หนุ่มสาวดัดจริต > บุ๊ดเดนบรูคส์

 

บุ๊ดเดนบรูคส์ นิยายเล่มแรกของโธมัส มันน์ นักคิด นักเขียน ชาวเยอรมันสมัยก่อนมหาสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง พิมพ์จำหน่ายครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์ เอส ฟิชเฌอร์ ในปีค.ศ. ๑๙๐๑ ด้วยยอดพิมพ์ ๑,๐๐๐ เล่ม พิมพ์แยกเป็นสองเล่ม โธมัส มันน์ ต้องโต้เถียงกับบรรณาธิการฟิชเฌอร์อยู่หลายหน เนื่องจากฟิชเฌอร์ต้องการให้ตัดต่อให้สั้นลง เพราะเกรงว่าไม่มีใครจะอ่านนวนิยายหนาขนาดนี้ ทั้งฟิชเฌอร์ก็เป็นบรรณาธิการหน้าใหม่ของยุคนั้น แทบจะไม่มีใครยอมลงทุนร่วมด้วย แต่หนังสือเล่มนี้ก็ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ในอีกสองปีถัดมายอดพิมพ์รวมก็เกินหนึ่งหมื่นเล่ม และในปีค.ศ. ๑๙๑๙ ก็เกินหนึ่งแสนเล่ม เมื่อเริ่มตีพิมพ์ฉบับราคาย่อมเยาในปีค.ศ. ๑๙๒๙ ยอดพิมพ์ก็ทะลุเกินหนึ่งล้านเล่มในอีกหนึ่งปีถัดมา บุ๊ดเดนบรูคส์ถูกแปลเป็นภาษาต่างประเทศกว่า ๓๒ ภาษา

 

ฉากหลังของบุ๊ดเดนบรูคส์คือเมืองลือเบ็คส์ เมืองท่าตอนเหนือใกล้กับเมืองฮัมบวร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาเอง เมื่อมีเมืองเกิดขึ้น ก็มีผู้คน มีวิถีของเมือง เนื้อหาของบุ๊ดเดนบรูคส์จึงเป็นเรื่องของวิถีชีวิตของตระกูลหนึ่งในเมือง ในที่นี้ก็คือ ตระกูลบุ๊ดเดนบรูคส์ ตั้งแต่รุ่นปู่จนถึงรุ่นหลาน และถึงแม้คำขยายของชื่อคือ “ความล่มสลายของตระกูลหนึ่ง – Der Verfall einer Familie“  นิยายดูจะแสดงให้เห็นความเป็นไปของชีวิตคนเมือง Buerger ที่พยายามไต่เต้าสู่ที่สูง ในที่นี้คือ เกียรติยศและความมั่งคั่ง เสียมากกว่าความตกต่ำหายนะ

 

เรื่องเปิดด้วยงานเลี้ยงฉลองเกียรติยศและความมั่งคั่งของบุ๊ดเดนบรูคส์ นอกจากแขกผู้มีเกียรติคนสำคัญของเมือง ยังมีบุ๊ดเดนบรูคส์ผู้ปู่ ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับภรรยา และนำจดหมายขอแบ่งทรัพย์สินของก็อทท์โฮลด์ ลูกชายคนโตมาแสดงต่อโยฮัน บุ๊ดเดนบรูคส์ด้วยความโกรธเคืองอีกด้วย

 

บุ๊ดเดนบรูคส์ผู้พ่อได้วางรากฐานทางการเงินและสังคมไว้อย่างแน่นหนา สำหรับอนาคตของลูกชายหญิงทั้งสี่คน - โธมัส คริสเตียน โทนี และคลารา – ด้วยการส่งบุตรชายเข้าโรงเรียนประจำชั้นดี แม้จะอยู่ต่างเมือง เพื่อจะได้มีโอกาสคบหาเป็นเพื่อนกับลูกหลานชนชั้นเศรษฐีและผู้ดี ส่วนลูกสาวก็ส่งเข้าโรงเรียนสตรี เพื่อที่จะได้มีคุณสมบัติกุลสตรี ไว้สำหรับเป็นตัวเลือกชั้นหนึ่งของลูกขุนนางหรือเศรษฐี บุ๊ดเดนบรูคส์ผู้พ่อมีชีวิตอยู่นานพอ ที่จะเห็นความไม่เป็นโล้เป็นพายของคริสเตียน ลูกชายคนรองที่หลงไหลการเดินทาง ไม่ยอมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน และการหย่าร้างครั้งแรกของโทนี ลูกสาวสุดที่รัก

