November 24, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4|
Third day ... Early get up to see Mexican Sunflower in the morning ,drive to Mae Hong Son for 1,864 curves certificate ,go to Jong Kam ,Jong Klang and Phra That Doi Kong Mu temple and see Long Neck Kareng.
วันที่สาม...ตื่นแต่เช้าเพื่อชมบรรยากาศทุ่งบัวตองยามรับอรุณและทะเลหมอก ,เข้าตัวเมืองแม่ฮ่องสอนรับใบประกาศ 1,864 โค้ง ,ชมวัดจองคำจองกลาง ,กระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า และชมวิวตัวเมืองยามเย็นที่วัดพระธาตุดอยกองมู

แต่พอมาถึงได้ 100 เมตร ก็ต้องเจอกับสิ่งที่ไม่คาดฝันนั่นก็คือ น้ำจากฝายน้ำล้นเป็นแอ่งเลยครับ ผมจอดรถนิ่งๆสักพักแล้วลงไปสำรวจความลึกดูด้วยตัวเอง ลึกสุดครึ่งแข้งเหมือนกัน กลับมานั่งในรถเพื่อตัดสินใจ สักพักก็เห็นชาวเขาขี่มอเตอร์ไซด์แล้วเขาขี่ผ่านไปได้โดยขี่ชิดขวาของเส้นทางประกอบกับยกขาลอยไว้ ทำให้เราพอใจชื้นขึ้นมาหน่อยว่าแมงกะไซด์ยังผ่านไปได้เล้ย.... คราวนี้เลยกลั้นใจขับไปเพราะไหนๆก็มาถึงตรงนี้แล้ว เสียโอกาสเปล่าๆที่จะหันหลังกลับไป รถคงไม่ได้เสียหายอะไรมากมายหรอก(ปลอบใจตัวเอง)

พอขับผ่านไปได้ก็ใจชื้น...แต่ที่ไหนได้ ดันมามีอีกจุดหนึ่ง คราวนี้ลึกกว่าเดิมครับ ผมจอดรถนิ่งเลย ดูรถแวนที่ขับสวนมา และอีกไม่นานก็มีขบวนรถตู้ 3 คันขับสวนกลับมา ผมสังเกตระดับน้ำว่าสูงระดับไหนของรถตู้ ปรากฎว่าครึ่งล้อเหมือนกัน จนสุดท้ายผมถามพี่ที่ขับรถแวนสวนมาแต่เขายังไม่ไปเขากำลังล้างรถที่หนองน้ำนี้อยู่ ทะเบียนกทม.ซะด้วย ถามไปว่า "รถเก๋งไปได้หรือเปล่าครับ" ได้รับคำตอบเชิงให้กำลังใจว่า "ผมเห็นรถเก๋งขับผ่านไปเยอะแยะเลย ขับชิดขวาหน่อยละกัน จะได้ไม่ลึกมาก เดี๋ยวน้ำจะเข้ากรอง" เราเลยเสี่ยงอีกครั้งพยายามขับชิดขวาใช้เกียร์ต่ำ ไปช้าๆ จนผ่านไปได้ (ครั้งต่อไปไม่เอาอีกแล้ว)

ไม่นานก็มาถึงหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า ทางเข้าหมู่บ้านจะมาช้างที่ชาวบ้านเลี้ยงอยู่หลายตัวเหมือนกัน

เดินข้ามสะพานไม้เล็กๆเพื่อข้ามลำธารมายังฝั่งหมู่บ้าน เห็นบ้านตั้งเรียงกันอยู่เป็นแถว 2 ข้างทาง มีเด็กออกมาวิ่งเล่นกันบ้างเนื่องจากเริ่มเย็นแล้ว

เราเข้าไปซื้อของที่ระลึกจากแม่ค้ากระเหรี่ยงเพื่อหวังจะขอถ่ายรูปด้วย สังเกตจะมีเด็กกระเหรี่ยงซ่าอยู่คนหนึ่งที่เวลาถ่ายรูปจะยกมือชูสองนิ้วตลอด

เราเดินวกกลับมาอีกฝั่งหนึ่งเพื่อจะกลับ เห็นมีอีกร้านที่น่าสนใจโดยแม่ค้าเป็นกระเหรี่ยงแม่ลูกอ่อน เลยดึงดูดความสนใจเราให้เข้าไปเลือกซื้อโปสการ์ด หลังจากซื้อเสร็จก็เป็นธรรมเนียมขอถ่ายรูปอีกตามเคยครับ

รูปคู่ทั้งแม่่และลูก

 

 

หลังจากนั้นเราก็ขับรถกลับไปยังตัวเมืองเพื่อเปลี่ยนชุดที่เลอะน้ำและขับขึ้นไปชมวิวเมืองแม่ฮ่องสอน และนมัสการพระธาตุดอยกองมูพระธาตุคู่เมืองแม่ฮ่องสอนมาแต่โบราณ ที่วัดดอยกองมู

พระธาตุดอยกองมูองค์ใหญ่

น้องซีกับพระธาตุดอยกองมูทั้ง 2 องค์

ประวัติย่อๆ พระธาตุดอยกองมูเป็นเจดีย์ 2 องค์บนเขาด้านทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน องค์ใหญ่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ และนางเหล็ก ภรรยาเป็นเจ้าศรัทธาสร้างถวาย บรรจุพระธาตุพระโมคคัลลานะ และพังลงเหลือแต่ฐานและตัวเจดีย์ พ.ศ. 2441 พระครูอนุสนธิศาสนกิจ เจ้าอาวาสวัดไม้ฮุง และคณะศรัทธาประชาชนร่วมกันก่อสร้างจนเต็มองค์ ได้ทำพิธียกฉัตรสมโภค เมื่อเดือนมีนาคม 2443 องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดยพญาสิงหนาทบำรุง เจ้าองค์แรกเมืองแม่ฮ่องสอน เป็นเจ้าศรัทธา บรรจุพระธาตุของพระสารีบุตร

นี่ค่ะ.....พระธาตุดอยกองมูองค์เล็ก

ที่นี่ยามเย็นจะมีทัวร์รถตู้พานักท่องเที่ยวขึ้นมาเยอะเหมือนกัน จุดนี้ก็เป็นจุดชมวิวที่ผู้คนที่ขึ้นมาก็ต้องมาเก็บรูปไว้ สามารถมองเห็นเมืองแม่ฮ่องสอน ,หนองน้ำจองคำ และลานบิน อีกทั้งขุนเขาไปในคราวเดียวกัน

อีกวิวหนึ่ง มองเห็นขุนเขาโอบล้อมเมืองแม่ฮ่องสอนอย่างชัดเจน

ขอนั่งพักที่ขั้นบันไดก่อนขึ้นพระธาตุนะค่ะ

 

 

เมืองแม่ฮ่องสอนนี้ใครก็มิอาจกล้ำกรายมาได้เนื่องจากมีสิงโตยืนเฝ้าเมืองอยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย

 

ผมนั่งรอให้เขาเปิดไฟที่พระธาตุหวังจะได้เก็บภาพอันสวยงามยามค่ำคืน รอจนคนเริ่มทะยอยกลับกัน แต่สุดท้ายก็เป็นผล ผมได้ลองถ่ายรูปแบบตั้งความเร็วชัตเตอร์เองและใช้ขาตั้งกล้องเป็นครั้งแรก ! พอถ่ายเสร็จแล้วดูผลงานตัวเองนี่ สุดยอดมาก ไม่เคยถ่ายได้สวยอย่างนี้มาก่อนเลย ก่อนหน้านี้ก็ถ่ายแบบออโต้ตลอด