คุณพนม พงษ์สุวรรณ ทำงานรับราชการ ตำแหน่งหัวหน้าอุทยานแห่งชาติ ภูผาเหล็ก ระดับ ๗
มาทำบุญที่วัดพระธรรมกายถึง ๒๖ ปี ได้สร้างพระธรรมกายประจำตัวประดิษฐาน ณ มหาธรรมกายเจดีย์ องค์แรกปี พ.ศ.๒๕๓๙ องค์ที่ ๒ ปี พ.ศ.๒๕๔๑ และอีก ๕ องค์ ปี พ.ศ.๒๕๔๒
เมื่อตอนสร้างพระธรรมกายใหม่ๆ ยังไม่ได้รับ พระของขวัญ พระมหาสิริราชธาตุ ได้แต่ ใบรับพระมาแทน กับรูปพระ และบทสวด สรรเสริญ ได้นำรูปและบทสวด ไปสวดสรรเสริญ ทั้งเช้าและเย็น เป็นเวลาเกือบ ๓ เดือน และทุกครั้ง ที่สวดสรรเสริญ ก็จะนึกถึงองค์พระมหาสิริ ราชธาตุ ไว้ที่ศูนย์กลางกาย ตามที่พระเดช พระคุณหลวงพ่อสอนไว้ตลอดเวลา
เมื่อได้รับพระมหาสิริราชธาตุรุ่นดูดทรัพย์มาแล้ว คุณพนมก็หมั่นสวดมนต์สรรเสริญ และนั่งสมาธิทุกวัน
วันหนึ่งเขาได้สังเกตเห็นองค์พระใส และสุกสว่างมาก แต่ดูกรอบแล้ว เป็นลักษณะเรียบหรู ซึ่งไม่เหมือนกับกรอบพญานาค ที่เป็นพระ ของขวัญ ที่สร้างองค์พระที่แกนกลาง จึงนึกในใจว่า องค์พระของตน คงไม่มีพญานาค คอยรักษาหรอก เพราะเป็นรุ่นดูดทรัพย์
แต่สิ่งที่คุณพนมคิดไปเองนั้นก็เกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่ง คุณพนมเดินทางไปบอกบุญที่จังหวัดเลย ซึ่งเขาบอกบุญจนถึงเวลา ๒๒.๐๐ น. รู้สึกเพลีย แต่ยังมีกำลังใจมาก และได้ตั้งใจเดินทางกลับ ที่อำเภอภูกระดึง ซึ่งมีระยะทาง ๑๐๕ กิโลเมตร ตั้งใจจะกลับไปสวดมนต์ นั่งสมาธิต่อ ที่บ้าน
ขณะเดินทางมาได้ประมาณ ๘๐ กิโลเมตร เกิดรู้สึกง่วงนอนมาก เพราะเพลียจากการขับรถทั้งวัน จึงเปิดเทปอานุภาพ พระมหาสิริราช ธาตุ และบทสวดสรรเสริญฟัง ขณะเดินทางด้วย แต่ก็ไม่หายง่วงนอน และสิ่งที่อันตรายที่สุด ในขณะขับรถก็เกิดขึ้นคือ ได้เผลอหลับใน ไปขณะ ที่รถยนต์กำลังวิ่ง ด้วยความเร็วประมาณ ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ขณะที่เผลอหลับไปนั้น ได้ฝันว่า เขากำลังขับรถอยู่ เหมือนกับเหตุการณ์จริง แต่ในฝันนั้น รถกำลังจะพุ่งลงข้างทาง และต้องชนต้นไม้ แน่นอน รถยนต์กำลังพุ่งตกขอบข้างทาง ซึ่งเป็นดินลูกรัง และวิ่งตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง
ขณะที่รถยนต์กำลังพุ่งหัวลงต่ำไปเรื่อยๆ สิ่งที่เขาไม่คาดคิดว่า จะเห็นก็ได้เห็นคือ มีพญานาคตนหนึ่ง ลำตัวใหญ่มาก ใหญ่กว่าถัง น้ำมัน ๒๐๐ ลิตร ลำตัวยาว ประมาณ ๒๕ เมตร ลำตัวสีขาวเกล็ดเป็นสีทอง หัวเป็นสีเขียวปนแดง พุ่งมาขวาง และเอาลำตัว ช้อนหน้ารถยนต์ ขึ้น ไม่ให้พุ่งไปชนต้นไม้ เสียงลำตัวพญานาคกระทบกับรถดัง ปึ้ง
