สำนักงาน ผู้บังคับทหารอากาศดอนเมือง
ประวัติ , ผังการจัด
ทำไม? จึงเข้มงวดเรื่องทำบัตรผ่าน
การขอบัตรผ่านเข้า-ออก เขต ทอ.
การขับขี่ยานพาหนะในเขต ทอ.
กำหนดการปิด-เปิด ช่องทาง ทอ.
การขอใบอนุญาตประเภทบุคคล
การใช้ยานพาหนะในเขต บก.ทอ.
กฎ ระเบียบ แบบธรรมเนียมทหาร
ส.ค.ส. 2541 พระราชทานสู่ชาวไทย
กองทัพอากาศของท่าน
Royal Thai Air Force Day
งบประมาณ กองทัพไทย ปี 41
นโยบาย ทอ. ปีงบประมาณ 41
ข่าวสารในกิจการของทหารไทย
มาร์ชสี่เหล่า และเพลงปลุกใจ
การตรวจเยี่ยมสายวิทยาการ สห.
โครงการ สขว.ทอ.

โทรศัพท์ฉุกเฉิน ทอ.
แจ้งเหตุด่วน, เหตุร้าย 191
เพลิงไหม้ 192
รถพยาบาลฉุกเฉิน 194
อากาศยานอุบัติเหตุ 196
พัน.สห.ทอ. 2-2197 - 9
ศูนย์รวมข่าวดับเพลิง 2-2126,7
ศูนย์รับแจ้งเหตุ ทอ.ทุ่งสีกัน 3-0065
สถานีดับเพลิงย่อยทุ่งสีกัน 2-2129, 3-0083
ศูนย์โทรศัพท์กลาง ทอ. 523-6151, 523-6161



 Supreme Command Headqurters, Royal Thai Armed Forces"



กรมธนารักษ์
ดัชนีข้อบังคับทหารว่าด้วยเรือนจำ
มาตรา ๑ ประเภทเรือนจำ
มาตรา ๒ การปกครองบังคับบัญชา
มาตรา ๓ การรับตัวผู้ต้องขัง
มาตรา ๔ การแยกผู้ต้องขัง
มาตรา ๕ นักโทษ
มาตรา ๖ เครื่องพันธนาการ
มาตรา ๗ การควบคุมผู้ต้องขัง
มาตรา ๘ การทำงาน
มาตรา ๙ การอนามัยและสุขาภิบาล
มาตรา ๑๐ การเลี้ยงอาหาร
มาตรา ๑๑ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติ
มาตรา ๑๒ การลงทัณฑ์ฐานผิดวินัย
มาตรา ๑๓ การเฆี่ยนผู้ต้องขัง
มาตรา ๑๔ การลา
มาตรา ๑๕ พักการลงโทษ
มาตรา ๑๖ การปล่อยตัว
มาตรา ๑๖ ทวิ การประหารชีวิต
ม. ๑๗ การร้องทุกข์และถวายฎีกา
มาตรา ๑๘ การพิมพ์ลายนิ้วมือ
มาตรา ๑๙ สมุดแลละบัญชีต่าง ๆ
มาตรา ๒๐ ข้อความเบ็ดเตล็ด
|
ข้อบังคับทหาร ว่าด้วยเรือนจำ พ.ศ. ๒๔๘๐ (ต่อ)
มาตรา ๑๗
การร้องทุกข์ยื่นเรื่องราวและถวายฎีกา
ข้อ ๑. การร้องทุกข์นั้น อาจกระทำด้วยวาจาหรือด้วยการยื่นเป็นหนังสือก็ได้ ถ้ากระทำ
ด้วยวาจาให้เจ้าพนักงานที่ได้รับร้องทุกข์บันทึกคำร้องทุกข์นั้นไว้ บันทึกคำร้องทุกข์หรือหนังสือร้อง
ทุกข์ต้องลงลายมือชื่อผู้ร้องทุกข์
ข้อ ๒. การร้องทุกข์ การยื่นเรื่องราว และการถวายฎีกานั้น หากผู้ต้องขังไม่สามารถ
จัดหาเครื่องเขียนส่วนตัวได้ ต้องจัดของราชการให้
การเขียนคำร้องทุกข์ เรื่องราว หรือฏีกา ผู้ต้องขังจะเขียนเอง หรือขอร้องให้ผู้อื่น
เขียนให้ตามถ้อยคำของตนก็ได้ หากตนไม่สามารถจะเขียนเองได้
การเขียนดังกล่าวในวรรคก่อน ต้องเขียบในที่ซึ่งทางการเรือนจำจัดให้
ในกรณีที่ผู้ต้องขังขอสงวนข้อความเป็นลับ ห้ามมิให้เจ้าพนักงานอยู่ใกล้ในระยะที่อาจ
อ่านได้หรือขออ่านหรือยอมให้ผู้อื่นมีโอกาสเช่นนั้น นอกจากผู้ต้องขังนั้นจะยินยอม
ข้อ ๓. หนังสือร้องทุกข์ หรือเรื่องราว หรือฎีกานั้นให้ผู้ต้องขังยื่นต่อผู้บังคับเรือนจำหรือ
