เมื่อจบจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง
ก็เข้ารับราชการที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ทำอยู่ปีหนึ่ง
ก่อนจะย้ายไปที่กรมการเมือง กระทรวงการต่างประเทศ
เมื่อเรียนจบจากอังกฤษก็กลับมาทำงานอยู่ที่เดิมหนึ่งปี
ก่อนจะรับตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ จนกระทั่งเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. ๒๕๓๐
ได้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติในปีพ.ศ. ๒๕๑๖ - ๒๕๑๗
ปีต่อมาได้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง
และได้รับเลือกตั้ง เป็นประธานสหภาพเพื่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน
(ปัจจุบันเป็น สมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชน สสส.)
ในวิชาชีพอาจารย์
ได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าโครงการรัฐศาสตร์ศึกษา และหัวหน้าสาขาวิชาการต่างประเทศ
เลื่อนเป็นรองอธิการบดีในปี พ.ศ. ๒๕๑๘ ได้รับตำแหน่งศาสตราจารย์ในปีเดียวกัน
และภายหลังยังได้รับดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนี้ยังมีบทบาททางด้านการวิจัยและสนับสนุนการวิจัยหลายด้าน
ดังเช่น เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย "พัฒนาการสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย"
ของมูลนิธิฟอร์ด และมูลนิธิเอเชีย ประธานมูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายกสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย
กรรมการของ Council of Trustees, Thailand Development Research
Institute. (TDRI) เป็นต้น
หลังจากเกษียณอายุราชการ
ก็ได้รับรางวัลนักสิทธิมนุษยชนดีเด่น และทำงานร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชนอีกหลายแห่ง
งานที่ทำล้วนเน้นหนักไปทางด้านชนบท ชุมชนท้องถิ่น สิทธิมนุษยชน ตำแหน่งสำคัญในปัจจุบันคือ
ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
|