คุณอรอนงค์ อุเทนนาม ที่บ้านประกอบอาชีพทำอาหาร ขาย ประเภทอาหารสำเร็จรูป คนเลิกจากการทำงาน มักจะแวะซื้อกลับบ้าน ขายอยู่ที่สี่แยก สะพานพระนั่งเกล้า ขายทั้ง ข้าวสวยและกับข้าว กับข้าวมีวันละประมาณ ๗-๘ อย่าง มีลูกน้องช่วยทำประมาณ ๕-๖ คน ปกติขายดีมาก เวลาคนรุมซื้อตักแทบไม่ทัน ต้องช่วยกันหลายคน ถึงจะบริการลูกค้า ได้ทั่วถึง
คุณอรอนงค์เล่าให้ฟังด้วยใบหน้าที่เบิกบานมีความสุข ว่า ที่ร้านจะขายดีแบบนี้ทุกวัน ตั้งแต่ได้รับพระมหาสิริราชธาตุไว้บูชา
เธอบอกว่า เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ เธอได้มีโอกาสได้พบ กัลยาณมิตรท่านหนึ่ง ชื่อคุณป้าชูจิตร ซึ่งไม่เคยพบ หน้ากันมาก่อนเลย ที่ได้รู้จักกัน เพราะมีคนเขาขอให้ป้า มาส่งสินค้าแทน พอได้คุยกันทางโทรศัพท์ ป้าก็บอกว่า น้ำเสียงเป็นคนใจบุญ ป้าจึงแจ้งข่าวการสร้างพระ สร้างเจดีย์ให้ทราบอย่างละเอียด
พอเธอได้ฟังแล้ว เกิดขนลุก รู้สึกปีติ อยากจะสร้างพระมาก จึงบอกป้าไปว่า อยากสร้างพระมาตั้งนานแล้ว พอได้ยิน รีบถามว่า จะสร้างได้เมื่อไหร่ ป้าก็บอกให้ใจเย็นๆ รอให้ถึง วันอาทิตย์ก่อน ค่อยไปบริจาคสร้าง ด้วยตนเอง เธอบอกว่า หลังจากทราบข่าวแล้ว ถึงกับนอนไม่หลับทีเดียว พออีกวันถัดมาป้าก็ให้ มอเตอร์ไซด์รับจ้าง นำหนังสือ อานุภาพ พระมหาสิริราชธาตุ มาส่งให้เธอ ๓ เล่ม เธอนอนไม่หลับอยู่แล้ว พอได้อ่านหนังสือ ยิ่งรู้สึกขนลุก นอนไม่หลับตลอด ๒ คืน อยากทำบุญสร้างพระมาก
เช้าของวันอาทิตย์ เธอตื่นแต่เช้าตรู่ ด้วยหัวใจที่เบิกบาน กระตือรือร้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันที่ตั้งใจ จะไปทำบุญ สร้างองค์พระประจำตัว ที่วัดพระธรรมกาย วันนี้ชวนลูกสาว คนรู้ใจ ไปเป็นเพื่อน เดินทางกันไปสองคนแม่ลูก เธอบอกว่า มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก พูดกับลูกระหว่างเดินทางว่า แม่นอนไม่หลับมา ๒ คืนแล้ว ได้สร้างพระ สมความตั้งใจ คืนนี้ แม่คงนอนหลับได้แล้วล่ะ
เมื่อรถแล่นเข้าบริเวณวัดแล้ว หัวใจยิ่งเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เห็นภาพอาคารหลังใหญ่ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เรียบง่าย แต่ดูแข็งแรง เธอลงจากรถ เดินปะปนไปกับผู้คนที่แต่งชุดขาว หน้าตาผ่องใสนับร้อยนับพัน ทุกคนเดินทางไปด้วยอาการสงบ มุ่งไปยังอาคารหลังนั้น พอเดินเลี้ยวเข้าไป เธอก็รีบตรงไป ทำบุญสร้างองค์พระทันที ๑๔ องค์ ความปีติในบุญ ทำให้ ใจภายใน เปล่งประกายสว่างเฉิดฉาย จนเจ้าตัวรู้สึกได้ พอพบกับป้าชูจิตรแล้ว นั่งพักสักครู่ก็เริ่มพิธี ทุกคนเตรียมตัว กราบพระรัตนตรัย และสวดมนต์พร้อมกัน นั่งสมาธิแบบง่ายๆ เสียงของหลวงพ่อ นุ่มนวล ชวนให้ปฏิบัติตามยิ่งนัก วันนั้น จึงเป็นวันที่เธอทั้งปีติ และประทับใจมาก ที่ได้มาวัดเป็นครั้งแรก