จะใส่ลงที่ซึ่งทางการได้จัดไว้เป็นพิเศษเพื่อการนั้นก็ได้
ข้อ ๔. เมื่อผู้บังคับเรือนจำได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วในข้อก่อน หากมิใช่เป็นกรณีดังกล่าวในข้อต่อไปให้เปิดผนึกซองออกอ่านตรวจดูข้อความ และปฏิบัติดังต่อไปนี้
- (๑) สอบข้อเท็จจริง
- (๒) แก้ไขหรือช่วยเหลือตามคำร้องขอตามสมควรแก่กรณี หรือ
- (๓) เสนอต่อไปยังผู้บัญชาการเรือนจำพร้อมกับรายงานชี้แจงการปฏิบัติที่กล่าวแล้ว
ข้อ ๕. ข้อความในหนังสือร้องทุกข์ เรื่องราว หรือฎีกานั้น ผู้ต้องขังจะขอรักษาเป็น
ความลับก็ได้ ถ้าเช่นนั้นต้องสอดหนังสือไว้ในซองและผนึกเสีย หน้าซองให้เขียนว่า "ลับ" ถ้าผู้
ต้องขังไม่ได้เขียนคำนี้ไว้ ให้เจน้าพนักงานเรือนจำเขียนให้ในเมื่อทราบความประสงค์
หนังสือเช่นนี้ ห้ามมิให้เจ้าพนักงานเรือนจำอ่าน แต่มีหน้าที่จะต้องจัดส่งไปยังผู้รับหาก
เป็นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือทูลเกล้า ฯ ถวายแล้ว ให้ส่งไปยังผู้บังคับ
บัญชาเพื่อดำเนินการต่อไปตามระเบียบ
ข้อ ๖. คำสั่งหรือคำชี้แจงตอบคำร้องทุกข์เรื่องราวหรือฎีกา ต้องแจ้งให้ผู้ยื่นทราบและ
จัดให้ผู้ยื่นได้ลงลายมือชื่อรับทราบไว้เป็นหลักฐานด้วย
มาตรา ๑๘
การพิมพ์ลายนิ้วมือ
ข้อ ๑. เมื่อมีผู้ต้องหาว่ากระทำผิดทางอาญา หลบหนีคดีอาญาหลบหนีที่ควบคุม หรือ
หลบหนีเรือนจำ ให้ผู้สอบสวนปฏิบัติดังนี้
- (๑) ให้พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องหาคนละ ๓ ฉบับ สำหรับในจังหวัดพระนครธนบุรี
ให้ส่งไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ สำหรับในจังหวัดอื่นที่เป็นท้องที่เดียวกันกับ
เขตตำรวจภูธรเขตใด ให้ส่งไปยังกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตในเขตนั้นแล้วแต่กรณีเพื่อตรวจสอบ
ทั้ง ๓ ฉบับ เมื่อได้รับแจ้งผลของการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าวแล้ว ให้นำแผ่น
พิมพ์ลายนิ้วมือนั้นพร้อมทั้งผลของการตรวจสอบติดสำนวนส่งไปยังอัยการทหาร
- เมื่อได้รับผลของการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบแล้วโดยจะเป็นแผ่นพิมพ์
ลายนิ้วมือหรือรายการประวัติอาชญากรก็ตาม ซึ่งแสดงว่าผู้ต้องหามีประวัติเป็นบุคคลเคยต้องโทษ
มาแล้วก่อนที่จะติดสำนวนส่งไปยังอัยการทหาร ให้ปฏิบัติดังนี้
- ก. บันทึกหมายเลขตามที่ปรากฎในช่องเลขทะเบียน บ.ช.ท. ที่ ... ซึ่ง
ปรากฎในรายการประวัติอาชญากร หรือในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือลงไว้ในสมุดรายงานคดี หรือหลักฐาน
เกี่ยวกับคดีของผู้ต้องหาคนนั้น ๆ กับให้บันทึกเลขหมาย บ.ช.ท.นี้ลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ
ทุกฉบับที่จะติดสำนวนส่งไปยังอัยการทหารด้วย
- ข. เมื่อคดีถึงที่สุดและจะต้องแจ้งผลคดีไปให้กองทะเบียนประวัติ
อาชญากรกรมตำรวจหรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตทราบ แล้วให้บันทึกเลขหมาย
บ.ช.ท.ของบุคคลนั้น ๆ ไปให้ทราบด้วยทุกครั้ง
- ค. การสอบถามทุกกรณี หรือการแจ้งความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของ
บุคคลที่เคยส่งพิมพ์ลายสิ้วมือไปให้ตรวจสอบแล้ว ให้แจ้งหมายเลข บ.ช.ท.ของบุคคลนั้น ๆ
ไปให้ทราบด้วยทุกครั้ง
- (๒) การกรอกข้อความลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ ให้กรอกชื่อตัว ชื่อสกุล
(ถ้าไม่มีชื่อสกุลให้กรอกให้ชัดเจนว่า"ไม่มี") ข้อหา เพศ เลขคดีชั้นต้น วันเดือนปีที่จับ กับ
ข้อความอื่น ๆ ตลอดจนตำหนิ รูปพรรณและประวัติย่อให้ครบถ้วนทุกช่องและ
- ก. ถ้าหากทราบ หรือผู้ถูกพิมพ์ลายนิ้วมือยอมรับว่าเคยต้องโทษมาก่อน
ให้บันทึกว่า "เคยต้องโทษฐาน......" ด้วยตัวอักษรสีแดง
- ข. ถ้าผู้ต้องหารับสารภาพในกรณีที่ต้องาในชั้นสอบสวน และยอมรับว่า
เคยต้องโทษมาก่อน ให้บันทึกว่า "รับสารภาพเคยต้องโทษฐาน......" ด้วยตัวหนังสือสีแดง
- (๓) การส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือไปขอให้ตรวจสอบให้ส่งพร้อมกับหนังสือนำส่ง
หมายเลข ๑ ท้ายข้อบังคับนี้ และให้จัดส่งโดยเร็วที่สุด
- หากจะต้องส่งสำนวนการสอบสวนให้อัยการทหาร ก่อนที่จะได้รับแจ้งผลการ
ตรวจสอบ ให้ผู้สอบสวนบันทึกติดสำนวนไว้ว่า ได้ส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือไปให้กองทะเบียน
ประวัติอาชญากรกรมตำรวจ หรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตตรวจสอบแล้ว โดย
หนังสือที่เท่าใด ลงวันเดือนปีด้วย หรือจำสำเนาหนังสือดังกล่าวติดสำนวนไว้ก็ได้ ในกรณี
เช่นนี้เมื่อได้รับแจ้งผลการตรวจสอบแล้ว ให้จัดการส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมทั้งผลการ
ตรวจสอบตามไปยังอัยการทหารโดยเร็วที่สุด
ข้อ ๒. เมื่ออัยการทหารได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่
ผู้สอบสวนฝ่ายทหารเพื่อฟ้องยังศาลทหาร ให้ตรวจดูด้วยว่าผู้สอบสวนได้จัดการส่งแผ่นพิมพ์
ลายนิ้วมือผู้ต้องหาทุกคนและส่งไปตรวจสอบแล้วหรือไม่ หากยังมิได้ดำเนินการดังกล่าวให้
ทักทวงพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ผู้สอบสวนฝ่ายทหารรีบจัดการ เสียทุกราย
ในกรณีที่เจ้าหน้าที่กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจหรือกองกำกับการ
ตำรวจวิทยาการเขตแจ้งผลการตรวจสอบลายนิ้วมือผู้ต้องหามายังอัยการทหารโดยตรง หาก
ปรากฏว่าผู้ต้องหามีประวัติเป็นบุคคลเคยต้องโทษมาก่อน ให้อัยการทหารกรอกเลขหมาย
บ.ช.ท. จากรายการประวัติอาชญากรของผู้ต้องหาลงไว้ในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องหา
คนนั้น ๆ ที่มีอยู่ในสำนวนทุกฉบับ
เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วเป็นหน้าที่ของอัยการทหารจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
