rossoVINITALIA for Italian wine lovers |
![]() |
| แนะนำตัว | เรื่องของไวน์ | ประเทศอิตาลี | เขตการผลิตไวน์ | พันธุ์องุ่น | ไวน์นานาชนิด | ไวน์ระดับสูง | เขต DOC และ DOCG | ผู้ผลิตไวน์ชั้นนำ| ไวน์ที่ได้รับรางวัล | ภาษาอิตาเลียน| กระดานข่าว | ุเรื่องน่ารู้ | คุยกับเรา |
ผู้ผลิตไวน์ชั้นนำ
ในประเทศอิตาลีมีบริษัทผู้ผลิตไวน์ประมาณ 2,000 บริษัท ส่วนใหญ่จะดำเนินกิจการตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อไวน์อิตาเลียนที่มีคุณภาพ
rossoVINITALIA จึงจะนำเสนอบริษัทผู้ผลิตไวน์ชั้นนำให้ทราบเป็นลำดับไป
FONTANAFREDDA
บริษัท
Fontanafredda เป็นบริษัทผู้ผลิตไวน์ชั้นนำของประเทศอิตาลีเป็นบริษัทที่มีตำนานเล่าขานที่ยิ่งใหญ่
ในประวัติของบริษัทบันทึกไว้ว่าเป็นกิจการผลิตไวน์ที่กษัตริย์ Victor Emmanuel
ที่ 2 ตั้งขึ้นมา เพื่อเป็นของขวัญมอบให้ชายา Rosa Vercellana และบุตรชาย Emmanuele
Guerrieri เมื่อปีค.ศ.1878 (กษัตริย์ Victor Emmanuel ที่ 2 เป็นกษัตริย์พระองค์แรกที่ปกครองประเทศอิตาลีหลังจาก
การรวมชาติเป็นผลสำเร็จในปีค.ศ.1860)
บริษัท
Fontanafredda มีอาณาจักรของตนเองอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆชื่อ Villa of the Bela Rosin
(ซึ่งมาจากชื่อของ Rosa Vercellana) ที่ต้องอาศัยน้ำจากน้ำพุสายเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลนัก
พื้นที่บริเวณนี้จึงได้รับการขนานนามว่า fontana fredda มีความหมายว่าน้ำพุเย็นหรือน้ำพุที่หล่อเลี้ยงชาว
Bela Rosin (fontana แปลว่า น้ำพุ ส่วน freddo แปลว่า เย็น)
ในปีค.ศ.1931
กิจการของบริษัทฯได้ตกไปอยู่ในความครอบครองของบริษัท Monte dei Paschi di Siena
ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Monte dei Paschi Banking Group
บริษัท Fontanafredda มีพื้นที่สำหรับการปลูกองุ่นอยู่ในหมู่บ้าน Barolo หมู่บ้าน Diano dAlba ในตำบล Serralunga dAlba เมือง Cuneo แคว้น Piemonte มีพื้นที่รวมกันเกือบ 70 เฮคเตอร์ โดยจะปลูกองุ่นไม่ปะปนกัน นอกจากนี้ยังมีโรงเก็บไวน์[Cellar] เก่าแก่ที่มีความโอ่อ่าใหญ่โตมากสำหรับการเก็บบ่มไวน์แดงชั้นเลิศ การผลิตไวน์จะนำเอาเทคโนโลยีผสมผสานกับประสบการณ์ที่มีมากว่า 100 ปี และนำเอานวัตกรรมใหม่ๆผสมผสานกับการทำไวน์แบบดั้งเดิม
Tenuta San Guido
บริษัท Tenuta San Guido เป็น Winery estate ของตระกูล Incisa della Rocchetta เดิมทีตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Castiglioncello ซึ่งเป็นจุดที่อยู่สูงที่สุดของ estate ในตำบล Bolgheri เมือง Livorno แคว้น Toscana แต่ในปัจจุบันย้ายลงมาอยู่ที่ Cypress allee ในตำบล Bolgheri
มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 2,500 เฮคเตอร์ นับจากชายฝั่งทะเล Tyrrhenian ไปจนถึงเนินเขาสูง 396 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เนื้อที่ 2 ใน 3 หรือประมาณ 170 เฮคเตอร์เป็นพื้นที่ป่า 650 เฮคเตอร์ปลูกธัญญพืชและมะกอก 150 เฮคเตอร์เป็น Dormello-Olgiata ศูนย์ฝึกม้าพันธุ์ดี ส่วนที่เหลือประมาณ 75 เฮคเตอร์ ใช้ปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์
ไร่ปลูกองุ่นแยกเป็น 7 พื้นที่
ไร่ Castiglioncello
ไร่ Doccino และไร่ Quercione อยู่ติดกับป่าไม้บนเนินเขาที่สูง 200-300 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ไร่ San Martino และไร่ Mandrioli อยู่ต่ำลงมา
