![]() |
: ยกที่หนึ่ง : ยกที่สอง : ยกที่สาม : ยกที่สี่ : ยกที่ห้า : ยกสุดท้าย :: ฮ. โฮม ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
กางเตนท์เสร็จก็หอบเอา โพสการ์ดไปนั่งเขียนที่โต๊ะไม้ ที่มีให้ ๒ ๓ ตัว เขียนจดเสร็จ เขียนเพลิน มองไปข้าง ๆ อีกทีปรากฏว่ามีรถคันอื่น ๆ มาจอดพรึบ เอ้าเสร็จเสียที....หอบกลับไป แล้วก็นอนพักแม่งบนศาลาลมเพ นี่ล่ะ นอน ๆ ไป...กะลังจะวู้บ...ปรากฎว่าได้ยินเสียงเอะอะ ข้าง ๆ ลุกขึ้นมาดู อ๋อ... กลุ่มที่ค้างเมื่อคืนนี่หว่า จากนั้นเขาก็ทำอาหารการกิน เสียงกระทะดังเข้าหู ทำให้รู้สึกหิวขึ้นมาทันที ... ทำไงดีวะ ยังงี้แล้วกัน หากท้องร้องขึ้นมาจะอายเขา เอาหนังสือมาอ่าน เอาขนมปังโรยหมูหย๋อง ออกมากินดีกว่า แต่...มันก็ยังแอบร้องอยู่ดี ยังดีที่ไม่มีพิรุธ นับว่าเป็นการป้องกัน ที่ใช้ได้ทีเดียว .... นั่งอยู่ตัวคนเดียวโดดเดี่ยวโดยไม่มีเพื่อน ไม่มีอะไรทำก็เลยเอาหนังสือมาเปิด ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงสวรรค์แว่วมาข้าง ๆ ... เบียร์ไหมครับ โอ้ววว.... เกรงจาย ๆ สันดานผู้ดีเก่าเตือนเอาไว้ว่า นี่มึง... อย่าเสือก รับของเขาเชียวนะ สมบัติผู้ดีมีไหม ( ตอแหลชิ้บ.. ) ขอบอกขอบใจ พร้อมกับ ไม่เป็นไรครับ ตามธรรมเนียม ถามไถ่ได้ความว่ามากัน ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มาจาก กมท. เป็นนักศึกษาอยู่ด้วย ประกอบด้วย ชาย ๔ หญิง ๑ จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอะไรมากมาย เพราะเขาก็ง่วนกับอาหารการกิน ไอ้เราก็อยากจะปั่นไปจุดชมวิว ได้เวลาแล้ว เขาว่าอาทิตย์ตกดินที่นั่นสวย ต้องพิสูจน์ เอาผ้าโพกหัวแล้วก็ออกปั่น ระยะทางตามที่บอก ห่างออกไป ๕ กม. ไหน ๆ วันนี้ก้ปั่นจนน่องโต ปั่นอีก ๕ กม. คงไม่ตายหรอก .. จริงอยู่ที่ปั่นโโยไม่มีสัมภาระ มันจะเบาแต่ว่า ทางโครตชันเลย ขึ้นเขาตลอด พอลับตาคน แม่ง..จูงเลย ทางก็แย่กว่าที่ผ่าน ๆ มาอีกตะหาก... โปรดระวังช้างป่า ... ป้ายข้างทางเตือนผู้สัญจรไปมา จ้างให้กูก็ไม่เชื่อ เจอสิดีจะได้ถ่ายรูปเอาไว้เป็นที่ระลึก ถ่ายเสร็จก็หันรถกลับ จ้างให้ก็วิ่งไล่ไม่ทัน เพราะลงเขารถมันเร็ว..และแรง ที่ กม. ที่ ๒.๕ มีป้ายชี้บอกทางเข้าไปยังน้ำตกถ้ำค้างคาว และน้ำตกพลับพลึง จากที่อ่านในโบว์ชัวร์เขียนไว้ว่าต้องมีคนนำทาง และเดินทาง ๓ วัน ๒ คืน โกหกกันหรือเปล่าวะ ก็ป้ายมันบอกว่า ๑.๖ กิโลเองนี่หว่า ต่อให้เดินช้ายังไง มันก็ใช้เวลาไม่เกิน ๒ ชั่วโมง... ตอแหล แหง ๆ ชั่งใจอยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจ .. กูไม่สนหรอก แล้วก็มุ่งหน้า จูงต่อไป ทางโครตเปลี่ยวเลย จูงไปก็ระแวง พะวงหน้าพะวงหลัง จะมีตัวอะไรพรวดพราดออกมาหรือเปล่าวะ ออกมาจริงกู แย่แน่ ๆ ความกลัวไม่อาจ จะหยุดยั้งความอยากรู้อยากเห็นของคนได้ ผ่าน กิโลที่ ๓ มาแล้วอีก ๒ กิโล ปลอบใจตัวเอง ..ในที่สุดก็มีรถวิ่งแซงขึ้นไป ๑ คัน ไชโย.... กูไม่กลัวว้อย ขณะที่จูงจักรยานไต่ระดับความสูงอยู่นั้น เสียงนกก็ร้องซะลั่นป่าเลย นกอะไรวะ ร้องแป้ด ๆๆๆๆๆ เสียงดัง เมียงมองไปตามต้นไม้ โอ้ว....พระแม่เจ้า ** กูเห็นนกเงือก ** มันจะเงือกพันธ์ไหนกูไม่สน จกกล้องออกมาแอบถ่าย แต่มันหลบอยู่ใต้ใบไม้ ที่ต้นไม้ใหญ่ ที่นี่ต้องเป็นรังมันแน่ ๆ เพราะมีต้นไม้ใหญ่แล้ว มันก็มีหลายตัวด้วย โฉบไปมา ๔-๕ ตัวแต่ก็ถ่ายไม่ทัน มีตัวนึงบินข้ามถนนไปยังอีกฟาก ก็พลาดจนได้ มันไม่ยอมบินซะที ทำไงดีจะได้รูปว่ะ ปิ้ง............. แล้วก็ได้ไอเดียเด็ด ผิวปากล่อให้มันได้ยินเสียง ได้ผลว่ะ ได้ภาพระยะไกลตอนบินมา ๒ ภาพ แต่ละตัวโครตใหญ่เลย ... อันที่จริงก้ไม่เคยเห็นนกเงือกมาก่อนหรอก อาศัยเดาเอา แค่นี้ก็ดีใจโขแล้ว..... อย่างอื่นไม่สนแล้ว เย็น ๆ นกเตรียมเข้ารัง ถึงเห็นได้เยอะ เขาว่าจะดูนกต้องดูเช้าเย็น เกิดอาการอยากได้กล้อง เอาไว้ดูนกขึ้นมาทันทีเลย ส. ๑๐ ส.ค. ๔๖ |