(๑) ถ้าศาลพิพากษาให้จำคุกหรือทั้งจำทั้งปรับให้อัยการทหารส่งแผ่นพิมพ์
ลายนิ้วมือและรายการประวัติอาชญากร (ถ้ามี) ให้ผู้บังคับเรือนจำดำเนินการต่อไป
(๒) ถ้าศาลพิพากษาปรับ รอการกำหนดโทษ รอการลงโทษหรือกักขัง ให้
อัยการทหารบันทึกโทษลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือที่ติดมากับสำนวนสอบสวนให้ครบถ้วนทุก ๆ
ช่องที่กำหนดไว้แล้วจัดการดังนี้
- ก. ในจังหวัดพระนคร-ธนบุรี ให้ส่งไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร
กรมตำรวจภายใน ๕ วัน นับแต่วันคดีถึงที่สุด
- ข. สำหรับในจังหวัดอื่นที่เป็นท้องที่เดี่ยวกันกับเขตตำรวจภูธรใด ให้ส่ง
ไปยังกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตในเขตนั้นภายใน ๕ วัน นับแต่วันคดีถึงที่สุด
(๓) รายการที่ต้องบันทึกตามคำพิพากษามีดังนี้
- ก. ชื่อศาลที่ตัดสิน
- ข. หมายเลขคดีดำและคดีแดง
- ค. เรื่องที่ต้องหา
- ง. กำหนดโทษ
- จ. ฐานความผิด
- ฉ. บทกฎหมายและมาตราที่ลงโทษ
- ช. วันที่ต้องโทษ
- ซ. วันพ้นโทษหรือวันปล่อยตัว ถ้าไม่อาจทราบได้เพราะตัวขอประกัน
ผลัดชำระค่าปรับหรือต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ ให้บันทึกวันที่ศาลตัดสิน
(๔) การบันทึกคำพิพากษา ลงในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือนี้ ต้องพิมพ์ดีดหรือเขียนตัวบรรจงด้วยหมึก
(๕) การส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือเมื่อคดีถึงที่สุดไปให้กองทะเบียนประวัติอาชญากรกรมตำรวจหรือ
กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต ให้ส่งโดยมีหนังสือนำส่ง ตามแบบหมายเลข ๒ ท้ายข้อบังคับนี้
ข้อ ๓. เรือนจำทหาร มีหน้าที่ปฏิบัติการเกี่ยวกับการพิมพ์ลายนิ้วมือ ดังต่อไปนี้
- (๑) การรับตัวผู้ต้องขัง
- เมื่อรับตัวผู้ต้องขังให้จัดการพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องขังทุกคนเก็บไว้เป็นหลักฐานละ ๒ ฉบับ
- (๒) ผู้ต้องขังพ้นโทษ
- ก่อนที่ผู้ต้องขังคนใดจะพ้นโทษออกไปจากเรือนจำหรือสถานควบคุม ๑ เดือนให้จัดการดังนี้
- ก. เรือนจำในจังหวัดพระนคร - ธนบุรี ให้ส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ
ผู้ต้องขังพ้นโทษไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ คนละ ๒ ฉบับ แต่ถ้าผู้พ้นโทษ
คนใดต้องคำพิพากษาศาลให้ลงโทษในฐานกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ทุกกรณี ให้ส่งแผ่นพิมพ์
ลายนิ้วมือเพิ่มขึ้นอีกคนละ ๑ ฉบับ รวมเป็นคนละ ๓ ฉบับ
- ข. เรือนจำในจังหวัดอื่นที่เป็นท้องที่เดียวกันกับเขตตำรวจภูธรเขตใด
ให้ส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือไปยังกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตนั้นคนละ ๒ ฉบับ
