บทสัมภาษณ์ของกิ่งฉัตร

* ขอขอบคุณ น้องพลอยแก้ว ผู้พิมพ์และส่งบทความนี้เข้ามา *

‘กิ่งฉัตร’

อีกก้านแกร่งแห่งป่าอักษร

โดย สุธาทิพย์ โมราลาย

(จากหนังสือ WRITER MAGAZINE ปีที่ 4 ฉบับที่ 37 พฤศจิกายน – ธันวาคม 2538)


ครั้งที่ ‘กิ่งฉัตร’ ยังเป็นเพียง ‘ปาริฉัตร ศาลิคุปต’ หรือ ‘ปุ้ย’ ในแวดลงพี่น้องผองเพื่อนประโยคหนึ่งที่เธอเคยกล่าวให้ผู้ฟังมิอาจเลือนเลือนได้ในวันนี้ ด้วยบทพิสูจน์อันรวดเร็วเกินคาดก็คือ

“ปุ้ยอยากเป็นทมยันตี”

แม้วันนี้เธอยังมิอาจได้เป็น ‘ทมยันตี’ แต่เธอก็ได้เป็น ‘กิ่งฉัตร’ นักเขียนนวนิยายที่ผู้คนรู้จักผลงานทั่วประเทศ ทั้งในรูปของนวนิยายผ่านสื่อหนังสือ และที่แปรรูปเป็นละครผ่านสื่อโทรทัศน์ เช่น ‘พรพรหมอลเวง’ ‘เสราดารัล’ และ ‘มายาตวัน’ เป็นต้น

ด้วยวัยเพียง 27 ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวเลยเบญจเพสมาไม่กี่ขวบปี นับว่าเธอยังมีเส้นทางอีกยาวไกลที่จะพิสูจน์ถึงความเป็น ‘นักเขียน’ ให้ผู้อ่านยอมรับ และค้นหาเส้นทางชัดเจนของตัวเอง

 

“อ่านเล่มไหนของ ‘กิ่งฉัตร’ มาบ้างคะ”

เป็นประโยคทักทายจากเจ้าของบ้านเพื่อพิสูจน์ว่าผู้สัมภาษณ์ได้ทำ ‘การบ้าน’ มาเพียงพอหรือไม่ ชวนให้คิดไปถึงบุคลิกของนักข่าวสามสาวจาก ‘มายาตวัน’ ที่มักเตรียมความพร้อมและย่อมคาดหวัง ‘แหล่งข่าว’ ทุกครั้งที่สวมวิญญาณ ‘ผู้สื่อข่าว’ และในทางกลับกัน เธออาจกำลัง ‘ตรวจสอบ’ ผู้อยู่เบื้องหน้า เมื่อต้องตกในสภาพของผู้เป็นแหล่งข่าวเสียเอง…เหมือนจะไม่มั่นใจว่า ‘กิ่งฉัตร’ เป็นที่รู้จักจากผู้อ่านอย่างแท้จริง

“ดิฉันมีชีวิตที่เรียบมาก ไม่มีอะไรน่าสนใจเลย”

เธอออกตัวและย้ำประโยคเดิมอย่างจริงจังเหมือนเกรงว่าเรื่องราวประวัติส่วนตัวจะจืดชืดและไร้สีสัน

ผิดแผกจากนักเขียนรุ่นพี่อีกมากมายที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามในชีวิตอย่างสาหัสกว่าจะปรากฏชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก หรือบางครั้งอาจยิ่งกว่า ‘นวนิยาย’ ที่สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบสร้างเรื่องราวให้ผู้อ่านรู้สึกร่วมในชะตากรรมและการดำเนินชีวิตของตัวละคร

คุณพินิจ หุตะจินดา เคยสรุปชีวิตเรียบง่ายของเธอไว้ในคอลัมน์ ‘หนังสือเสวนา’ นิตยสารดอกเบี้ยการเมืองรายสัปดาห์ ฉบับที่ 155 พ.ศ.2537 ความว่า

“…ปาริฉัตร ศาลิคุปต” คือนามจริงของ ‘กิ่งฉัตร’ ที่อดีตเคยเป็นผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายสัปดาห์ประมาณปีกว่า ขณะเดียวกันในช่วงเวลาที่เคยศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น – ปลาย โรงเรียนสตรีวิทย์ด้วยการเขียนเรื่องสั้น – ประสบการณ์ในวารสารของโรงเรียน และเขยิบฐานะได้รับการตีพิมพ์ลงในคอลัมน์เด็กของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐรายวันและคอลัมน์วัยหนุ่ม – สาว นิตยสารสตรีสารรายสัปดาห์ เรื่อง “ศิลปินทอมทอม” “กินเจที่ภูเก็ต” กับ “คุณสุกคุณใส” นิตยสารแพรวสุดสัปดาห์ “บ้านอัญชัน” นิตยสารขวัญเรือนรายปักษ์ ตั้งแต่ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เวลาเดียวกันก็ได้เริ่มลองหัดเขียนนวนิยายเรื่องยาว 30 ตอนจบ คือ ‘พรพรหมอลเวง’ ก็ได้รับการตีพิมพ์ในนิตยสารโลกวลี แล้วยังได้รับการรวมเล่มเป็นครั้งแรก เรื่องแรกในชีวิตของคนขายฝัน พร้อมทั้งได้ถูกนำไปเป็นละครโทรทัศน์ สถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 2535 ผสานกับการลาออกจากอาชีพผู้สื่อข่าวในปีนั้นด้วยเช่นกัน

