-- ..

บริการค้นหาเว็บเพจ
Gestbook
This site best view by 800x600 with Internet Explorer 5.0 or later
Copyright ? 2000 - 2001 mongkolvittaya.net. All rights reserved.
Contacts : khumsorn@lemononline.com

 

เยี่ยมชมโรงเรียน
แผนภูมิบริหาร
บุคคลากร
ประมวลภาพ
ความรู้ด้านธรรมะ
ผลสอบนักธรรม
Home
Webmaster
 
   
ตอนที่ 2
ยุคพระครูวินัยธร พิศ ปรกฺกโม ถึง พระวิทยา จิตฺตธมฺโม
- รู้จักเจ้าพ่อบ้านแลงกันหรือยัง?
ผมมีเพื่อนรุ่นพี่ชื่อ "ไอ้ถึก" หรือ "จ่าถึก" เป็นญาติสนิทของ นายเสริมศักดิ์ การุญ ส.ส.ระยอง มีชื่อ
จริงว่า "ทองอยู่ รอบรู้" ในภายหลังเคยป้อนข้าวป้อนน้ำยามผมตกยาก เป็นผู้พาผมไปรู้จักกับ
"พระอาจารย์สุกรี" ที่วัดจุฬามุนี เมื่อราว 30 กว่าปีที่ผ่านมา


-----ชาติตระกูลของท่านเป็น "เพชฌฆาต" ตัดคอนักโทษมานับไม่ถ้วนแล้ว ก่อนหักมุมชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
หลวงพ่อสุกรีของผมเล่าว่า เคยผ่านเย็นร้อนอ่อนแข็งมาร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ กรอกแม่โขงเข้าปากเป็นขวดๆ
ก่อนเข้าประตูโบสถ์ วันรุ่งขึ้น ดำดินมาอยู่ระยองพรรษาแรกๆ คนระยองตั้งแต่เจ้าเมืองลงมาถึงคนถีบสามล้อ
มองว่าท่านเป็นพระบ้า ดูจะไม่ต่างกับ "พระวิทยา จิตตธมโม" นักดอก ซึ่งก็กรอกเหล้าเป็นขวดๆ ก่อนเข้า
โบสถ์เช่นกัน คนอย่างนี้ถือเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับพระองคุลิมาล มาเฟียกลับใจที่บรรลุเป็นพระอรหันต์ เรื่อง
หลวงพ่อสุกรี เขียนไว้แค่นี้ก็เหลือเกินแล้ว หากท่านสนใจไปสืบค้นเอาเอง


-------------- สิ้นท่านชุมพลก็มาถึงท่านพิศ ศิษย์สำนักจุฬามุนี
-----"อาจารย์ชุมพล" เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดเขาสาป คนคนอายุสั้น มีอายุเพียง 45 ปี แต่มี พรรษายาวถึง 20
พรรษา สั้นทางโลกแต่ยาวทางธรรมอย่างนี้เรียกว่า คนมีบุญวาสนา อาจารย์ชุมพลเป็นพระ นักพัฒนาหาตัวจับยาก
แต่ท่านบังเอิญจับมือกับนายพลเอกนักปฏิวัติ ที่บุญน้อย คือยึดอำนาจไม่สำเร็จ ถูกจับตัวประหารชีวิตฐานเป็นกบฏ
นี่คือจุดเก็บกดของ พระครูวินัยธร ชุมพล อธิวาสโน ลูกบ้านสวน อำเภอเมือง ชลบุรี...


----"อาจารย์พิศ" เป็นคนปักษ์ ใต้ใจเด็ด เป็นนักเทศน์ฝีปากเอก หลวงพ่อสุกรีส่งมาเป็นเจ้าสำนักวัดเขาสาปเมื่อ
กลางปี 2524 เป็นเจ้าอาวาส องค์ที่สอง เป็นคนปัญญาดีมีสายตายาว จับมือกับ นายอุทัย เจริญสวัสดิ์ นักต่อสู้คู่บารมี
วิ่งเต้นขออนุญาตกรม การศาสนา เปิด โรงเรียนเด็กเล็กก่อนเกณฑ์ (อนุบาล) ตั้งแต่ปี 2524 โดยมี นายเฉียม ชลศิริ
เป็นมือขวา ครั้น ต่อมาปี 2528 นายอุทัยก็หนุนท่านพิศให้เปิด โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา "มงคลวิทยา"
กรมการ ศาสนาอนุญาต ลงวันที่ 30 เมษายน 2528


--เตรียมสามเณรไว้เข้าเรียน ม.1 จำนวน 20 รูป โดยมี พระมหาพิศ ทิฏฐธมโม สำนักวัดราชาธิวาส
เป็นครูใหญ่ เหมือนฟ้าผ่า ความฝันกระจุยกระจาย...