หลังจากได้สร้างองค์พระสมใจแล้ว ความเปลี่ยนแปลง ในกิจการขายกับข้าว ก็เปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด เธอกล่าวย้ำว่า ทั้งที่ทำบุญ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน กับข้าวที่เคยขายปกติ เฉลี่ยวันละ ๖,๐๐๐ - ๗,๐๐๐ บาท และมีอยู่วันหนึ่งยอดสูงสุดถึง ๘,๐๐๐ กว่าบาท ทุกวันนี้ ทั้งที่เศรษฐกิจไม่เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อน เธอบอกว่า ยังขายได้โดยเฉลี่ยวันละ ๖,๐๐๐ - ๗,๐๐๐ บาท และขายหมดไวด้วย เริ่มขายบ่ายสามโมง พอหกโมงเย็น ก็สามารถปิดร้าน ไปนั่งสมาธิตาม บ้านกัลยาณมิตรของเพื่อน ที่รักการปฏิบัติธรรม ด้วยกัน ไม่ต้อง ทำมา หากิน อย่างเดียวเหมือนแต่ก่อน ส่วนบ้านของเธอเอง ได้เปิดบ้านกัลยาณมิตรเช่นกัน วันแรกของการเปิดบ้าน มีสมาชิกมาถึง ๔๐ คน บรรยากาศวันนั้น เธอเข้าใจคำว่า บ้านแก้ว เรือนธรรม ก็วันนี้แหละ
เธอเล่าถึงความประทับใจว่า ใน วันเปิดบ้านกัลยาณมิตรว่า มีความสุขมาก เมื่อได้ยินเสียงสวดมนต์ เพื่อบูชาพระรัตนตรัย เพื่อนบ้านต่างก็มาปฏิบัติธรรมที่บ้านของเธอ เสียง สวดมนต์ที่ดังขึ้นภายในบ้าน เธอกล่าวว่า ช่างเป็นเสียงสวรรค์ นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล มาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน เธอกล่าวว่า รู้สึกซาบซึ้งใน พระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโย ที่ท่านเมตตา ให้ลูกเปิด บ้านกัลยาณมิตร ให้เป็น บ้านแก้วเรือนธรรม นำธรรมะสู่ใจของที่ท่านมาเยือน
ด้วยหัวใจของนักสร้างบารมี คุณอรอนงค์บอกว่า ทุกงานบุญใหญ่ เธอจะรับเป็นเจ้าภาพทานบดี ออกร้านอาหารหม้อใหญ่ๆ ส่วนหนึ่ง ถวายเป็นสังฆทานแด่พระภิกษุสงฆ์ เรือน หมื่น เรือนแสน ที่เดินทางมาเป็นเนื้อนาบุญ จากทั่วประเทศ และอีกส่วน ก็เปิดฟรีให้แก่สาธุชน ที่มาประพฤติธรรม จัดของไปแต่ละครั้ง ก็ประมาณ ๒ คันรถปิคอัพ เป็น กุศโลบาย ให้สามีที่ยังไม่ศรัทธา ได้มาวัดด้วยตนเอง เธอบอกว่า เคยทำขนมจีน แกงเขียวหวาน ๒ หม้อ ใหญ่ๆ ใช้ขนมจีน ๑๐ เข่ง เธอนึกถึง การบำเพ็ญทาน ครั้งนั้นทีไร เป็นภาพ ที่ติดตา ตรึงใจ ทุกครั้ง หยิบขนมจีนใส่กล่องแทบไม่ทัน สนุกสนานเบิกบาน เมื่อกลับมาขายอาหารตามปกติ ที่ร้านจะต้องมีลูกค้า มารุมซี้อตักแทบไม่ทัน ช่างเหมือนกับภาพ การบำเพ็ญ ทาน ที่เธอสั่งสมมา ทุกประการ