และรถยนต์ก็เปลี่ยนทิศทาง ขึ้นมาบนถนนลาดยางอีกครั้ง แล้วรถยนต์ก็เสียหลักพุ่งลงถนนอีก ทั้งๆ ที่ในฝัน ก็พยายามสาวพวงมาลัย รถยนต์ ไม่ให้ตกขอบถนน แต่ก็่ไม่เป็นผล รถยนต์ได้วิ่งกระทบ ลำตัวพญานาคอีกครั้ง และครั้งนี้พญานาค ได้หันหน้ามามองคุณพนม ขณะที่ วิ่งคู่ขนานไปกับรถยนต์ คุณพนมก็ได้หันไปสบตากับพญานาค ถึงกับสะดุ้งตื่น
เป็นที่น่าแปลกอย่างมาก ขณะที่ตื่นมานั้น คุณพนมกำลังอยู่ในท่านั่งขับรถ และรถยนต์ยังคงวิ่งด้วยความ เร็ว ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่พญานาค ที่วิ่งขนานกับรถในฝัน เมื่อก่อนหน้านี้ ก็ได้หายไป คุณพนมได้กล่าวว่า
"ข้าพเจ้าไม่รู้ว่า ได้หลับในไปนานเท่าไร และขับไปได้ ระยะทางเท่าไรกันแน่ แต่ที่รู้ๆ ว่านานทีเดียว ระยะทางค่อนข้างไกลมาก ผ่านมา ตั้งหลายโค้ง ไม่รู้มาได้อย่างไร รู้แต่เพียงว่า อุบัติเหตุที่ไม่เกิดกับข้าพเจ้าวันนั้น เพราะพญานาคช่วยเหลือเอาไว้ อย่างแน่นอน ก็ขอบอกเพื่อน กัลยาณมิตรทุกท่านว่า พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ มีพญานาคเหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ใช่กรอบพญานาคก็ตาม ขอให้สวดสรรเสริญ ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้งตลอดทั้งวันยิ่งดีเยี่ยมทีเดียว"
ในบทสวดสรรเสริญคุณของพระมหาสิริราชธาตุมีบทสวดอยู่ช่วงหนึ่งมีใจความว่า "พิมพ์พาพญานาค จตุภาคพิทักษ์ภัย" ทำให้บางคน รู้สึกลังเลสงสัยว่า แล้วองค์พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ จะมีอานุภาพเหมือนกับ พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นกรอบพญานาคไหม
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาน่าจะเป็นตัวอย่างคำตอบที่ดีว่า พระมหาสิริราชธาตุนั้น ท่านศักดิ์สิทธิ์ทุกองค์ และการที่จะให้ท่านมีอานุภาพ มากหรือน้อยนั้น ไม่ใช่รูปภายนอก หากอยู่ที่การหมั่นสวดสรรเสริญ การทำสมาธิน้อมระลึกนึกถึงท่าน ไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อยู่เสมอ เพื่อให้ใจเป็นกุศล และเพื่อระลึกถึง พุทธานุสติต่างหาก จึงจะเป็นวิธีที่จะทำให้องค์พระนั้น เป็นพระที่ศักดิ์สิทธิ ์และมีอานุภาพไม่มีประมาณ และจะคอยปกป้อง คุ้มครองรักษา กับผู้เป็นเจ้าของตลอดไป
[สารบัญ] [๒๘๒] [๒๘๓] [๒๘๔] [๒๘๕] [๒๘๖] [๒๘๗]
[๒๘๘] [๒๘๙] [๒๙๐] [๒๙๑] [๓๐๐] [๓๐๑] [๓๐๒]
[๓๐๓] [๓๐๔]