 

โธมัสเป็นลูกที่ได้ดั่งใจมากที่สุด เขาเรียนจบตามกำหนด แต่งงานกับกุลสตรีจากตระกูลเก่าแก่ร่ำรวย ที่เขาอุตส่าห์เดินทางไปค้นหาอย่างยากลำบากในเมืองแสนไกล ในทางสังคมเขาก็ไต่เต้าไปจนถึงตำแหน่งกงสุล ปลูกบ้านใหม่หลังใหญ่กว่าเดิม หรูหรากว่าเดิม มีเกียรติยศมากยิ่งกว่าเดิม แกร์ดา ภรรยาของโธมัส ดูเหมือนจะเป็นส่วนเติมเต็มที่ขาดหายไปของตระกูลบุ๊ดเดนบรูคส์ เธออ่อนโยนเปราะบางเหมือนแก้วเจียระไน มีความหยิ่งแบบผู้ดีอยู่ในสายเลือด มีความเป็นศิลปินอันเป็นเครื่องแสดงความศิวิไลซ์ทางจิตใจของชนชั้น

 

โทนีดูเหมือนจะเป็นตัวละครที่มีสีสันและชีวิตชีวามากที่สุดในเรื่อง เธอเป็นบุ๊ดเดนบรูคส์เต็มตัว ยอมยกเลิกความรักบริสุทธิ์กับคนที่มีฐานะไม่เหมาะสม แต่งงานก็คนที่พ่อจัดหามาให้ แต่ชีวิตแต่งงานก็มิได้ราบรื่นนัก เธอต้องหย่าร้างถึงสองครั้งสองครา ไม่อาจนำมาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศให้กับบุ๊ดเดนบรูคส์ได้เลย

 

คลาราลูกสาวคนสุดท้องออกเรือนแต่งงานกับบาทหลวงทิบัวทิอุส ซึ่งเป็นแขกประจำของบ้านคนหนึ่ง แต่ด้วยสุขภาพกายที่อ่อนแอ เธอก็เสียชีวิต ความตายของเธอเป็นเหตุของการแบ่งทรัพย์สินมรดกส่วนของเธอออกไปให้กับสามี เขยของตระกูล ซึ่งเป็นคนนอก ด้วยการยุยงของคริสเตียน ลูกชายคนรองที่ขัดแย้งกันกับโธมัส ผู้เป็นพี่ชาย

 

ความมุ่งมั่นปรารถนาในสายเลือดแบบบุ๊ดเดนบรูคส์ ดูเหมือนจะมิได้อยู่ในตัวของฮันโน ลูกชายคนเดียวของโธมัสเอาเสียเลย ฮันโนเต็มไปด้วยความอ่อนไหวแบบศิลปิน เขารักการเล่นดนตรี รักบทเพลงของบาค เขาไม่เข้าใจตัวเลขและความจริงจังแห่งชีวิต เขาโหยหาความรักของพ่อแต่เขาไม่อาจเป็นอย่างพ่อได้ โธมัสเองก็ไม่อาจเข้าใจลูกชายของตน ไม่ว่าจะเป็นความเคร่งเครียดของชีวิตหรือความไม่สมหวังในตัวผู้สืบตระกูล โธมัสก็ตายด้วยโรคหัวใจล้มเหลวด้วยวัยเพียงสี่สิบ ไม่ทันที่จะสั่งเสีย ไม่ทันที่จะวางแผนอนาคตใดให้กับคนในครอบครัว ฮันโนผู้อ่อนโยนก็คงไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมตัวเองต้องตายด้วยโรคไทฟอยด์ในวัยเพียงสิบหกปี

 

โธมัส มันน์ วาดภาพความล่มสลายไว้ด้วยความตายของผู้ชายในบ้าน และความเป็นม่ายของผู้หญิง จนดูเหมือนว่าการสร้างความเจริญนั้นเป็นภาระหน้าที่ของผู้ชาย ผู้หญิงเพียงแต่แต่งงานกับคนรวยและใช้ชีวิตคู่ให้ดีเท่าสุดเท่านั้น คงไม่ใช่ความผิดของโธมัส มันน์หรอก เขาเพียงแต่เขียนสิ่งที่เป็นไปในสังคมเยอรมันยุคนั้น เขายังเขียนเล่าความรู้สึกชิงดีระหว่างตระกูล การคำนวณแบ่งสมบัติเพื่อเป็นสินสมรสอย่างละเอียดยิบ การจัดแบ่งทางชนชั้นด้วยฐานะทางการเงิน ดังที่แสดงให้เห็นจากปัจจัยในการเลือกคู่ของตัวละครทุกตัว โธมัสต้องแอบเก็บซ่อนความรักในวัยรุ่นของตัว ดึงโทนีออกมาจากความใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กหนุ่ม ลูกชายเจ้าของที่พักตากอากาศที่บ้านนอก ไม่ให้การยอมรับภรรยาของคริสเตียนที่เป็นผู้หญิงเต้นกินรำกิน พวกผู้หญิงก็พูดคุยเปรียบเทียบความมั่งคั่งและชีวิตแต่งงานของแต่ละครอบครัว