ส่วนสามีของเธอที่ชวนให้ขนของไปส่งบ่อยๆ แรกๆ ก็ยังแค่ไปส่งไม่ยอมเข้า ไปร่วมพิธี แต่เนื่องด้วย เธออยากให้ทุกคน ที่บ้านมีสัมมาทิฐิเสมอกัน เพราะลูกๆ นั้นชอบไปวัดอยู่แล้ว เธอจึงพึ่ง พระมหาสิริราชธาตุ หลังจากการทำวัตร และสวดสรรเสริญ ครั้งละ ๓ จบแล้ว จึงอธิษฐานว่า ขอให้เขามีศรัทธาในพระรัตนตรัย อย่างมั่นคง
ต่อมาอีกไม่นาน จำได้ว่าเป็นวันบวชอุบาสกแก้ว สามีเข้าไปร่วมในพิธีบวช อันศักดิ์สิทธิ์นี้ด้วย ในช่วงเย็นสาธุชนเกือบ ๒ แสนคนพร้อมใจกัน ไปร่วมฉลองชัย ชิตังเม และอธิษฐาน จิต ร่วมกัน ในช่วงชิตังเม สามีของเธอก็เรียกให้ คุณอรอนงค์ มองไปบนท้องฟ้า แล้วพูดว่า ดูซิดู หลวงพ่อสด อยู่บนโน้นแน่ะ พร้อมกับชี้มือไปทาง ดวงอาทิตย์ คนที่อยู่บริเวณนั้น ก็พลอยมองตาม เธอก็เห็นเช่นกัน มีเสียงเด็กที่ยืนอยู่ข้างๆ บอก แม่ๆ ดูซิหลวงพ่อ กระพริบตาได้ ซึ่งเธอเองก็เห็นเช่นนั้น วันนั้น จึงเกิดความปีติ และศรัทธาอานุภาพของ หลวงพ่อสด มาก
ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้ ครอบครัวแก้ว ครอบครัวธรรมกาย สามีสนับสนุน ให้มาประกอบบุญกุศลทุกอย่าง คุณอรอนงค์เล่าถึง อานุภาพบุญต่ออีกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่ง ลูกน้อง ที่ช่วยงาน ในร้าน ยังไม่เข้าใจเรื่องบุญว่า มีความสำคัญต่อชีวิตขนาดไหน ทำบุญแล้วดียังไง ผลบุญผลบาปมีจริง
บังเอิญดวงตาของคุณอรอนงค์เกิดแดงขึ้นมา ไม่ทราบสาเหตุ ชนิดส่อง กระจก เห็นเส้นเลือดฝอย ในเบ้าตาแดงไปหมด ลองล้างตาด้วยน้ำยาดู เผื่อจะทุเลาลงได้ จนเวลาล่วงไป สองวัน เธอก็ยังไม่หาย ไม่ได้ไปหาหมอ ตกกลางคืนของวันที่สอง ก็เกิดอาการปวด อย่างรุนแรง เธอบอกว่า ปวดมากจนทนไม่ไหว สามีจึงโทรศัพท์ไปโรงพยาบาล และจะส่งตัว ไปคืนนั้นเลย แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ให้รอรุ่งเช้าก่อน ค่อยไปตรวจ