- ค. ถ้าจะต้องปล่อยผู้ต้องขังนั้นไปก่อนได้รับโทษจำคุก เช่น ต้องขังมา
พอกับโทษหรือยอมเสียค่าปรับตามคำพิพากษา รอการกำหนดโทษ รอการลงโทษ ฯลฯ เป็นต้น
ก่อนจะปล่อยตัวไปให้พิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องขังนั้นทันทีคนละ ๒ ฉบับ แล้วกรอกข้อความลงในแผ่น
พิมพ์ลายนิ้วมือให้ครบถ้วนส่งไปให้กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ หรือกองกำกับการ
ตำรวจวิทยาการเขตซึ่งท้องที่นั้นอยู่ในเขตตำรวจภูธรเขตนั้นแล้วแต่กรณี
- (๓) ผู้ต้องขังตาย
- เมื่อผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาหรือผู้ที่ศาลพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วตายลง
ให้ส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ตาย ๑ ฉบับ ไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ
หรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตซึ่งท้องที่นั้นอยู่ในเขตตำรวจภูธรเขตนั้นแล้วแต่กรณี
ทำการตรวจสอบทุกราย และแจ้งเหตุให้ทราบด้วย
- (๔) ผู้ต้องขังหลบหนี
- เมื่อผู้ต้องขังหลบหนีการควบคุมไป ให้ผู้บังคับเรือนจำรวบรวมหลักฐานการ
หลบหนีของผู้นั้น คือแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ ๒ ฉบับ รูปถ่าย (ถ้ามี) บัญชีผู้ต้องขังหลบหนี สำเนา
หมายจับ สำเนาหมายจำคุก สำเนาหมายขัง สำเนาคำสั่งควบคุมตัว กับหนังสือนำส่งแล้วเสนอ
ผู้บังคับบัญชา เพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองในเขตท้องที่ที่เรือนจำนั้นตั้งอยู่ จัดการออกหมายจับให้แล้วจัดการดังนี้
- ก. เรือนจำในจังหวัดพระนคร - ธนบุรี ให้ส่งหลักฐานการหลบหนีของ
ผู้ต้องขังไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากรกรมตำรวจ แล้วขอให้กองทะเบียนประวัติอาชญากร
กรมตำรวจจัดการแยกแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมด้วยหลักฐานการหลบหนีส่งไปให้กองกำกับการ
ตำรวจวิทยาการเขตเอง
- ข. เรือนจำในจังหวัดอื่นที่เป็นท้องที่เดียวกันกับเขตตำรวจภูธรใด ให้
ส่งหลักฐานการหลบหนีของผู้ต้องขังไปยังกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตตำรวจภูธรเขตนั้น
แล้วขอให้กองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตนั้นจัดการแยกแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือพร้อมด้วยหลักฐาน
การหลบหนีส่งไปให้กองทะเบียนประวัติอาชญากรกรมตำรวจเอง
- (๕) การบันทึกเลขหมาย บ.ช.ท.
- การส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือของผู้ต้องขังพ้นโทษผู้ต้องขังตาย หรือผู้ต้องขังหลบ
หนีไป ให้กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ หรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขต
ดำเนินการให้กรอกประวัติย่อและตำหนิ รูปพรรณผู้ต้องขังให้สมบูรณ์พร้อมกับเลขหมาย บ.ช.ท.
