Main Page

Mae Hong Son Big Trip

ประมวลภาพงาน Jazz Concert

Pimai & Panom Rung Historic Park

Chiang Rai trip

Pitsanulok & Pichit trip

Mini Siam trip

Rayong's orchard trip

Phuket trip

Thailand Map & Our Travel routes

About Me

โปรดสละเวลาลงนามในสมุดเยี่ยมชมหน่อยครับ

Email Me

Counter
Since July 12, 2003

Date : November |22| |23| |24| |25| |26| |27| |28| |29| |30|, 2003


November 26, 2003 ... Part |1| |2| |3| |4| |5| |6|
Fifth day ... Leaving Ruam Thai Village(Pang Ung) and go to Rak Thai Village(Mae Or) to taste U-Long tea and some pig's leg. After that we go to Tham Lod or Lod cave and stay at Pai in the end of the day.
วันที่ห้า...ตื่นแต่เช้าเพื่อชมไอหมอก ณ อ่างเก็บน้ำและสวนสน ก่อนที่จะออกจากหมู่บ้านรวมไทย(ปางอุ๋ง)ไปชิมชาอู่หลงและกินขาหมูหมั่นโถวที่หมู่บ้านรักไทย(แม่ออ) หลังจากนั้นแวะเที่ยวถ้ำลอดหรือถ้ำน้ำลอด และไปพักยังรีสอร์ทที่ปาย

 

     
   

เดินเข้าไปจะมีทางเดินที่ทำด้วยไม้ท่อน ด้านข้างจะมีตาข่ายสีดำกันเขียดกระโดดออกมาภายนอกครับ แต่ผมเดินไปเดินมาไม่เห็นเขียดสักตัว เลยถามคนสวนเขา ได้รับคำตอบว่า ช่วงเช้าส่วนใหญ่มันจะเก็บตัวเงียบไม่ค่อยออกมาเท่าไหร่ ต้องช่วงเย็นๆถึงจะเห็นออกมา

     
           
       

ภายในมีลำธารใสสะอาดด้วยครับ

 
       
           
   
 

ที่นั่งพักก่อนจะเข้าไปค่ะ...ขอนั่งพักก่อนนะค่ะ

หลังจากนั้นเราก็ขับรถออกจากหมู่บ้านรวมไทย หวังว่าสักวันหนึ่งคงจะกลับมาใหม่

   
           
       
11 โมงเราก็มาถึงยังหมู่บ้านรักไทย ก่อนหน้านี้ผมสับสนเล็กน้อยกับชื่อที่คล้ายกัน จนเกือบเข้าใจไปว่าเป็นที่เดียวกัน ที่ไหนได้อยู่ใกล้กันแต่คนละที่ และยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าแม่ออซึ่งก็คือชื่อดั้งเดิมของเขา
 
       
           
       
   

ที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวจีนฮ่อคล้ายๆกับที่ดอยแม่สลอง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่ามานี่ต้องมาชิมและทานอะไร คำตอบก็คือ ชิมชาอู่หลง และทานขาหมูหมั่นโถว นั่นเอง

เราขับไปเจอร้านๆหนึ่งชื่อจี๋หลี๋ ซึ่งเป็นอาหารยูนนาน ก็เลยแวะเข้าไปถาม

       
           
       
เจ้าของร้านซึ่งเป็นผู้หญิงจีนฮ่อพูดไทยไม่ค่อยชัด ออกมาต้อนรับเราพร้อมกับชวมชิมชาก่อนโดยบอกว่าไม่เสียเงินชิมฟรี
 
       
           
 
หลังจากนั้นเราก็ถามราคาขาหมูหมั่นโถว ได้ความว่า 250 บาท ตัดสินใจกันอยู่นาน ผมนึกในใจไม่น่าจะเกิน 100-150 บาท แต่ครั้นจะไม่ทานก็เสียเที่ยวจริงๆ จนเจ้าของลดราคามาที่ 200 บาท บอกกับเราว่าสำหรับ 2 คน เอาเหอะ....ยังไงก็คงต้องตกลงทานหล่ะคราวนี้ เพราะพลาดจากดอยแม่สลองมาแล้วนี่ เมนูคร่าวๆที่นี่ก็มี ขาหมูฮ่องเต้ 250.- พิงผ่าง 150.- ชิงจาง(หมูพันปี) 120.- ไก่ดำตุ๋นยาจีน 100.- ยำใบชาสด 50.- หมั่นโถว 5.-ราคาแพงมาก
   
