อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๖๗. โค้ง 100ศพ พบปาฏิหาริย์

คุณแสงอรุณ เฉตระการ เป็นผู้นำบุญ อยู่จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า

เมื่องานบวชอุบาสกแก้ว ตนเองตั้งเป้าไว้ว่า งานบวชอุบาสกแก้ว ๑๐๐,๐๐๐ คน ครั้งแรกของโลกนี้ ขอทำหน้าที่ผู้นำบุญ ชวนคนมาร่วมงาน บวชอุบาสกแก้ว ๔ คันรถ ทุกวันว่างจากการทำการค้า จะขับรถไปตามหมู่บ้านต่าง ๆ ไปหาคนรู้จัก พูดให้เขาเข้าในเรื่องการเดินทางไป ทำบุญใหญ่ที่วัดพระธรรมกาย และบอกรายละเอียด นัดแนะให้เรียบร้อย

ขณะเดียวกัน ก็อธิษฐานขอให้ได้พบเพื่อนร่วมทีม ที่จะได้ช่วยกันทำงานบุญ เพื่อพระพุทธศาสนา ชักชวนหมู่ญาติและสัมพันธชน ให้ได้ สั่งสมบุญ และคุณงามความดี ได้บุญบารมีติดตัวมากๆ เป็นหนทางที่จะทำให้ชีวิต พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง

แล้วคำอธิษฐานของคุณแสงอรุณก็สัมฤทธิ์ผล เมื่อตั้งใจไปหาผู้บวชอุบาสก ที่หมู่บ้านโกสุมพิสัย มุ่งตรงไปบ้านคนรู้จักกัน จะไปบอกบุญเขา ให้ชวนคนไปงานนี้ แต่ระหว่างทาง ก็ไปเจอคุณสมคิด กำลังขี่รถมอเตอร์ไซค์ คุณสมคิดก็หยุดรถทักทาย ตามประสาคนมีอัธยาศัยดี

คุณแสงอรุณจึงได้โอกาสแจ้งข่าวบุญนี้ แก่คุณสมคิด พอได้ฟังก็รู้สึกปิติ ในข่าวบุญใหญ่ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แล้วรับปากว่า จะช่วยนำข่าวบุญ นี้ไปเชิญชวนคนที่รู้จักให้ได้ มาร่วมงานนี้ ปรากฏว่า ในงานอุบาสกแก้ว คุณแสงอรุณสามารถจัดรถได้ ๔ คัน เต็มๆ สมดังที่ ตั้งใจ และได้ กัลยาณมิตรคู่บุญ ร่วมทีมบุญด้วยอีก ๑ คน คือคุณสมคิด โพธิ์ศรี

ตั้งแต่นั้นมาทุกๆ งานบุญใหญ่ คุณสมคิดจะขวนขวายรับบุญออกแจ้งข่าวบุญ และชวนญาติมิตรคนรู้จักกัน ให้ได้มาสั่งสมบุญที่ วัดพระธรรมกาย ต่อมาคุณแสงอรุณ สนับสนุนให้คุณสมคิด มีโอกาสไปปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง ๑ สัปดาห์ที่จังหวัดเชียงใหม่ กลับลงมา ทำให้ เข้าใจว่า นอกจากหมั่นบำเพ็ญทาน รักษาศีล อย่างเป็นประจำแล้ว จะเป็นเหตุได้พบกับความสงบภายใน เมื่อมีโอกาสได้ทำสมาธิ เมื่อใจพบ กับความสงบสะอาดสว่างแล้ว ทำให้มีพลัง ในทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และอยากให้ทุกคนมีโอกาส ได้พบกับความสุขนี้ด้วย จึงตั้งใจ ทำหน้าที่ผู้นำบุญ อย่างเต็มที่ เมื่องานวันคุ้มครองโลก ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๒

คุณสมคิดและลูกสาวก็พบกับอานุภาพบุญ โดยผ่านพระมหาสิริราชธาตุ อย่างเป็นอัศจรรย์ คุณสมคิดเล่าว่า ในวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๒ คุณสมคิดและลูกสาว ชื่อ ด.ญ.ประภาวดี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ได้ออกไปชวนน้องสาว ชื่อคุณบุญมี สีดามาตย์ ซึ่งอยู่ที่ บ้านยางสินไชย ห่างกับบ้านของคุณสมคิดประมาณ ๗ กิโลเมตร ให้มาร่วมงานวันคุ้มครองโลก ที่วัดพระธรรมกาย ในวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๒ โดยออกเดินทางไปช่วงเวลา ๑๕.๐๐ น.

