ไคลแอนต์
และ เซิร์ฟเวอร์
การพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำให้ขนาดของคอมพิวเตอร์เล็กลง มีขีดความสามารถเชิงคำนวณสูงขึ้น
ขนาดของหน่วยความจำเพิ่มจากเดิมมากประจวบกับพัฒนาการทางด้านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ก้าวหน้าจนถึงขึ้นการเชื่อม
ทรัพยากรต่าง ๆของคอมพิวเตอร์เข้าด้วยกันได้อย่างมีระบบผลของการเปลี่ยนแปลงแทคโนโลยีทำให้เกิดรูปแบบ
การทำงานของระบบคอม พิวเตอร์ที่ใช้ เครื่องคอมพิวเตอร์จำนวนมากร่วมกันทำงานด้วยฟังก์ชั่นต่าง
ๆ ตามความเหมาะสมของ ระบบเพื่อให้ขีดความสามารถของทั้งระบบสูงขึ้น
ในขณะที่ต้น ทุนการลงทุนต่ำลงและสามารถขยายระบบได้ตามความเหมาะสม
ขององค์กร ระบบเชิงการคำนวณของคอมพิวเตอร์มากกว่าหนึ่งเครื่อง
ขึ้นไปผ่านทาง เครือข่ายที่นิยมมากรูปแบบหนึ่งคือ รูปแบบไคลแอนต์-เซิร์ฟเวอร์
 
หน้าที่หลักของเซิร์ฟเวอร์
คือ การให้บริการเช่น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ ทำหน้าที่ให้บริการการใช้ไฟล์
ใช้ข้อมูล หากจัดการข้อมูลเป็นฐานข้อมูลและให้บริการการเรียกใช้ผ่านคำสั่งจัดการฐานข้อมูลมาตรฐาน
เช่น SQL ก็เรียกว่า ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ ให้บริการด้านการสื่อสารที่จะต่อเชื่อมกับอุปกร์อื่นก็เรียกว่า
คอมมูนิเคชั่นเซิร์ฟเวอร์ ให้บริการด้านการพิมพ์เอกสาร เป็นที่พักของข้อมูลก่อนการบริการการพิมพ์ก็เรียกว่า
พรินเตอร์เซิร์ฟเวอร์
คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่ขอใช้บริการเรียกว่า
ไคลแอนต์ เช่น พีซีที่ต่ออยู่บนเครือข่าย ขอเรียกใช้ฐานข้อมูล
เราเรียกพีซีนี้ว่า
ดาต้าเบสไคลแอนต์ ในขณะที่พีซีมีการเชื่อมต่อกับผู้ใช้เพื่อให้แสดงผลแบบวินโดว์เป็นกราฟิคได้
พีซีทำหน้าที่แสดงผล
และให้บริการการแสดงผล เราเรียกพีซีนี้ว่าเป็น เทอร์มินัลเซิร์ฟเวอร์
ดังนั้นอุปกรณ์หนึ่งอาจเป็นได้ทั้งไคลแอนต์และเซิร์ฟเวอร์ตามฟังก์ชันการทำงานและจะทำงานร่วมกันโดยส่งผ่านข้อมูล
และการเชื่อมโยงทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์
รูปแบบของไคลแอนต์-เซิร์ฟเวอร์จึงเป็นรูปแบบที่ใช้ขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์จำนวนมากตั้งแต่พีซีจนถึงเมนเฟรม
ทำงานร่วมกันเป็นระบบ รูปแบบการทำงานแบบไคลแอนต์-เซิร์ฟเวอร์ จึงเป็นรูปแบบของการจัดระบบให้เหมาะสม
กับองค์กรทั้งทาง ด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟแวร์ และการทำงานร่วมกัน ระบบนี้จึงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในขณะนี้
|