หลังจากนั้นต่อมาจึงได้มีนวนิยายทยอยออกมาเป็นระยะ คือ ‘มายาตวัน’ ‘ละครเล่ห์เสน่หา’ ‘เสราดารัล’ ‘ด้วยแรงอธิษฐาน’ และ ‘ดวงใจพิสุทธิ์’ เป็นต้น…”

 

จาก ‘คำนำกิ่งฉัตร’ ในการพิมพ์รวมเล่มครั้งแรก เรื่อง ‘ด้วยแรงอธิษฐาน’ ของสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม เดือนมิถุนายน 2538 ผู้เขียนได้เผยถึงความในใจบางประการจากประสบการณ์หน้าชั้นเรียน ครั้งใช้ชีวิตช่วงหนึ่งศึกษาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา สะท้อนให้เห็นถึงความใฝ่ฝันของนักศึกษาสาว เจ้าของนามปากกา ‘กิ่งฉัตร’ ในวันนี้ที่วาดหวังจะเป็น “a good writer”

 

 

เย็นวันหนึ่งอาจารย์ที่สอนวิชาการพูดโทรศัพท์มาหา บอกว่าพรุ่งนี้จะมีอาจารย์จากโรงเรียนภาษารัฐอื่นมาดูงานสอน เลยอยากให้ดิฉันออกไปพูดเชิงสอนหน้าชั้นเรียนการเขียนเรื่องสั้นที่เคยเขียนไปตอนทำรายงานเก็บ คะแนนรับปากรับคำแบบงง ๆ แล้วกลับมานอนก่ายหน้าผากคิดว่า จะเอาเรื่องอะไรมาเป็นตัวอย่างในการพูด พรุ่งนี้ดีถึงจะไม่ขายหน้าอาจารย์และเพื่อนฝูงร่วมชั้น

นึกขึ้นได้ว่าวิชาการอ่านตอนนี้กำลังเรียนเรื่องการกลับชาติมาเกิด และกรรม (Rebirth and Karma) อยู่ เป็นเรื่องที่ในชั้นสนอกสนใจกันมาก เลยคิดในใจว่า เอาละ…ได้ประเด็นแล้ว

จากที่เคยคิดเล่น ๆ ว่าทำไมนิยายส่วนใหญ่มักกลับชาติมาเพื่อตามหารักที่พลัดพราก สูญหาย ลองเขียนให้มาตามล้างตามแค้นบ้างหน่อยเป็นไร ดิฉันเป็นคนเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมเรื่องการกลับชาติมาเกิด เรื่องจิตที่กล้าแกร่งยามเมื่อลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะหลุดจากร่าง เชื่อเรื่องอำนาจจิตพลังพิเศษเหนือธรรมชาติที่รู้จักกันในชื่อ ESP หรือ Extrasensory perception และที่สำคัญคือความเชื่อในเรื่องการให้อภัย

‘ด้วยแรงอธิษฐาน’ จึงเกิดขึ้นหลังจากประมวลความเชื่อต่าง ๆ เข้าด้วยกัน !

รุ่งขึ้นหอบตัวละครที่ประดังประเดในสมองไปยืนรวมกันหน้าห้องเขียนกระดานตามวิธี Brainstorm เคาะไม้ชี้ป๊อกแป๊กวางมาดเท่ ก่อนร่ายยาวเจื้อยแจ้วถึงวิธีการเขียนเรื่อง โดยยกตั้งแต่หญิงสาวคนหนึ่งตายในหลุมหลบภัย โดยคิดว่าคนรักของตัวเองเป็นคนฆ่าจึงตั้งจิตอธิษฐานและขอกลับมาล้างแค้นเป็น main เรื่องจากนั้นก็แตกสาขาเล่าเรื่อยไปจนใกล้จบ (ตอนจบต้องอุบไว้ก่อนตามธรรมเนียม)

คนในห้องต่างนั่งฟังกันอ้าปากค้าง ไม่รู้เพราะเนื้อเรื่องมหัศจรรย์เกินเข้าใจ หรือว่าฟังการดำน้ำหน้าชั้นเรียนของดิฉันไม่ออกก็ไม่ทราบ

หากสุดท้ายพอจบชั่วโมงอาจารย์จากโรงเรียนต่างรัฐตรงเข้ามาจับมือแสดงความยินดีตามธรรมเนียม ตบท้ายด้วยคำชมว่า “You are a good teacher!”ดิฉันยิ้มรับ ขอบคุณกลับไปตามธรรมเนียมเช่นกัน แต่ในใจเหี่ยวแห้ง

แหม…อุตส่าห์แต่งเรื่องมาฝอยเสียยาว เขากลับไปยักชมว่าเป็น “a good writer” แฮะ !

กิ่งฉัตร  15 พฤษภาคม 2538

Next

สัมภาษณ์หน้า 1  2  3  4  5  6

[ หน้าบ้าน ] [ ประวัติ ] [ ผลงาน ] [ เรื่องย่อ ] [ สัมภาษณ์ ] [ สมุดเยี่ยม ] [ หลังบ้าน ]


"บ้านกิ่งฉัตร" เป็นโฮมเพจกิ่งฉัตรอย่างไม่เป็นทางการ    มิได้จัดทำขึ้นเพื่อผลประโยชน์ใดๆแก่ผู้จัดทำ    "กิ่งฉัตร" และผลงานที่อ้างอิงบนโฮมเพจนี้   ยังคงเป็นสิทธิ์ของผู้เขียนและผู้พิมพ์ทุกประการ

"บ้านกิ่งฉัตร" จัดทำโดย กมลวรรณ อ่อนละมัย   7 ก.พ. 2544    โดยได้รับการเอื้อเฟื้อข้อมูลจากแฟนๆกิ่งฉัตรบนบอร์ด chulabook