"ท่านพิศ" ถูกข่มขู่ - "พระองค์นี้กวนตีน"
----หาดแม่รำพึงนับจากก้นอ่าวเขาแหลมหญ้ามายันหาดตะพงยาว 10 กิโลเมตรเศษ เป็นหาดเปิด คลื่นลมแรง
มี "เขาสาป" โผล่ขึ้นมาเป็นศิลปินเดี่ยวระหว่างกลาง ห่างหาดทรายแค่ 200 เมตร หินรากของเขาสาปไปโผล่
พ้นน้ำที่ปากคลองสาป ขาวโพลง เรียกกันว่า "หินขาว" เป็นอู่ข้าวของชาวประมง 40 หลังคาเรือน
(บัดนี้ถูกขับไล่พ้นหูพ้นตาพวกไต้หวันที่มายึดครองที่ดินไว้ในกำมือแล้ว)

----เมื่อทางหลวงจังหวัดตัดเลียบหาดแม่รำพึงจากแยกตะพงตรงมาถึงโค้งแหลมหญ้า ราคาที่ดินหน้าทะเลก็
พุ่งกระฉูด จากไร่ละร้อยละพัน ดันพรวดๆ ขึ้นเป็นแสนๆ ยิ่งที่เชิงเขาเชิงภูอย่างเขาสาปด้วยแล้ว ใครๆ ก็อยาก
มาสร้างวิมานแดนสรวง เสพสุขสังวาส...

----ฉะนี้ จึงมีขุนนางบุญหนักศักดิ์ใหญ่จากในกรุงหูไวตาไวใช้อิทธิพลบีบให้ขุนนางท้องถิ่นร่วมมือ แล้วใช้กลเม็ด
เหนือเมฆเสกเป่านะจังงัง เอาชาวบ้านมาเป็นเครื่องมือ เอามือจับมีดพร้าถางป่าบุกรุก อุปโลกน์ล่อซื้อ ออกโฉนด
คืบขึ้นปีนเขา เอาเงินปิดปาก อันวัดเขาสาปนี้ มีที่ดินไม่กี่สิบไร่ดอก ส่วนที่เป็นเขาก็ต้องเป็นสมบัติของแผ่นดิน
พระไม่เกี่ยว จะออกโฉนดฮุบที่ดินสาธารณะกันแล้วจะให้พระท่านเซ็นรับรองจะได้หรือ...
"ท่านพิศ" - เจ้าอาวาส วัดเขาสาป ปฏิเสธการเซ็นรับรองเขตที่ดิน จึงถูกข่มขู่นานาประการ พวกมารมันว่า
"พระองค์นี้กวนตีน" "ท่านพิศ" จึงน้อยใจมาก เหลียวซ้ายแลขวา จะหาที่พึ่งก็ไม่พบ เหมือนถูกทอดทิ้งลง
ทะเลให้เป็นเหยื่อปลาฉลามร้าย


----เหตุฉะนี้ งานสร้างวัด-สร้างคน ก็ต้องวางมือ ท่านจำใจต้องลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสเตลิดเปิดเปิง
หนีอิทธิพล
มืดหายหน้าไปนับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2528 เรื่อยมา...

----พระค่าตัวแพง - "สามแสน" ไม่สนใจ เรื่องราวของวัดเขาสาปมันเหมือนนวนิยาย 100 ตอนจบ เป็น
วัดเล็กๆ แต่ลี้ลับ คนระยองเองอยู่ใกล้แค่คืบแค่ศอก ยังไม่ค่อยจะรู้อะไร จึงมักมีแต่คนไกลเข้าวัด ก็แค่ชื่อ
วัดว่า "เขาสาป" คนก็หนาวแล้ว "ปู่เหล็ก" บ้านหนองตาอินทร์ อยู่ด้านทิศตะวันออกของเขา ท่านกำชับลูกหลาน
สั่งนักสั่งหนาว่า "มึงอย่าไปเอาหินที่เขาสาปออกมาเชียวนา มึงจะตายทั้งเป็น" ครับ..หลานปู่เหล็กยืนยันอย่างนั้น
เอาล่ะ ครั้นวัดเขาสาปว่างเจ้าอาวาสลง งานโรงเรียนเด็กเล็กก็ต้องชะงัก งานโรงเรียนสามเณรก็ต้องรอ...
ชาวบ้านบ้านจำรุงก็ดี พระสงฆ์องค์เจ้าผู้บริหารคณะสงฆ์ก็ดี ต่างก็เกิดความสับสนอลเวง เพราะเกิด "สุญญากาศ"
ขึ้นฉับพลันเมื่อท่านพระครูวินัยธร พิศ ปรกกโม จากไป