พอไปถึงที่บ้านของน้องสาว ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว น้องสาวก็บอกว่า จะไปชวนเพื่อนที่บ้านเขวาอีกคน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ ๕ กิโลเมตร คุณสมคิดจึงให้ลูกสาวและน้องสาว ไปที่บ้านเขวาเพียงสองคน เพราะเป็นรถมอเตอร์ไซค์ ไปถึงพอชวนเสร็จ กว่าจะได้เดินทางกลับมาที่บ้าน ของน้องสาว ก็เป็นเวลาประมาณ ๒ ทุ่ม คุณสมคิดและลูกสาวจึงได้ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน

ขณะที่ขับรถมาตามทาง  ไฟหน้าของรถมอเตอร์ไซค์เดิม ก็ไม่ค่อยสว่างอยู่แล้ว จึงขับรถด้วยความเร็วไม่สูงนัก เพราะที่ต่างจังหวัดนั้น พอ พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว การเดินทางด้วยจักรยาน หรือมอเตอร์ไซด์ จะอันตรายมาก เพราะถนนจะมืดมาก มืดสนิท ไม่สามารถ จะมอง เห็นว่า ข้างทางจะเป็นอะไรถนนช่วงนั้น จะตรงหรือเป็นทางโค้ง ถ้าแสงไฟจากรถของเรา ไม่สว่างพอ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย จนขับมาถึง ทางโค้งมรณะ ๑๐๐ ศพ เพราะมักจะเกิดอุบัติเหตุ รถแหกโค้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมาแล้ว เป็นจำนวนมาก

พอมาถึงจุดนี้ รถมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาเกิดเครื่องดับ โดยไม่ทราบสาเหตุ คุณสมคิดตกใจมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนั้นรู้สึกกลัวมาก และรู้สึก สงสารลูกสาวด้วย เพราะเด็กก็รู้สึกกลัวมาก และในเวลานั้น ก็มืดแล้ว แต่ในใจก็คิดว่า คงไม่เป็นไร เพราะที่ขับรถมา ก็เพื่อจะไปชักชวนญาติ พี่น้อง ให้ได้มาร่วมงานบุญใหญ่ วันคุ้มครองโลก ถวายปัจจัยทุนการศึกษา ให้พระภิกษุสามเณร ร่วมแสนรูป ที่วัดพระธรรมกาย

ด้วยบุญกุศลตรงนี้ รวมทั้งอานุภาพของพระรัตนตรัย และ พระมหาสิริราชธาตุ จะต้องช่วยให้ปลอดภัยแน่นอน ในขณะนั้น ก็นึกขึ้นได้ว่า มีผู้นำบุญท่านหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านทอง สมศักดิ์เคยมาแนะนำว่า เมื่อมีความเดือดร้อนอะไร ให้นึกถึงบุญ ตั้งจิตอธิษฐาน และให้สวดบท สรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ แต่คุณสมคิดยังจำบทสวดไม่ได้ จึงได้แต่นึกถึงบุญกุศล และอธิษฐานจิต ขออานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ ให้ท่านช่วย ให้ขับรถกลับถึงบ้านได้ อย่างปลอดภัย ให้เครื่องของรถติด สามารถขับไปถึงบ้านด้วยเถิด เพราะในขณะนั้นเป็นเวลา ๒ ทุ่มครึ่ง แล้ว