ไร่ Sassicaia และไร่ Aianova อยู่ต่ำที่สุด 80 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
ปลูกองุ่นพันธุ์
Cabernet sauvignon 85% และพันธุ์ Cabernet franc 15% และจะเก็บเกี่ยวในช่วงต้นเดือนกันยายน
การหมักองุ่นครั้งแรกจะใช้เวลา 12-14 วัน และตามด้วย malolactic fermentation จนถึงสิ้นเดือนตุลาคม
ไวน์
Bolgheri Sassicaia จะถูกเก็บบ่มในถัง French oak เป็นเวลา 24 เดือน ส่วนไวน์ Guidalberto
จะเก็บบ่ม 12 เดือน
จากนั้นจะบรรจุขวดและเก็บใน cellar อีก 6 เดือน ก่อนที่จะออกสู่ตลาด
เริ่มทำไวน์ตั้งแต่ปีค.ศ.1920
โดย Marquis Mario Incisa della Rocchetta ผู้ซึ่งใฝ่ฝันว่าจะทำไวน์ชั้นเลิศเทียบเท่ากับ
ไวน์จากแคว้น Bordeaux โดยทดลองใช้องุ่นจากฝรั่งเศสหลายๆพันธุ์ และในที่สุดก็พบว่าพันธุ์
Cabernet sauvignon เหมาะสมที่สุด
เมื่อเริ่มแรกได้ใช้องุ่นพันธุ์
Cabernet sauvignon จากฝรั่งเศสเป็นหลัก ผสมกับองุ่นจากท้องถิ่นและองุ่นพันธุ์
Nebbiolo จากแคว้น Piemonte และ Sangiovese จากแคว้น Toscana
ต่อมาจึงนำพันธุ์องุ่นจากตำบล
Graves แคว้น Bordeaux ซึ่งสภาพดินปนกรวดคล้ายกันกับในไร่ของตนเองมาปลูก และให้ชื่อไวน์ที่ทำออกมาว่า
Sassicaia ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของชาว Tuscan หมายถึงพื้นดินที่มีหินปะปน
ในระยะแรกๆไวน์ Sassicaia ไม่ค่อยได้รับการยอมรับเพราะกว่าที่ไวน์จะเข้าสู่ระยะ peak ของการ maturation จะต้องใช้เวลาหลายปี ทำให้ vintage 1948-1960 มีไวน์เหลือเก็บไว้ใน cellar มากมาย ซึ่งก็เก็บไว้ดื่มกันเอง
แต่แล้วไวน์ที่ถูกเก็บไว้ใน
cellar ปีแล้วปีเล่ากลับปรากฏว่ารสชาติดีขึ้นเรื่อยๆ จึงเท่ากับว่าวิธีการทำไวน์ของ
Mario เป็นวิธีการที่ทำให้ไวน์มีอายุยืนยาวกว่าไวน์อิตาเลียน ทั่วๆไป
ไวน์ Sassicaia
ใน vintage 1968 ก็เริ่มออกสู่ตลาดอีกครั้งและได้รับการยอมรับว่าเทียบเท่าชั้น
Premier crus ของไวน์แคว้น Bordeaux เลยทีเดียว
ไวน์ Sassicaia
เป็นไวน์อิตาเลียนขวดแรกที่ออกไปอวดธงอิตาเลียนในต่างประเทศ
ในปีค.ศ.1972
ไวน์ Sassicaia ถูกยกให้เป็นไวน์เยี่ยมยอดที่ทำจากองุ่นพันธุ์ Cabernet sauvignon
จาก Decanter Magazine ในอังกฤษ เหนือไวน์ 33 ชนิดจาก 11 ประเทศทั่วโลก
เริ่มตั้งแต่
vintage 1994 เปลี่ยนชื่อเป็นไวน์ Bolgheri Sassicaia
Tommasi Viticoltori
บริษัท Tommasi Viticoltori เป็น Winery estate ของตระกูล Tommasi ที่ดำเนินกิจการมา 4 ชั่วอายุคนแล้ว ก่อตั้งเมื่อปีค.ศ.1902 โดย Giacomo Tommasi เมือง Verona ในแคว้น Veneto ปัจจุบันยังคงดำเนินกิจการโดยคนในตระกูลทั้งสิ้น ซึ่งเป็น generation ที่ 4 โดยมี Giancarlo Tommasi เป็น enologist หรือ wines maker ควบคุมการทำไวน์
Piergiorgio รับผิดชอบด้านการตลาดในประเทศทั้งหมด
Stefano รับผิดชอบด้านการตลาดในเขตย่อยๆลงไป
Pierangelo รับผิดชอบด้านการส่งออกและการประสานงาน
Francesca และ Erica รับผิดชอบด้านการบริหาร
Paola Barbara และ Michela ประจำอยู่ในบริษัทฯ
โดยมี generation ที่ 3
[Sergio Ezio Franco และ Dario] เป็นผู้กำหนดนโยบาย
Tommasi Viticoltori
มีความหมายว่าพ่อค้าไวน์ตระกูล Tommasi [viticoltori = vintners = พ่อค้าไวน์]
ในปัจจุบันมี Winery estate อยู่ในตำบล Pedemonte อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