อาการปวดกลับทวีความรุนแรงขึ้น จนเธอทนไม่ไหว เธอจึงนำแก้วใบใหญ่ใส่น้ำให้เต็ม อาราธนาพระมหาสิริราชธาตุ จุ่มลงไปในแก้ว สวดสรรเสริญท่าน ๙ จบ แล้วเธอก็อธิษฐาน ขอให้ท่าน ช่วยถอนพิษ ขอให้หายปวด เพราะทรมานมาก ขออย่าให้ดวงตา เป็นอันตรายใดๆ เลย ยังอยากอยู่สร้างบารมี เสร็จแล้ว จึงนำน้ำมาแช่ลูกตา และกลอกตาไปมา พอน้ำ กระทบแก้วตา เธอรู้สึกเย็น ไม่แสบตาเลย รู้สึกเหมือนกับ ถูกดึงที่ลูกตา วาบ วาบ พร้อมกับความเจ็บปวด ก็หายเป็นปลิดทิ้งไปด้วย ดีใจรีบไปส่องกระจกดู ความปวดหายไปแล้ว แต่ตายังคงแดงอยู่ ก็กังวลใจนิดๆ ว่า ไม่หายต้องถูกผ่าตัดแน่เลย
พอรุ่งเช้าคุณอรอนงค์รีบไปส่องกระจกดูก็อัศจรรย์ใจ เส้นเลือดที่แดงในดวงตา ที่เหมือนสายเลือดนั้น บัดนี้หายไปหมดเลย ไม่มีร่องรอยของ อาการเจ็บทรมาน ที่หลงเหลืออยู่อีกเลย จากเหตุการณ์นี้ ทำให้ลูกน้องที่ไม่เชื่อยอมรับ และเชื่อว่า อานุภาพมีจริง ปัจจุบันนี้ ทุกคนต่างยึดมั่น ในพระรัตนตรัย มีความเกรงกลัว ละอายต่อบาป และตั้งใจทำความดีกัน ทั้งร้าน
การทำมาหากินทุกชนิด จะให้รุ่งเรืองนั้น จำต้องมีบุญในตัว เป็นพื้นรองรับอยู่ คนมีบุญมาก ดวงบุญประจำตัว จะมีขนาดโต ดวงบุญที่มีขนาดโต ย่อมมีอานุภาพดึงดูด ทรัพย์ สมบัติ มากกว่าคนที่มีดวงบุญเล็กๆ นี่เป็นหลักของความจริง
คุณอรอนงค์ทำบุญ
อาจไม่ได้คำนึงถึงเหตุผลนี้ แต่ทำเพราะอยากจะทำ มีศรัทธาเต็มเปี่ยมในการทำ
มีปัญญารู้ว่า
การทำบุญเป็นสิ่งดีควรกระทำ
ยังทำด้วย ความปีติโสมนัส
เพียงเข้าวัดครั้งแรก
ก็จองสร้างองค์พระถึง ๑๔ องค์ โดยไม่มีความลังเลใจ
บุญที่เกิดขึ้น
ด้วยการมีกุศลจิตดังนี้ เรียกว่า มหากุศล จะมีผลไพศาล ไม่มีประมาณ
จึงส่งผลให้อย่างที่ เจ้าตัว
ต้องอัศจรรย์ใจ มีรายได้เพิ่ม ได้เลิกขายเร็วกว่าเดิม
ยังมีบุญจากการเปิด
บ้านกัลยาณมิตร เพิ่มมาเป็นพิเศษ
อธิษฐานสิ่งใด จึงสำเร็จ
แม้แต่เรื่อง หายจากโรคตาแดง
ที่น่าดีใจที่สุด
ของคุณอรอนงค์
คงเป็นเรื่องที่สามี
กลายเป็นคนมี สัมมาทิฏฐิตามตนเองไป
ด้วยแรงอธิษฐานจิต
ทำให้สามีเห็นปาฏิหารย์
เป็นภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำ
ลอยอยู่ใน ท้องฟ้า
มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลางกาย
เห็นกระทั่ง
หลวงพ่อกระพริบตาได้
ทำให้มีศรัทธา
ในพระพุทธศาสนามั่นคงทันที
ปาฏิหาริย์ใดก็ตามที่ทำให้ผู้พบเห็น เกิดกุศลจิต มีศรัทธา ต้องการประกอบคุณงามความดี ให้ยิ่งกว่าเดิม ถือว่า เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องงมงาย ใครได้พบเห็นปาฏิหาริย์ชนิดนี้ ต้องถือ ว่า ตนเองเป็นคนมีบุญ บารมีมาพอสมควร คนฉลาดเมื่อพบเห็นปาฏิหาริย์ ย่อมนำมาสอนตนเอง ให้เร่งความเพียร ในการปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