ตามที่ได้รับแจ้งจากอัยการทหารลงไว้ในแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือหรือในบัญชีผู้ต้องขังหลบหนีด้วยทุก ๆ คน
- (๖) เมื่อจับผู้ต้องขังหลบหนีได้ หรือผู้ต้องขังหลบหนีกลับมามอบตัวเองให้ผู้
บัญชาการเรือนจำรายงานผู้บังคับบัญชา เพื่อแจ้งไปยังกองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ
หรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการเขตแล้วแต่กรณี เพื่อให้งดการตรวจสอบแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือ
และถอนประกาศสืบจับ
- (๗) การส่งแผ่นพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ต้องขังพ้นโทษ ผู้ต้องขังตาย หรือผู้ต้องขัง
หลบหนีไป ให้กองทะเบียนประวัติอาชญากร กรมตำรวจ หรือกองกำกับการตำรวจวิทยาการ
เขตให้ส่งโดยมีหนังสือนำส่งตามแบบหมายเลข ๓ ท้ายข้อบังคับนี้
ข้อ ๔. การพิมพ์ลายนิ้วมือทุกชนิดจะต้องพิมพ์โดยวิธีกลิ้งนิ้วจากขอบเล็บข้างหนึ่งไป
จนบรรจบขอบเล็บอีกข้างหนึ่งให้มีลายเส้นตัดเห็นได้ชัดเจน ไม่พร่าหรือมัวมืดเลอะเลือน หมึก
ที่พิมพ์ต้องไม่หนาบางเกินไปทุก ๆ นิ้ว กับให้ดำเนินการดังนี้
- (๑) นิ้วมือนิ้วใดเป็นลายแบบมัดหวาย ต้องพิมพ์ให้ติดจุดสันดอนกับจุด
ใจกลาง ให้สามารถนับลายเส้นจากจุดสันดอนกับจุดใจกลางได้ทุก ๆ ด้าน
- (๒) ถ้านิ้วมือนิ้วใดเป็นลายแบบก้นหอยต้องพิมพ์ให้ติดจุดสันดอนข้างขวาและ
ข้างซ้าย ให้สามารถสาวลายเส้นจากจุดสันดอนทางซ้ายมือไปสู่จุดสันดอนทางขวามือได้ถูกต้อง
- (๓) การพิมพ์ลายนิ้วมือให้พิมพ์ให้ติดตั้งแต่ข้อนิ้วช่วงที่ ๑ ไปจนถึงปลายนิ้ว
ให้มีลายเส้นเห็นได้โดยชัดเจนและให้เต็มนิ้ว ระวังอย่าให้กลับมือและเปลี่ยนนิ้วให้ผิดจากช่อง
แบบพิมพ์ถ้านิ้วมือใดพิการเห็นชัดเจนไม่ได้ ก็ให้หมายเหตุไว้ที่ช่องสำหรับนิ้วนั้น ลายพิมพ์นิ้วมือ
ใดที่พิมพ์ไม่ติดจุดสันดอนหรือจุดใจกลางแม้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งนั้น จะใช้ในการตรวจสอบไม่ได้
- (๔) ถ้าจะพิมพ์ลายนิ้วมือผู้ใด ให้สอบสวนเสียก่อน เมื่อเห็นถูกต้องไม่ผิดตัว
แล้ว จึงให้เขียนข้อความลงในแบบพิมพ์และพิมพ์ลายมือผู้นั้น
- (๕) เครื่องใช้สำหรับพิมพ์ลายนิ้วมือ ต้องมีไว้พร้อมคือ
- ก. แท่นสำหรับคลึงหมึก
- ข. ลูกกลิ้งยางสำหรับคลึงหมึก
- ค. หมึกชนิดพิมพ์หนังสือ (หมึกอื่นใช้ไม่ได้)
- ง. แบบพิมพ์ลายมือ
- จ. โต๊ะชนิดเขียนหนังสือสำหรับพิมพ์ลายนิ้วมือ
- ฉ. แท่นประทับแบบพิมพ์
- (๖) แบบพิมพ์ให้ใช้กระดาษแข็งสีขาวขนาด ๒๐ x ๒๐ เซนติเมตร ตามแบบที่กำหนดไว้ท้าย
ข้อบังคับนี้
- ให้ใช้ข้อบังคับนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
(ลงนาม) พิบูลสงคราม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ศาลาว่าการกลาโหมพระนคร
๓ ธ.ค. ๘๐