 

เป้าหมายของตัวละครที่ว่าด้วยความสำเร็จในชีวิตก็คือเป้าหมายของยุคสมัย ความล่มสลายในนิยายเรื่องนี้ถูกแสดงไว้ในรูปแบบของดนตรีบาค อารมณ์อ่อนโยนที่มาแทนที่ความคิดอันเต็มไปด้วยการคิดคำนวณเหตุผล ความเป็นไปเหล่านี้จะถูกหรือผิด น่ายกย่องหรือเวทนา  โธมัส มันน์ได้เขียนแสดงไว้อย่างละเอียด สำหรับคนชอบอ่านหนังสือเร็ว ๆ หนังสือเล่มนี้อาจจะทำให้รู้สึกอยากฆ่าตัวตายหลายหน เพราะหนาเหลือเกิน เกือบแปดร้อยหน้า

 

เกี่ยวกับผู้เขียน

 

โธมัส มันน์ (ค.ศ. ๑๘๗๕ – ๑๙๕๕) เกิดที่เมืองลือเบ็ค เป็นบุตรชายคนที่สองของสมาชิกสภาเมืองลือเบ็ค โธมัส โยฮัน ไฮน์ริค มันน์ กับยูเลีย ตัวโธมัส มันน์เองมีชื่อเสียงตั้งแต่งานเขียนเล่มแรก คือ บุ๊ดเดนบรูคส์ ซึ่งเขียนอิงจากบุคลิกบุคคลในครอบครัว บ้านบุ๊ดเดนบรูคส์ก็อิงจากบ้านตระกูลมันน์ในลือเบ็คส์เช่นกัน

 

งานเขียนลำดับถัดมาของเขา ได้แก่  Zauberberg – หุบเขาเวทมนต์ Doktor Faustus – ด็อกเตอร์เฟาส์ตุส Joseph und seine Bruedern – โยเซฟกับบรรดาพี่ชาย  ฯลฯ ยิ่งแสดงให้เห็นความเป็นนักคิดและนักปรัชญา ตลอดจนความสามารถทางวรรณกรรมอันเยี่ยมยอด และส่งให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในที่สุด

 

น่าแปลกใจที่งานเขียนของโธมัส มันน์ยังไม่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยเลยสักเล่ม ทั้งที่เขาเป็นนักเขียนเยอรมันที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดรองลงมาจากเกอเธ่ ตระกูลมันน์ได้ชื่อว่าเป็นตระกูลที่ไม่ได้สวมมงกุฏของเยอรมัน เพราะเป็นตระกูลที่เต็มไปด้วยนักเขียน อำนาจของตระกูลมันน์เป็นอำนาจทางวรรณกรรม ไฮน์ริค มันน์ ผู้พี่ก็เป็นนักเขียนที่โด่งดังไม่แพ้น้องชาย บุตรชายของโธมัส เคลาส์ มันน์ เป็นผู้เขียนเรื่อง เมมฟิสโต ที่โด่งดัง บุตรชายอีกคน โกโล มันน์ ก็เป็นศาสตราจารย์ที่เขียนหนังสือด้านประวัติศาสตร์ได้อย่างเยี่ยมยอด แทบจะไม่มีใครในตระกูลนี้ไม่เป็นนักเขียนเลยก็ว่าได้

 



หน้าแรก
| ปัญญาชนสยาม | หนุ่มสาวดัดจริต | กังวานเกี่ยวข้อง | ข้าวตอกดอกมะเขือ | กลับสู่ด้านบน

เว็บไซต์นี้จัดทำด้วยความกระตือรือล้นของใครหลายคนนั้น
ก้อนหิน และหรือดอกไม้ กรุณาหารือกับนักการ
พยายามปรับปรุงข้อมูลครั้งล่าสุด เมื่อวันที่
กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๘