสาวรีย์พญาสิงหนาถราชา
เนื่องจากอยู่ใกล้กันมาก เราเข้าไปไหว้ท่านเพื่อเป็นสิริมงคล
ประวัติคร่าวๆของท่านก็คือ เดิมชื่อชานกะเล อพยพมาจากพม่าปี
2399 เป็นคนขยัน ซื่อสัตย์ ต่อมาได้เป็นผู้ใหญ่บ้านขุนยวม(อ.ขุนยวมในสมัยนี้)
ปี 2417 หมู่บ้านแม่ฮ่องสอนได้ยกฐานะเป็นเมืองแม่ฮ่องสอนเมืองหน้าด่านและได้แต่งตั้งท่านชานกะเลเป็นเจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก
ได้พระราชทานนามว่า "พระยาสิงหนาทราชา"
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
รูปปั้นช้างเฝ้าอนุสาวรีย์มีอยู่ทั้งสิ้น 4 ทิศด้วยกัน
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เราขับรถตระเวนหาหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง
จนแล้วจนรอดก็หาไม่เจอ สุดท้ายก็เลยจอดรถถามคุณลุงซึ่งเป็นคนจีนใส่เสื้อกล้ามกำลังขายของหน้าร้านอยู่
คุณลุงอธิบายแก่เราละเอียดมากครับพร้อมกับชี้มือว่าไปอีกสักนิดแล้วเลี้ยวขวาตรงที่ร้านทำรองเท้าก็จะเจอเลย
พร้อมกับถามเราว่ามาจากไหนกัน เราตอบไปว่ามาจากกรุงเทพ คุณลุงก็ยังอวยพรให้เราโชคดี
เราขอบคุณและขอลาไปรับใบประกาศ ทำให้นึกถึงว่าคนไทยใจดีๆก็มีตลอดทางเลยนะเนี่ย
สุดท้ายเลี้ยวตามที่คุณลุงบอกมาก็เจอจริงๆ มิน่า....ถึงหายาก เพราอาคารมันเข้าไปอยู่ข้างใน
ป้ายที่ติดแสดงก็เล็กมาก เรารีบขับรถไปจอดแล้วเดินขึ้นไปชั้นบน ปรากฎว่าเขาพักเที่ยงกันครับ
เราเลยย้อนกลับมาและไปหาข้าวกินกันก่อนที่จะเป็นลมแล้วจึงเข้ามาใหม่
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
หลังจากกินข้าวเสร็จก็ขับรถเข้ามาใหม่
เราขึ้นไปด้วยกันเลยครับ ป้ายบอกไว้ชัดเจนรับใบประกาศ ผู้พิชิต 1,864
โค้ง เชิญชั้น 2 ครับ เราตื่นเต้นเล็กน้อย :) พอไปถึง ทางเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่
2 คนก็ต้อนรับและขอใบขับขี่ผมไปเพื่อไปพิมพ์ชื่อในใบประกาศ ผมก็ถามไปว่าคนที่นั่งมาด้วยมีสิทธิได้หรือเปล่า
ผลคือได้ครับ แต่เป็นอีกรูปแบบหนึ่งคือแค่เป็นใบประกาศที่เดินทางมาถึงไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะ
เสียค่าธรรมเนียมคนละ 20-30 บาท และพร้อมกับซื้อสติ๊กเกอร์ผู้พิชิต
1,864 โค้งมาติดที่กระจกหลังรถ เขามีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ แบบวงกลมมีขนาดใหญ่และเล็กและแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ผมซื้อมาทุกแบบเลยครับ เอามาติดให้มันทั่วไปเลย
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
ประมาณบ่ายสองโมง
จึงไปเที่ยวที่วัดจองคำจองกลาง วัดฝาแฝดคู่บ้านคู่เมืองของเมืองแม่ฮ่องสอนเหมือนกัน |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
เราเข้าไปนมัสการพระพุฒาจารย์โต
องค์พระพุทธรูปออกแนวศิลปะแบบพม่า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
อุโบสถขนาดเล็กที่วัดจองคำ
ซึ่งขณะนั้นเข้าไม่ได้ครับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
จุดนี้เป็นป้ายบอกเขตระหว่างวัดจองคำซึ่งอยู่ทางซ้ายมือกับวัดจองกลางซึ่งอยู่ทางขวามือ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
เราเข้ามาในพิพิธภัณฑ์ของวัดจองกลางซึ่งที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเข้ามาดูได้
โดยจะมีรูปปั้นตุ๊กตาสมัยเก่าที่นำมาจากพม่า และรูปพระเวชสันดอนชาดก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
และนี่ก็เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกตาอันหนึ่งที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน
โดยวิธีการใช้งานก็คือ ให้ขึ้นไปเหยียบคันเหยียบที่อยู่ด้านหน้าหลังจากนั้นกลไกจะทำงานให้บาตรและสิ่งของภายในหมุนตามเข็มนาฬิกา
โดยเราจะต้องหย่อนเงินลงไปให้ลงใบบาตรประจำวันเกิดเรา หย่อนลงได้บุญ
หย่อนไม่ลงก็ได้บุญ ส่วนผมทดลองแล้ว หย่อนลงในบาตรประจำวันอาทิตย์พอดีเลย
คลิกดูภาพเคลื่อนไหวได้ที่นี่ครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
นี่ครับ...เจดีย์วัดจองกลางยามบ่าย
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังคาวัดจองกลาง ศิลปกรรมแบบพม่า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังจากชมวัดจองคำจองกลางเสร็จบ่ายสาม
เราก็เดินทางต่อไปยังหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า ซึ่งจริงๆแล้วในแม่ฮ่องสอนจะมีหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวที่สำคัญอยู่ด้วยกัน
3 แห่งคือ บ้านน้ำเพียงดิน , ห้วยเสือเฒ่า และบ้านในสอย ที่แรกบ้านน้ำเพียงดินตัดไปได้เลยเพราะต้องเดินทางต่อด้วยเรือกว่าชม.ถึงจะไปถึง
ส่วนที่ที่สามบ้านในสอยเขาว่าจัดฉากเกินไป เราเลยเลือกที่จะไปห้วยเสือเฒ่าเพราะยังสามารถนำรถเก๋งไปได้ในฤดูน้ำไม่หลาก
ทางจากตัวเมืองไปค่อนข้างงงๆเล็กน้อย ต้องจอดถามทางอีกแล้วครับท่าน
แต่สุดท้ายก็ไปได้ พอมาถึงจุดที่มีน้ำไหลผ่านทาง ผมเองก็นึกในใจว่า
"โถ่...คิดว่าน้ำจะมากมายอะไร แค่นี้เอง ไปได้สบายอยู่แล้ว"
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
หลังจากผ่านฝายน้ำล้นมาแล้วก็จะเจอปางช้างอยู่ทางขวามือ
ทักทายด้วยการชักภาพสักหนึ่งรูป |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
Continue
to Part 3
|