November 25, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4|
Fourth day ... Go to Wat Phra Non before leaving Mae Hong Son City ,Thampla & Phasue National Park ,Pra Tamnuk Pang Tong and Ruam Thai Village(Pang Ung).
วันที่สี่...แวะวัดพระนอนก่อนออกจากตัวเมือง ,เที่ยวอุทยานถ้ำปลา ,น้ำตกผาเสื่อ ,พระตำหนักปางตอง และเข้าหมู่บ้านรวมไทย(ปางอุ๋ง)

วิวจากห้องทำอาหารมองเห็นที่ประทับแรมตั้งอยู่ใกล้ๆ

ต่อจากนั้นเราก็ขับรถกลับเส้นทางเดิม เจอฝูงม้าจำนวนหนึ่งยืนคุยกันขวางทาง ผมจึงบีบแตรเบาๆจนฝูงม้านั้นรู้สึกตัวและค่อยๆเดินไปแอบๆอยู่ข้างทาง แต่พอขับรถผ่านไปดันมีม้าอยู่ตัวหนึ่งสงสัยคงอยากอวดหุ่น เดินโชว์เชพผ่านหน้ารถเราอย่างช้าๆ เราเลยเก็บภาพไว้ทัน

ด้านข้างบริเวณถนนก็มีการเลี้ยงสัตว์อยู่หลายชนิดเหมือนกัน ในรูปเป็นกวางครับ

พอเข้าชมพระตำหนักปางตองเสร็จ เราก็เดินทางออกเส้นทางเดิมแล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกตอนที่เข้ามา(ถ้าเลี้ยวขวาก็จะกลับไปน้ำตกผาเสื่อและกลับไปยังตัวเมือง) เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของเราในวันนี้ซึ่งก็คือหมู่บ้านรวมไทยหรือปางอุ๋ง

เส้นทางที่ขับเข้ามาไม่ชันมากนัก ก่อนจะเข้ามาจะเจออีก 1 แยกซึ่งเป็นสามแยกที่มีแยกไปทางซ้าย ตรงจุดนี้ถ้าตรงไปจะไปหมู่บ้ารรักไทยหรือแม่ออ ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปหมู่บ้านรักไทย เราเลี้ยวซ้ายเข้ามา เส้นทางเป็นคอนกรีตสภาพดี สักพักก็จะเจอกับหมู่บ้านห้วยมะเขือส้มให้เลี้ยวขวาเข้ามาอีก คราวนี้จะเปลี่ยวแล้วหล่ะครับ เพราะไม่มีรถสวนมาเลย เส้นทางก็คดโค้งตามปกติ ถนนค่อนข้างแคบ แต่ไม่ชันมาก สักอึดใจก็จะเห็นป้ายขนาดใหญ่เขียนว่า "หมู่บ้านรวมไทย" เราขับเข้ามาพร้อมกับมองหาป้ายเกสท์เฮ้าส์ตามที่คุณจันทร์เพ็ญได้เคยโพสต์รูปไว้ในห้อง BP ... นั่นแน่ ผมขับเลยไปสัก 2-3 เมตรก็ต้องหยุดรถเนื่องจากเห็นป้าย "ติดต่อที่พัก GUEST HOUSE" เราจึงเข้าไปติดต่อ ได้เจอกับพี่ศรีผมจึงสอบถามไปว่า "มีที่พักว่างมั๊ยครับ" "มีว่างค่ะ เพิ่งมีนักท่องเที่ยวออกไปเมื่อตอนกลางวันนี้เอง แล้วมากันกี่คนคะ" เป็นคำตอบพร้อมกับคำถามกลับจากพี่ศรี เราตอบกลับไปว่า "มากันสองคน" หลังจากนั้นพี่ศรีก็พาเราไปดูห้องโดยมีอยู่ 2 ห้อง ห้องฝั่งขวากว้างกว่าห้องฝั่งซ้ายและนอนได้มากกว่าคือ 4 คน ส่วนห้องฝั่งซ้ายนั้นเล็กเปิดประตู็ก็เจอเตียงนอนเลย ผมเลือกอยู่สักพักจึงตกลงเลือกห้องฝั่งซ้ายซึ่งราคา 150 บาท/คืน ส่วนอีกห้องหนึ่งราคา 250 บาท/คืน ที่ผมเลือกห้องฝั่งซ้ายนั้นไม่ใช่เพราะราคาหรอกครับ แต่เป็นเพราะบรรยากาศมากกว่า อีกทั้งไม่รู้จะเอาห้องใหญ่ไปทำไม

เราเอาข้าวของสัมภาระที่จำเป็นต้องใช้ลงจากรถและนำไปไว้ที่ห้องพัก สักพักพี่ศรีก็นำเอากาแฟสดและขนมคุกกี้มาให้เราทาน ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านกาแฟสดมาก ทุกบ้านปลูกกาแฟเนื่องจากอากาศเย็นตลอดทั้งปีเพราะสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,300 เมตร กาแฟที่ปลูกก็พันธุ์อาราบิก้า กลิ่นกาแฟจากถ้วยที่หอมคลุ้งทำให้เราอดใจไม่ไหวที่จะต้องลองยกดื่มชิมซะแล้ว...

ไม่นานก็มีเจ้าแมวเหมียวโผล่ออกมาจากไหนก็ไม่รู้ มานั่งทำตาปริบๆมองคุกกี้ที่เรากำลังทานกัน สอบถามพี่ศรีทราบมาว่าเจ้าเหมียวมันชอบกินคุกกี้ เนื่องจากที่นี่มีคุกกี้มาขายกับนักท่องเที่ยว

ข้างๆม้านั่งเราจะเห็นต้นกาแฟที่กำลังออกผลอยู่แต่ขณะนี้ผลยังไม่สุก ถ้าสุกแล้วจะออกสีแดง

หลังจากดื่มกาแฟสดเสร็จ เราก็ขับรถต่อไปยังอ่างเก็บน้ำและเรือนเพาะชำที่ได้เคยเห็นรูปจากสมาชิกในห้อง BP พี่ศรีบอกอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ไม่กี่นาทีเราก็ขับรถมาจอดที่ลานจอดแล้วลงไปเดินดูเรือนเพาะชำบริเวณนี้

ที่นี่จัดแต่งสวนไว้งดงามมากครับ อากาศก็เย็นดี

ที่เห็นด้านหลังจะเป็นร้านขายกาแฟสดและของที่ระลึกของโครงการครับ

วิวดอกไม้เมืองเหนือสีแดงสด ต้องไปเห็นกับตาว่าสวยมากๆ

ขณะนี้เราอยู่ที่โครงการพระราชดำริปางตอง ๒(ปางอุ๋ง)

รูปเสาธง ซึ่งที่นี่ขนาดใหญ่เป็นพิเศษนะ...ผมว่า