           
       
นี่ครับ...ขาหมูหมั่นโถวอย่างใกล้ชิดในราคา 220 บาท ทานไปทานมา เออ...อร่อยดีเหมือนกันแหะ หมั่นโถวก็อร่อย เขาบอกว่าเก็บได้เป็นอาทิตย์ เราเลยสั่งมาทานอีก 2 อัน ....สุดท้ายหมดอย่างรวดเร็ว ฮิฮิ
 
       
   
   
 
จากนั้นเราก็ไปต่อที่ชายแดนไทย-พม่า ตรงจุดตรวจช่องทางแม่ออ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่เราทานกัน แค่เลี้ยวซ้ายที่แยกแล้วเข้าไปประมาณ 1 กม.ก็ถึง
   
           
       
เข้าไปถึงด่านก็เลยไปคุยกับพี่ทหารหาญครับ พี่เขารักษาการณ์อยู่ที่นี่ ด้านหลังจะเป็นเด็กพม่าที่ทุกๆวันจะเดินเท้าจากพม่าข้ามภูเขามาเป็นหลายๆชั่วโมงเพื่อเข้ามาเรียนหนังสือในฝั่งไทย โดยจะต้องเช็คชื่อและประวัติกันทุกครั้งก่อนจะเข้ามาฝั่งไทย จุดชายแดนนี้ค่อนข้างที่จะสงบครับ ไม่ค่อยมีวิกฤติอะไร
 
       
           
     
 
ต่อจากนั้นเพื่อไมให้เสียเวลา เราก็บึ่งรถออกจากบ้านรักไทยและไปตามโปรแกรมที่วางไว้คือ ถ้ำลอด แต่ก่อนจะไปถึงขอบอกว่าเส้น 1095 หรือ ตัวอำเภอ-ปางมะผ้า นี่สุดยอดของความชันและคดเคี้้ยวมากๆ ขับรถต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูง พร้อมกับการใช้เกียร์ที่ถูกต้อง ผมใช้แต่ 2 (เกียร์ต่ำสุดในรถเกียร์ออโต้)เป็นส่วนใหญ่ จะมีบ้างก็ D3 จนเวลาเกือบบ่ายสองโมงเราก็มาถึงจุดชมวิวปางมะผ้า
     
           
       
พักรถสักหน่อยแล้วออกมาชมวิวพร้อมกับยืดแข้งยืดขา มองออกไปเห็นแต่ขุนเขาสลับซับซ้อนเต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเราขับผ่านมาทั้งหมดกี่ลูกกันแน่ ฝั่งเส้นทางนี้น่าจะมีใบประกาศว่าขับผ่านภูเขามา...ลูก ก็ดีเหมือนกัน
 
       
   
     

14: 39 น. เราก็มาถึงถ้ำน้ำลอดหรือถ้าลอดจนได้ ทางเข้าจากถนนเส้นใหญ่ประมาณ 8 กม.เห็นจะได้ เป็นทางคอนกรีตก็จริงแต่ผมว่าสภาพถนนไม่ค่อยดีนัก แถมแคบด้วย เข้ามาถึงก็ต้องไปเสียค่าบริการในการจ้างเจ้าหน้าที่ชำนาญทางที่คอยถือตะเกียงเจ้าพายุ พาเราไป โดยเสีย 100 บาท ถ้ามากันหลายคนก็ยิ่งดีเพราะจะเฉลี่ยกันไป

         
             
         

เดินจากทางเข้าจนถึงปากทางถ้ำน้ำลอดก็ไกลพอควร สัก 1-2 กม.ได้มั้งครับ ตรงทางเข้าก็จะมีแพคอยบริการด้วยเหมือนกัน แล้วแต่ว่าใครจะเลือกลงแพหรือเดินเท้า ผมมองว่าค่าแพนี่แพงมากๆครับ แพงเกิน เลยเดินเท้าไปดีกว่า ถ้าลงแพตั้งแต่เริ่มต้นนี่ราคาจะสูงถึง 400-600 บาทหรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว

นี่ครับ....ปากทางเข้าถ้ำน้ำลอด

   
         
             
           
      ในน้ำก็ต้องมีปลา แต่ไฉนที่แม่ฮ่องสอนมีแต่ปลาพลวงหินก็ไม่ทราบครับ เจอทุกที่เลย ถ้ำปลาก็ที่หนึ่งแล้ว น้ำตกผาเสื่อก็อีกที่  
           
Continue to Part 4