คุณสมคิดบอกว่า ดิฉันตั้งจิตอธิษฐาน แล้ววางมือจับบนตัวเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ ทันใดนั้น ก็เกิดปาฏิหาริย์อย่างไม่น่าเชื่อ รถมอเตอร์ไซค์ ที่ เครื่องดับมาเป็นเวลานานนั้น เครื่องเกิดติดขึ้นมาเอง โดยที่ดิฉันและลูกสาว ไม่ได้บิดกุญแจสตาร์ทเครื่องเลย เป็นไปได้อย่างไร และไฟหน้ารถ ก็สว่างจ้ามากผิดปกติ ซึ่งไม่เคยสว่างขนาดนี้มาก่อน ดิฉันจึงพูดกับลูกว่า ท่านช่วยเราแล้ว รีบกลับบ้านกันเถอะลูก

เมื่อถึงบ้านดิฉันก็คิดว่า จะขี่ไปที่อู่ซ่อมรถ พอขี่เลยหน้าบ้านไปได้แค่ ๑๐ เมตร เครื่องก็ดับอีก ก็นึกขึ้นมาได้ว่า คงเป็นเพราะ ตอนที่เครื่องรถ ดับครั้งแรกนั้น อธิษฐานไปว่า ขอให้เครื่องติด และให้ขับมาถึงบ้าน

พอตอนเช้านำรถไปให้ที่อู่ซ่อมรถดู ช่างบอกว่า น้ำมันหล่อลื้น ไม่มีเลยแม้แต่น้อย น้ำมันเบนซินก็หมด มิหนำซ้ำ เสตอร์หน้าหลังรูดอีก ช่างถามว่า คุณทำอย่างไร ถึงขับมาได้เนี่ย อัศจรรย์จริงๆ นี่ต้องเป็นเพราะพลังอานุภาพของพระรัตนตรัย และพระมหาสิริราชธาตุ ที่ท่านช่วย คุ้มครอง และดลบันดาลให้สิ่งที่อธิษฐานไว้ สมความปรารถนา อย่างแน่นอน

ตามหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ทั้งภาคปริยัติ และปฏิบัตินั้น ภพภูมิต่าง ๆ มีอยู่จริง สัตว์ที่ยังไม่สิ้นกิเลส ตายแล้วต้องเกิดใหม่ ตาม อำนาจ ส่งผลของกรรมที่ตนทำไว้ ขณะมีชีวิตอยู่ การตายมีสาเหตุอยู่ ๔ อย่าง หมดกรรม หมดอายุ หมดทั้งกรรมและอายุ อย่างสุดท้าย ตายด้วยอุบัติเหตุ

โค้งมรณะต่าง ๆ ตามทางหลวงในต่างจังหวัด บางทีเรียกโค้งผีสิง บางทีเรียกโค้ง....ศพ อย่างรายนี้เหตุเกิดที่โค้ง ๑๐๐ ศพ แสดงว่า มีอุบัติเหตุ ตายกันตรงนั้น นับเป็นร้อย ๆ ผู้ที่ตายเหล่านั้น ถ้าบังเอิญมีเหตุ ๓ อย่างแรกอย่างใดอย่างหนึ่ง รวมอยู่ เมื่อจุติจิตเกิดขึ้น ปฏิสินธิ วิญญาณ ก็เกิดในกายใหม่ ไปตามกรรมดีกรรมชั่วของตน

ส่วนพวกที่ตายด้วยอุบัติเหตุแท้ ๆ ยังไม่หมดกรรม ไม่หมดอายุ หรือทั้งสองอย่าง ก็จะกลายเป็นกายมนุษย์ละเอียด อยู่ตรงที่เกิดเหตุ ที่เรียกกัน ว่า อสุรกายชนิดหนึ่ง สัตว์เหล่านี้ถ้าเคยทำบุญไว้ ตายแล้วนึกถึงบุญเหล่านั้นได้ ย่อมสามารถไปอยู่ ในที่อันสมควร พวกที่ไม่เคยทำบุญไว้ หรือนึกถึงบุญไม่ได้ ก็จะนั่งเฝ้าถนนอยู่บริเวณนั้น