----------------------------------------------
มาตรา ๑๙
สมุดแลละบัญชีต่าง ๆ
ข้อ ๑. ในเรือนจำทุกแห่ง ต้องจัดให้มีสมุดบัญชีและแบบพิมพ์ประจำดังต่อไปนี้
- (๑) ทะเบียนคนต้องขังระหว่างสอบสวนหรือพิจารณา (แบบ ร.จ.๑)
- (๒) ทะเบียนนักโทษ (แบบ ร.จ.๒)
- (๓) ทะเบียนคนต้องขัง (ทางวินัย) (แบบ ร.จ.๓)
- (๔) สมุดคนฝาก (แบบ ร.จ.๔)
- (๕) สมุดรับจ่ายผู้ต้องขัง (แบบ ร.จ.๕)
- (๖) สมุดรับฝากเงินของผู้ต้องขัง (แบบ ร.จ.๖)
- (๗) สมุดรับฝากของ (แบบ ร.จ.๗)
- (๘) บัญชีเสนอปล่อยนักโทษ (แบบ ร.จ.๘)
- (๙) บัตรอนุญาตลา (แบบ ร.จ.๙)
- (๑๐) บัตรอนุญาตพักการลงโทษ (แบบ ร.จ.๑๐)
- (๑๑) บัตรแสดงบริสุทธิ์ (แบบ ร.จ.๑๑)
- (๑๒) สมุดตรวจการเรือนจำ
- (๑๓) สมุดบัญชีสิ่งของ
ข้อ ๒. แบบสมุด ทะเบียน และบัญชีต่าง ๆ ดังกล่าวแล้วในข้อ ๑ แห่งมาตรานี้นั้นให้ใช้ตามตัวอย่างท้าย ข้อบังคับนี้
สมุดทะเบียน และแบบบัญชีที่มีอยู่แล้วแต่เดิมให้ใช้ไปพลางก่อนจนกว่าจะจัดทำขึ้นใหม่จึงให้เป็นไปตาม ข้อบังคับนี้
- ให้ใช้ข้อบังคับนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๑๐
(ลงนาม) จอมพลถนอม กิตติขจร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
มาตรา ๒๐
ข้อความเบ็ดเตล็ด
ข้อ ๑. สิ่งของต้องห้ามซึ่งระบุใว้ในมาตรา ๑๑ นั้น ให้ใช้บังคับถึงบุคคล
นอกจากผู้ต้องขังด้วยความในวรรคก่อน ไม่บังคับถึงเงินหรือสิ่งของอื่นที่จะนำเข้าไป หรือ
นำออกมาจากเรือนจำหรือส่งมอบให้ หรือรับจากผู้ต้องขังเพียงเท่าที่ได้อนุญาตไว้ หรือเมื่อ
ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขอันกำหนดไว้ในระเบียบหรือข้อบังคับของเรือนจำนั้น ๆ
ข้อ ๒. นักโทษซึ่งอยู่ในชั้นต่าง ๆ ก่อนวันในพระราชบัญญัติเรือนจำทหาร
พุทธศักราช ๒๔๗๙ ให้ปรับเข้าชั้นตามที่กำหนดได้ดังต่อไปนี้ คือ
- (๑) ยามในสามัญตรวจปรับเทียบเข้าชั้นดีมาก
- (๒) ยามในสามัญปรับเทียบเข้าชั้นดี
ข้อ ๓. เมื่อคนต้องขังหรือคนฝากได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงตายในขณะช่วยเหลือเจ้าพนักงาน
ผู้กระทำการตามหน้าที่ก็ดี ในขณะทำการตามหน้าที่ของตนอันอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยหรือชีวิตก็ดี
มีสิทธิจะได้รับเงินรางวัลตามจำนวนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิจารณาเห็นสมควร โดยพฤติการณ์แห่งกรณี
ข้อ ๔ กำหนดการปลีกย่อยนอกจากนี้ ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ผูบัญชาการเรือนจำขึ้นไปกำหนดได้ ตามความจำเป็น
เหตุด่วน, เหตุร้าย แจ้ง ศูนย์ควบคุมและสั่งการ พัน.สห.ทอ. โทร. 534-2117 - 9 ทอ. 2-2197 - 9
แจ้งเบาะแสแหล่งอบายมุข, ยาเสพติดให้โทษ, แหล่งการพนัน ผบ.พัน.สห.ทอ. โทร. 534-2113 โทรสาร. 523-7596
E-mail:dmbc4@ksc.th.com
|
|
|