----ในที่สุด ก็มีคณะชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง ตั้งตัวเป็นผู้สรรหาเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ก็ได้ พระวิทยา จิตฺตธมฺโม
ศิษย์สำนักวัดสารนาถธรรมาราม สามย่าน อำเภอแกลง ซึ่งเป็นสำนักของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระวุฒิสารโสภณ"
(ไฉน ฐิตภิญโญ) เจ้าคณะจังหวัดระยอง (ธ) มาทำหน้าที่บริหารวัดเขาสาป

----"มันฝืนความรู้สึกน่ะโยม อาตมาเตรียมถุงตะเครียวจะออกป่าอยู่แล้ว ถ้าญาติโยมไปหาอาตมาช้าไป 1 เดือน
ก็คงไม่เจอตัว…" พระหนุ่ม เจ้าอาวาสองค์ที่สามของวัดเขาสาปเล่าให้ฟัง จบ ม.ศ.5 โรงเรียนแกลง "วิทยาสถาวร
" รุ่นก่อนเจ้าหนุ่ย "อำพล ลำพูน" สองสามรุ่น หลังจากลุยงานโรงแรมที่พัทยามาจนจบหลักสูตรโลกีย์ 2 ปีแล้ว ก็
กลับมาบวชให้แม่ให้พ่อ สาวน้อยนางหนึ่งเธอต้องรอ รอ ๆ ๆ พรรษาเดียวนะ ว่าจะสึก แต่ไม่สึก กลับส่ายหา
สถานที่วิเวก หวังปลุกเสกตัวตนมุ่งนิพพาน เพราะ ณ สำนักวัดโพธิฐาน ทุ่งควายกิน มีตำราพระไตรปิฎก ปิดประต
ูอ่านทั้งวันทั้งคืน จึงตัดสินใจเดินธุดงค์มุ่งตัดตรงจากเขาชะเมา สู่อีสานวัดป่าสุทธาวาส สำนักพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
เถระ ลำพังตน ไม่ลังเลถอยหลัง... เมื่อพระวิทยามาอยู่วัดเขาสาป ก็ศึกษาข้อมูลความเป็นมา เสร็จแล้วจึง "วางหมาก"
"วางหมาก" หรือ "วางแผน" เพื่อพัฒนาวัด พัฒนาคน สานต่อสืบตำนาน ประกาศผางขึ้นกลางวงศาพุทธบริษัทว่า
จะขอ "สร้างคน" เป็นสำคัญ จะไม่รับสมณศักดิ์เป็นพระครูหรือเจ้าคุณเพื่อแลกกับผลงานเป็นอันขาด
"ถ้าญาติโยมเห็นว่าอาตมารับพัดยศพระครูหรือเจ้าคุณเมื่อไหร่ ก็ขอให้เอาเท้ามาเหยียบหน้าได้เลย…"
นี่คือคำพูดในห้องประชุมพ่อแม่นาคเณรที่มาชุมนุมกันที่วัดขเาสาปเมื่อต้นเดือนเมษายน 2531ก่อนจะถึงวันงาน
บรรพชา
สามเณรในวันที่ 23 เมษายน 2531


-- ซึ่งข้าพเจ้า (ผู้เขียน) นั่งร่วมประชุมในฐานะเป็นวิทยากร พร้อมกับท่าน นายพลโทฉลอม วิสมล - ส.ส.ระยอง
ประธานฝ่ายประสานงานพิธีบรรพชาสามเณร โดยครั้งนั้นทางวัดได้เชิญ ฯพณฯ พล.อ.เทียนชัย สิริสัมพันธ์
รองนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธี และแล้ว--- ก็ปี พ.ศ.2531 นั่นเอง... ฟ้า...ก็ผ่าเขาสาปอีกครั้งหนึ่ง
ไม่หนักไม่เบาไปกว่ายุค "ท่านพิศ" เลย นั่นคือมี "มือดี" มาหลอกชาวบ้านให้ถางป่าเขาสาปขายให้ตนในราคา
ถูกๆ มือดีที่ว่านี้ ไม่ใช่คนระยอง มันเหาะมาจากแดนไกล เหตุเกิดราวกลางปี 2531 และมันก็ปิดฉากลงใน
อีก 2 เดือนถัดมา เมื่อมวลชนชาวระยอง 300 คนเศษ ลุกฮือเดินขบวนไปถามท่านผู้ว่าฯจังหวัดระยองว่า
จะเอายังไงกัน... สำหรับรายละเอียดทั้งหมดทั้งสิ้นมันยาว จะเขียนออกมา ณ ที่นี้ มันเปลืองกระดาษ หาก
ท่านผู้อ่านต้องการทราบ โปรดหาอ่านได้จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นระยองทุกฉบับ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและ
มติชน...