ในภพภูมิดังกล่าว ก็เหมือนผู้คนในเมืองมนุษย์ที่ไม่มีความดี เป็น กลุ่มอสูรกายมีหัวหน้า มีลูกน้องบังคับบัญชากัน บางแห่งก็มีกฎเกณฑ์ว่า หากจะไปอยู่ที่อื่น ต้องมีคนมาอยู่แทน (คือตายเป็นผีมาแทน) ดังนั้น ในสถานที่มีผีตายโหงมาก จึงมีเรื่องผีหลอกเกิดขึ้นเสมอ ใครขวัญอ่อน หรือมี บุญน้อย หรือชะตาขาด ผีอสุรกายพวกนั้น จะหลอกให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นมาง่ายๆ

บางทีเห็นคนร้องรำทำเพลงขวางเต็มถนนกระทันหัน ต้องหักรถหลบทันที เสียหลัก ถ้ามีบุญอยู่ ก็เพียงบาดเจ็บ บุญหมดก็ไปแทนผี ในกลุ่ม ตนใดตนหนึ่ง

บางทีเห็นภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุ มีคนตายเกลื่อนถนน รถกำลังชนกันใหม่ๆ ทำให้ต้องหยุดรถ รถตามมาข้างหลัง ไม่ทันระวัง และไม่เห็น ภาพเหล่านั้น เห็นแต่ถนนว่าง ๆ ก็หยุดไม่ทัน หรือเห็นทางปกติหายไป มีทางใหม่ลวงตาแทน ฯลฯ

คุณสมคิดอาจจะพบเหตุการณ์ผีแกล้ง จึงทำให้เครื่องดับเอาตรงโค้งน่ากลัว แต่คุณสมคิดนึกถึงบุญกุศลทันทีทันใด ที่ตนเดินทางไปชวน คนทำบุญ ทั้งมีพระของขวัญศักดิ์สิทธิ์ ติดตัวอยู่ จึงอธิษฐานขอพรให้ท่านช่วย แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดเป็นอัศจรรย์ เครื่องรถติดได้เอง แถมให้ เท่าที่ขอ คือให้พอไปถึงบ้าน ไปเกินนั้นไม่ยอม นิสัยของมนุษย์ก็เป็นอย่างนี้ ได้เท่านี้ จะเอาเท่านั้น ได้เท่านั้นจะเอาเท่าโน้น

อันที่จริงการเดินทางค่ำคืน ซึ่งถือกันว่า เป็นเวลาผีออกมาเพ่นพ่าน ควรตั้งจิตให้เป็นกุศล สวดมนต์ ภาวนา ทำการแผ่เมตตา หรือแบ่งส่วน กุศล ให้สัมภเวสีทั้งหลาย อนุโมทนาบุญ

ในยุคนี้เราก็สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุนั่นแหละดีที่สุด คุณสมคิดควรท่องให้จำได้ขึ้นใจเสีย ชวนลูกให้ท่องจำให้ได้ ไปไหนด้วยกัน ก็ช่วยกันสวดสรรเสริญไปเรื่อยๆ เสียงสรรเสริญพระรัตนตรัย จะเป็นเกราะป้องกันภยันตรายทั้งปวง เพราะขณะสวด กุศลมโนกรรมเกิด ตลอดเวลา ไม่มีใครมาคิดร้ายได้ เพราะบุญจะแผ่พลังปกป้อง ทำให้อมนุษย์แสบตา มองไม่เห็น พลังบุญนั้น เป็นความสว่างไสว ใครมีบุญ มาก ก็จะมีความสว่างไสวมาก (ซึ่งสามารถเห็นได้ทางสมาธิ) ไปไหน มาไหน ให้นึกถึงพระรัตนตรัยเอาไว้ และหมั่นทำใจให้ใสสว่าง เราจะได้แคล้วคลาด รอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง


[สารบัญ] [๓๖๒] [๓๖๓] [๓๖๔] [๓๖๕] [๓๖๖] [๓๖๗]