Verona แคว้น Veneto มีพื้นที่ทำไร่องุ่นมากกว่า 100 เฮคเตอร์ ในหมู่บ้าน Lugana
หมู่บ้าน Bardolino หมู่บ้าน Custoza หมู่บ้าน Valpolicella หมู่บ้าน Soave ตำบล
Poggio Cavalluccio เมือง Grosseto แคว้น Toscana
PIO CESARE
บริษัท Pio Cesare เป็นบริษัทผู้ผลิตไวน์ชั้นนำอีกบริษัทหนึ่งของประเทศอิตาลี เป็นกิจการผลิตไวน์ที่ตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ.1881โดยนาย Pio Cesare อยู่ที่ via Balbo ตำบล Alba เมือง Cuneo แคว้น Piemonte
เริ่มต้นจาก Pio Cesare ปลูกองุ่นและรับซื้อองุ่นที่สุกและสภาพดีจากชาวไร่ในหมู่บ้าน Barolo และหมู่บ้าน Barbaresco ในระยะแรกต้องใช้ม้าลากเกวียนเพื่อลำเลียงองุ่นมายัง winery estate ของตน ไวน์ที่ทำออกมาจะส่งไปขายยัง Switzerland / Belgium / France
นาย Giuseppe Cesare ผู้เป็นบุตรชายได้ดำเนินกิจการทำไวน์ของตระกูล และมีผู้สืบทอดมาอีก 4 ชั่วอายุคน
ในปัจจุบันกิจการของบริษัท Pio Cesare อยู่ในความดูแลของ Engineer Giuseppe Bofa ผู้เป็นหลานเขยของนาย Pio Cesare และนาย Pio Bofa ผู้สืบทอดมรดกของตระกูล Cesare
ไวน์ที่สร้างชื่อให้กับบริษัท Pio Cesare เป็นอย่างมากคือไวน์ Barolo Ornato ซึ่งมีการหมักในถัง stainless steel เป็นเวลา 6-10 วัน โดยควบคุมอุณหภูมิอย่างใกล้ชิด และจะนำไปสู่กระบวนการ malolactic fermentation อีกครั้ง หลังจากนั้นไวน์จะถูกเก็บบ่มในถังไม้โอ๊ค
นอกจากไวน์ Barolo Ornato ยังมีไวน์ Barbaresco Bricco ที่โดดเด่น ไวน์ Nebbiolo d'Alba ไวน์ Barbera d'Alba ส่วนไวน์ขาว Langhe Chardonnay PiodiLei และไวน์ขาว Cortese di Gavi ก็สร้างชื่อให้กับ บริษัท Pio Cesare อย่างต่อเนื่อง
Castello Banfi
ในประเทศอิตาลี เราคงจะไม่ค่อยได้เห็นกันมากนักที่ Winery estate จะทีเนื้อที่มากมายมหาศาลถึง 7,100 เอเคอร์ แต่สำหรับบริษัท Castello Banfi แล้ว ต้องยอมรับกันว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์จริงๆ ที่ได้เห็นใครสักคนหนึ่งกล้าลงทุนซื้อที่ดินมากมายขนาดนี้เพื่อทำกิจการไวน์
ในปีค.ศ.1978 นาย John Mariani และนาย Harry Mariani นักธุรกิจชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาเลียนที่ประสบความสำเร็จจากธุรกิจนำเข้าสินค้า มีความคิดที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตไวน์อย่างครบวงจรในตำบล Montalcino โดยร่วมมือกับนาย Ezio Rivella ผู้เป็น enologist ระดับแนวหน้าของประเทศ มีเป้าหมายที่จะทำไวน์อิตาเลียนชั้นยอด แต่ในเบื้องต้นจะต้องหาที่ดินที่มีทำเลและสภาพแวดล้อม ที่เหมาะแก่การปลูกองุ่นสำหรับทำไวน์อิตาเลียน
ที่ดินผืนแรกที่ซื้อมีเนื้อที่ 4,500 เอเคอร์ในตำบล Montalcino ซึ่งเป็นเขต DOCG สำหรับไวน์ Brunello di Montalcino อยู่แล้ว อีกผืนหนึ่งมีเนื้อที่ 2,600 เอเคอร์ อยู่ใกล้กับที่ดินผืนแรก และสิ่งสุดท้ายที่ซื้อในปีค.ศ.1984 คือปราสาทหลังใหญ่สร้างในศตวรรษที่ 11ที่จะเป็นศูนย์รวมของบริษัท Castello Banfi
แต่ในปัจจุบันใช้เนื้อที่เพียง 2,400 เอเคอร์ ในการปลูกองุ่นเพื่อทำไวน์
| แนะนำตัว | เรื่องของไวน์ | ประเทศอิตาลี | เขตการผลิตไวน์ | พันธุ์องุ่น | ไวน์นานาชนิด | ไวน์ระดับสูง | เขต DOC และ DOCG | ผู้ผลิตไวน์ชั้นนำ| ไวน์ที่ได้รับรางวัล | ภาษาอิตาเลียน| กระดานข่าว | ุเรื่องน่ารู้ | คุยกับเรา |
rossoVINITALIA
e-mail rosso19517@hotmail.com