-ท่านพุทธศาสนิกชนที่เคารพการต่อสู้ของประชาชนผู้ยากไร้ชาวไร่ชาวนาที่ส่งบุตรหลานของตนมาบวช
เรียนเป็นสามเณรที่วัดนี้ ถือเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ที่โลกควรจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์... ครั้นเหตุการณ์สงบ
ลงแล้ว "มือดี" ที่ถือเงินเป็นอาวุธ ก็ได้ส่งหน้าม้าเลียบเคียงเข้ามาพบพระวิทยา เพื่อต่อรอง... "ถ้าท่านยินยอม
ย้ายออกไปจากวัดนี้ เราก็ยินดีจ่ายให้สามแสน จะเอาไหม..." ท่านสาธุชนที่เคารพ เมืองระยอง เมืองทองของไทย
เดี๋ยวนี้เขาพูดกันด้วยเงินกันไปทุกงานแล้วหรือ... ไม่ว่างานวัดงานบ้าน...

งานสร้างคนก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง
เมื่อพระวิทยาเข้ามาบริหารกิจการของวัด ย่อมต้องพบอุปสรรคนานาประการ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องงบประมาณ
ที่จะต้องใช้จ่าย สามเณรที่นี่เข้ามาบวชฟรีเรียนฟรี ไม่มีค่าเล่าเรียนแม้แต่บาทเดียว ถ้ามีความตั้งใจจริง เดิน
เข้าวัดแต่ตัวก็ย่อมได้... พระวิทยาได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนทั่วไป ทั้งใกล้ทั้งไกล แต่ก็ยังไม่เพียงพอ
เพราะที่นี่เป็นวัดกันดาร ต้องอุ้มชูดูแลสามเณรเป็นร้อยๆ ต้องจ้างครูมาสอนเหมือนโรงเรียนราษฎร์โรงเรียนหนึ่ง
ทีเดียว นี่คือภารกิจอันใหญ่หลวงที่พระหนุ่มองค์น้อยต้องแบกไว้อย่างเต็มกลืน... นับตั้งแต่ปี 2529 ผ่านมาครบ 6 ปี
การศึกษาแล้ว มีสามเณรเรียนจบหลักสูตร ม.3 ดังนี้
     รุ่นที่ 1 จบ 47 รูป
     รุ่นที่ 2 จบ 32 รูป
     รุ่นที่ 3 จบ 38 รูป
     รุ่นที่ 4 จบ 25 รูป
         สามเณรที่เรียนจบหลักสูตรพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาจะมีสิทธิ์เทียบเท่านักเรียนที่จบหลักสูตรสาย
สามัญของกระทรวงศึกษาธิการทุกประการ ฉะนั้น จึงมีสามเณรบางรูปเข้าศึกษาต่อในชั้นสูงต่อไป บางรูปลา
สิกขาบทไปเรียนต่อชั้นมัธยมปลายบ้าง อาชีวศึกษาบ้าง และบ้างก็ออกไปทำงานบริษัท ห้าง ร้าน ฯลฯ และมี
ศิษย์เก่าวัดเขาสาปรุ่นแรกคนหนึ่ง ขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ๐ จำเป็นต้องปิดโรงเรียน
เด็กเล็กก่อนเกณฑ์ เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง ด้วยทางวัดไม่สามารถจะแบกรับภาระอันหนักอึ้ง เกี่ยวกับการ
จัดการศึกษาให้แก่เด็กเล็ก (อนุบาล) ได้ต่อไป ทางวัดจึงจำเป็นต้องปิดฉากกิจกรรมสร้างเด็กเล็กลงในปี 2533
จึงหวังว่า โอกาสข้างหน้า วัดเขาสาปคงจะต้องมีโรงเรียนเด็กเล็กสืบต่อไป ต้องรอ...

ประธานในพิธีบรรพชาสามเณรวัดเขาสาป
       ปี 2529 นายวีระ มุสิกพงศ์ รมช.มหาดไทย
       ปี 2530 นายพิชัย รัตตกุล รองนายกรัฐมนตรี
       ปี 2531 พล.อ.เทียนชัย สิริสัมพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี
       ปี 2532 พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร รมว.มหาดไทย (ส่งนายฉลอง กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการปกครองมาแทน)
       ปี 2533 นายบุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
       ปี 2534 นายพิศาล มูลศาสตรสาทร อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย
       ปี 2535 นายกนก ยะสารวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง