:: อช. ปางสีดา ::
: ยกที่หนึ่ง
: ยกที่สอง
: ยกที่สาม
: ยกที่สี่
: ยกที่ห้า
:: ฮ. โฮม
เชิญลงนาม ทางนี้เลย
|
|
 |
 |
** ยกที่สี่ **
เห็นนกเงือกแล้ว เบิกบานว่ะ เบิกบานเกินเหตุ จนไม่อยากปั่นแล้ว
อยากจูงแม่งอย่างเดียว และความปราถนาก้เป็นจริงเมื่อ ทางยังชันเรื่อย
รอยน้ำฝนกัดเซาะพื้นถนนมีให้เห้นทั่วไป .. นอกจากนกเงือกกลุ่มนั้นแล้ว
ก็ไม่เห็นสัตว์อื่นอีกเลย ... ทางก้ยังเปลี่ยวเหมือนเดิม
จวนจะถึงแล้ว รู้สึกอย่างนั้นเพราะว่าข้าง ๆ ทางเห็นภูเขาแล้ว และก็จริงอย่างที่คาดเอาไว้
เพราะปั่นไปอีกแป้บ ก็เห็นป้ายบอก และรถที่วิ่งแซงหน้าเราระหว่างทางก้จอดรออยู่แล้ว
ว้าว..... สวยจริง ๆ สวยขนาด...สวยคักอิหลี
ทิศตะวันตกเป็นทิวเขาสลับซับซ้อน ที่ที่ยืนอยู่ตอนนี้เป็นทิวเขา พนมดงรัก มองไปไกล ๆ
นู่นเป็นทิวเขาของ อช. ทับลาน ที่อยู่ในเขตอำเภอนาดี จ. ปราจีน อยู่ไกลเหมือนกันนะ แต่
มองจากจุดชมวิวเหมือนกับว่ามันไม่ได้ไกลกันสักเท่าไหร่เลย
ตะวันยังค้างฟ้า อีกนานกว่าจะตก ... อันที่จริงกะไว้ว่าจะรอดู พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนจุดชมวิว
แต่ประเมินสถาณการณืแล้ว คงไม่ไหว เพราะหากมืดค่ำมา จะลงลำบาก ทางชันและขรุขระ
ที่จุดชมวิวมี ที่นั่งล้อเกวียนอย่างดี .... เขาจองตัวนั้น เพราะฉั้นตัวนี้กุจอง
มาแล้วก็ถ่ายรูปหน่อย แชะ ๆ.... ๒ รูปก็พอแล้ว รูปออกมาคงสวยนาดู เพราะมีแมงปอเต็มฟ้า
บินว่อนไปมา ฝนก็ไม่ตกทำไมแมงปอมันเยอะจังเลยวะ
นั่งเล่นกินลมอย่างสบายใจ สายตามองออกไป เห็นละอองป่า หากมาเย็นกว่านี้หมอกยิ่งจะเยอะ
นั่งเล่นเพลิน ๆ จู่ ๆ ก็มีเพื่อนเข้ามาใกล้ มาใก้ และ ในที่สุดก้เเกิดการ แตะเนื้อต้องตัว
แรก ๆ ก้ไม่ยอมหรอกแต่ทนลูกตื้อไม่ไหวเลยยอม เธอเอามือไม้มาลูบไล้ ท่อนขา
แค่นั้นยังไม่พอ ปากยังลามเลียไปทั่ว จากปลายเท้าสูงขึ้นมาถึงลำแข้ง เป็นอยู่อย่างนั้น
จั๊กจี๋ก็จั๊กจี๋ แต่เธอก้ไม่ยอมหยุด ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากปล่อยให้เธอ ทำหน้าที่ของเธอไป
เผลอแพล้บเดียว จากหนึ่งกลายเป็ย ๒ กลายเป็น ๓ และมากขึ้น ...กูโดนลวนลาม
ใครก็ได้ช่วยกูที อีผึ้งมันลวมลามกู กูไม่น่าสมยอมอิแรกเลย ดูดิ ตอนนี้แม่งยกโขยงมาจากไหนไม่รู้
มาบินตอมขากู ตอมขายังไม่พอยังมีบางตัวบินเข้ากางเกง ... ผึ้งพวกนี้มากินเหงื่อ มันคงคิดว่าเป็นน้ำหวาน
รสพิเศษมั้ง ที่ฝ่าเท้าก้มี ที่แข้งอีกหลายตัว และที่บินอยู่ก็เยอะ รวมแล้วเกือบสิบตัว
ไม่รู้มันไปบอกเพื่อนมันเมื่อไหร่ว่า มีแหล่งอาหารแห่งใหม่ ต้องค่อย ๆ เขย่าขาไล่มัน
หากอยู่นิ่ง แม่งฉวยโอกาสทันทีเลย
คนทะยอยขึ้นมาที่จุดชมวิว รถหลายคันมาแล้ว ไม่อยู่แล้วไปดีกว่า คนเยอะลำบาก
ก่อนลงก็มีพี่ ๒ คนเข้ามา เซิฟ ๆ คุยด้วยแป้บนึงแก งง ว่าปั่นมาได้ยังไง น้องถึกจริง ๆ
เป็นพี่นะ ต้องเรยกรถพยาบาลแล้ว .... ไม่จำเป็นหรอก เรียกรถปอ ดีกว่า ( แขวะกันเอง)
คู่นั้นกลับ กูจะอยู่ทำห่าอะไร กลับดีกว่า ว่าแล้วก็ปล่อยรถวิ่งลงเขาไป
แม่เจ้าโว้ย...สปีดเร็วกว่านรก ขนาดเบรกตลอดยังเร็วอยู่เลย
โค้งลงเขาน่ากลัวชะมัด หินก็เป็นหินโรย ล้อรถไม่เกาะอีกต่างหาก
ขณะที่รถวิ่งลง เกิดอาการหลีกไม่พ้นขึ้นมา ข้างหน้าเป้นร่องน้ำเซาะ ไม่มีทางเลี่ยง
ตายห่า...เบรคเอาไม่อยู่แล้ว
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ตึก ๆๆๆๆๆ... กรื้ดดดดดดดดดดดด ยกล้อเลย รถกระแทกพื้นดังครืน
เกือบไข่แตกซะแล้วกู แม่งโครตมันส์เลย ... ความเร็วไม่ลดละ ยิ่งเร็วยิ่งมันส์ และยิ่งเสี่ยง
หากมีรถตรงทางโค้งมีหวังกูเสร็จ เพราะมองไม่เห็นทางข้างหน้า นี่ขนาดตะวันค้างฟ้า
ยังดูอึมครึมเลย ปั่นจักรยานลงเขา...เป้นการทดสอบ จิตใจอย่างนึง การตัดสินใจจะโลเลไม่ได้
ไม่งั้นมีหวัง หน้าแหกหรือไม่ก็ไข่แตก หากตัดสินใจพลาดเลือกลงทางผิด
ต้องแก้สถานกาณือย่างรวดเร็ว ....
ระยะทาง ๕ กิโลขาลงเหมือน ๑๐ เมตรเพราะใช้เวลาไม่ถึง ๑๕ นาที
แม่งโครตสนุกเลย ครั้งหน้ากูมาปั่นอีกดีกว่า ปั่นแบบไม่ต้องเอาสัมภาระขึ้นบ่า
อย่างนี้จะสบายกว่าเยอะเลย
ส.
๑๑ ส.ค. ๔๖
|