:: อช. ปางสีดา ::

: ยกที่หนึ่ง
: ยกที่สอง
: ยกที่สาม
: ยกที่สี่
: ยกที่ห้า
: ยกสุดท้าย

:: ฮ. โฮม

เชิญลงนาม ทางนี้เลย

** ยกที่ห้า ** ลงเขามาแล้ว เลี้ยวเข้าศาลาลมเพ วู้ว ๆ.. กลับมาเห็นเด็กนักเรียนที่เข้ามาตอนบ่ายกว่า ๆ ทำกิจกรรมแถวๆ ที่กางเตนท์ เมียงมองดู ปรากฏว่าเป็นนักเรียน รร.ท่าเกษม ของสระแก้วนี่เอง เป็นค่ายเยาวชน ต้านภัยยาเสพติดย์ เห็นแม่ครัว ทำอาหารข้าง ๆ เตนท์แล้วท้องมันจะร้องเอาให้ได้ หนีไปอาบน้ำดีกว่า เพราะเหม็นมาก โดยเฉพาะผ้าเช็ดเหงื่อ กลิ่นโสสุด ๆ.. อาบน้ำอาบท่าแล้วรู้สึกสบายตัวขึ้น น้ำไม่เย็นอย่างที่คิด ผ้าเช็ดตัวหอมกลิ่นกวีวี่ ต้องขอบคุณ B-nice ที่ให้ความสดชื่นกลับมา เริ่มมืดแล้ว รถที่ไปจุดชมวิวทะยอยกลับมาแล้ว เด็กนักเรียนที่มาเข้าค่าย ๕๐ คนกำลังทำกิจกรรม และอีกไม่นานจะได้เวลาอาหาร คืนนี้กูแอบบดอดไปหยิบข้าวเหนียวข้าง ๆ ศาลามากินดีป่าว คงไม่มีใครรู้หรอก อาศัยความมืดอำพรางตัว เช็คที่หลับที่นอน แล้วก็เอาผ้าขาวม้าปู โอเค... นอนพักดีกว่าเพราะรู้สึกปวดหัวตึ๊บ ๆ นอนหลับไปตื่นนึง หลับไปไม่ถึงชั่วโมง ออกมาจุดเทียนนั่งอ่านหนังสือเล่นที่ หน้าเตนท์ กะลังอ่าน เรื่องเกี่ยวกับนกเงือก ... พลันก็มี เบียร์หนึ่งกระป๋อง มาวางข้าง ๆ หันไปดู ปรากฏว่าเป็น คนที่ชวนคุยตอนเที่ยงนั่นเอง คราวนี้ความเกรงใจอันเป้นสมบัติ ของผู้ดี ไม่มีแล้ว รับมาดื่มแต่โดยดี อ้าาาาาาาาาาาาา......โครตสดชื่นเลย heineken กระป๋องนี้ช่างถูกคอกูเสียจริง ลื่นคอว้อย..... คุยกันอีกยาว ๆ ๆ ๆ ๆ เล่าเรื่องการไปเที่ยวนั่นเที่ยวนี่สู่กันฟัง จากหนึ่งกลายเป็นสอง สรุปก็กลายเป็นพวกแนวเดียวกัน พวกที่ชอบลุย ๆ พี่มาคนเดียว ไม่กลัวอ่ะ?? กลัวไร ก็มันชินแล้ว ไปไหนแบบนี้คนเดียวตลอด ไม่ค่อยมีเพื่อนอ่ะ ..... คุยกันร่วม ๒ ชั่วโมงเจ้าหน้าที่เปิดเครื่องปั่นไฟให้แสงสว่างเพื่อให้เด็กได้ทำกิจกรรม เราก็เลยได้อานิสงค์ตามไปด้วย ยิ่งคุยยิ่งสนุก แหมะ..นาน ๆ ทีจะมีเพื่อนคุยแบบนี้ เบิรืดกับเพื่อน มาถึงตอน ๔ ทุ่มของคืนวันศุกร์ ขับรถมาตอนแรกเขาไม่ให้เข้าเพราะมันมืดแล้ว แต่ อาศัย ความแหล บอกว่าเพื่อนอยู่ข้างบนเลยได้ขึ้นมานอนกัน ที่ กม.20 แต่พอขึ้นมาจริง ๆ กลับขับเลยไป ถึงจุดชมวิว ทางมันมืดมองไม่เห็น หน่วยพิทักษ์ กะลังคุยมันส์ ๆ เจ้าหน้าที่เดินเข้ามาบอก น้อง ๆ ไปดูไสลด์กับน้อง ๆ กัน สไลด์แสดงเรื่องราว อช. ปางสีดา น่าสนใจดี สัตว์เยอะดีว่ะ อยากเห็นจังเลย เสร็จจากดูสไลด์ ก้กลับมานั่งที่หน้าเตนท์ แล้วเบริ์ดกับพื่อนก็มานั่งคุยต่อ คุยจนดึกดื่น จนทุกเตนท์เงียบแต่เสียงเรายังอ่อม ๆ ๆ ๆ... ไฟปั่นปิดไปนานแล้ว เหลือ เรานั่งจ่ออยู่หน้าเทียน แล้วอีกคนก็คลานออกมาจากเตนท์ บอกว่าร้อนนอนไม่หลับ จาก ๓ คนกลายเป็นสี่คน ..โอ้ว...ยิ่งเลยเถิด ดึกแล้ว...ติดลม ติดลม ตาค้าง เบริ์ดคอยจุดบุหรี่ดูดเรื่อย ๆ พร้อมกับปรึกษาปัญหา เรื่องปอด เพราะกลัวตาย.. ดูดบุหรี่แบบนี้กี่ปีตายเพ่ อ้าวใครจะรู้วะ พวกนี้ก็คอเที่ยวเหมือนกัน ดีหน่อยที่มีรถไปไหนก็สะดวก ไม่ต้องกังวลเรื่องรถไปกลับ ก่อนที่จะแยกย้ายกันเข้าเตนท์ เบริ์ดหันมาถามว่าพี่กินยังไงเนี่ย อ๋อ...พกขนมปังหมูหย๋องมาด้วย ...อ้าว... อิ่มเหรอพี่ พรุ่งนี้กินข้าวด้วยกันครับ ตอบตกลงทันที อ๊ะ ๆ ห้ามคืนคำล่ะ ว่าแล้วก็พากันหลับนอนได้เสียที ชาวบ้านเขาคงรำคาญชิ้บ ส.
๑๑ ส.ค. ๔๖