คุณยุพาพรรณ เผ่าเมธวารีธร อาชีพค้าข้าวเปลือก อยู่ที่ ต.หาดยาง อ.ศรีมหาโพธิ์ จ.ปราจีนบุรี เล่าว่า
เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้มาทำบุญ รวมทั้งได้ร่วมพิธีหล่อพระธรรมกายประจำตัวและรับพระมหาสิริราชธาตุ รู้สึกดีใจมาก ทางวัดได้แจกหนังสือให้ไป ๒ เล่ม คือสุดยอดปาฏิหาริย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ และอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุเล่ม ๑๐ เมื่อเธออ่านแล้ว เกิดความศรัทธา จึงพยายามท่องบทสวดสรรเสริญอยู่ถึง ๒ วัน
ระยะนั้นในครอบครัวเกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจหนักมาก เนื่องจากซื้อข้าวเปลือกจากชาวนาด้วยเงินเชื่อ มาขายให้ทางโรงสี เมื่อสีเป็นข้าวสารส่งออกขายไปต่างประเทศ โรงสีได้เงินแล้ว จึงจะจ่ายค่าข้าวเปลือกให้คนขาย บังเอิญทางต่างประเทศยังไม่ส่งเงินให้โรงสี จำนวนถึง ๓๐ ล้านบาท ทำให้โรงสีไม่สามารถจ่ายหนี้สิน ให้สามีของคุณยุพาพรรณ ๗ แสนบาทจ่ายไปให้ชาวนาได้ สองสามีภรรยาเป็นทุกข์หนัก เพราะการค้าขายประเภทนี้ ไม่มีเงินก้อนสำรอง ต้องใช้เงินระบบเงินหมุนทั้งสิ้น
เมื่อแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ นอกจากรอ ทำให้สองสามีภรรยากลุ้มใจมาก ถึงกับกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ไหนจะไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนา ไหนจะไม่มีเงินหมุนเวียนซื้อข้าวไปส่งโรงสี จะทำมาหากินต่อไปอย่างไร
เช้าวันศุกร์ ขณะที่คุณยุพาพรรณกำลังซักผ้าด้วยความคิดวุ่นวายฟุ้งซ่าน ทำให้ซักผ้าต่อไปไม่ได้ รีบไปล้างมือจุดธูปเทียนที่ห้องพระ สวดมนต์ และสวดบทสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ ๓ จบ แล้วนำหนังสือสุดยอดปาฏิหาริย์ ที่หน้าปกเป็นรูปหล่อ หลวงพ่อวัดปากน้ำทองคำ ใส่มือพนมขึ้นบูชา พูดกับท่านว่า หลวงพ่อสด วัดปากรน้ำ และพระมหาสิริราชธาตุเจ้าขา ใครจะว่าวัดพระธรรมกายอย่างไร ช่างเขา แต่ลูกเคารพ ศรัทธา หลวงพ่อไม่เสื่อมคลาย ขออานุภาพหลวงพ่อสด และพระมหาสิริราชธาตุ ช่วยดลจิตดลใจให้เจ้าของโรงสี รีบใช้หนี้ให้สามีของลูกเร็วๆ ถ้าได้เงินมา ลูกจะสร้างองค์พระให้สามีอีก ๑ องค์ ลูกจะนำพานพุ่มดอกบัว และพวงมาลัยดอกไม้สดมาถวายหลวงพ่อ และขอสัญญาว่า จะไปกราบรูปหล่อทองคำของหลวงพ่อ ที่วัดพระธรรมกายอีกครั้ง ขอให้บุญกุศลและกรรมดีที่ลูกเคยทำมาตลอดชีวิตนี้ ส่งผลให้ลูกและสามี ผ่านพ้นความทุกข์นี้ไปได้ด้วยเถิด
สิ้นคำอธิษฐาน คุณยุพาพรรณเห็นภาพรูปหล่อทองคำ ที่ปกหนังสือสุดยอดปาฏิหาริย์ เป็นสีทองสุกปลั่งดั่งมีแสงออกมา เหมือนกับทองคำ จริงๆ เห็นใบหน้าของท่านชัดเจนมาก ตรงกลางลำตัวมีดวงแก้วใสสุกสว่าง เปล่งรัศมีออกมา คุณยุพาพรรณคิดว่าตนเองตาฝาด หรือไม่ก็แสงแดดสะท้อนแสง เพราะเป็นเวลาระหว่างเที่ยง-บ่ายโมง จึงขยับรูปที่ในมือ เลื่อนเข้าเลื่อนออก เอียงไปทางโน้นทางนี้ ภาพยังคง ปรากฏอยู่ตามเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องพึมพำกับตนเองว่า ลูกเห็นแล้ว ลูกเห็นแล้ว ลูกเห็นจริงๆ แล้วน้ำตาแห่งความปีติ ก็พรั่งพรูออกมา ความทุกข์ความกังวลใจทุกอย่างไม่มีเหลือ หายเกลี้ยงไปหมดนับแต่นั้น
เมื่อถึงวันอังคารสัปดาห์ต่อมา ทางโรงสีแจ้งว่าจะให้เงินคืนรวม ๓ งวด เป็นความอัศจรรย์เหลือเชื่อ ทั้งที่ทางต่างประเทศยังไม่ได้ส่งเงิน มาให้โรงสี เมื่อได้รับเงินงวดที่สอง คุณ ยุพาพรรณแจ้งให้พี่สาวบอกผู้นำบุญมารับเงินทำบุญ พี่สาวกำลังเชื่อข่าวหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์ ที่โจมตีวัด จึงห้ามน้องทำบุญ และยังขยำบทสวดสรรเสริญทิ้ง คุณยุพาพรรณยืนยันและเล่าอานุภาพที่ตนเองประสบมาให้ฟัง ทำให้พี่สาวท้วง ไม่สำเร็จ และในที่สุดพี่สาวก็พบวิบัติเรื่องที่ไม่ดีในสัปดาห์นั้นเอง มารดาจึงแนะนำว่าให้จุดธูปอธิษฐานขอขมา หลวงพ่อวัดปากน้ำ และพระมหาสิริราชธาตุเสีย ที่คิดไม่ดี พูดไม่ดี ลบหลู่ท่าน
มีอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุและหลวงพ่อวัดปากน้ำ อีกเรื่องหนึ่ง ที่คุณยุพาพรรณได้พบคือ วันหนึ่งซื้อข้าวเปลือกจากชาวนามาแล้ว เป็นข้าวที่ค่อนข้างชื้น สามีจึงนำข้าวออกตากจนเต็มลานไปหมด ช่วงนั้นอากาศแปรปรวนมาก เพราะมีพายุดีเปรสชั่น ไม่มีแดด ลมพัดแรงจัด เมฆลอยต่ำ มีแต่เมฆสีดำมืดครึ้มไปหมด ทำท่าเหมือนฝนจะตก
คุณยุพาพรรณเก็บข้าวไป สวดบทสรรเสริญไป ขออานุภาพพระ-มหาสิริราชธาตุและหลวงพ่อสดช่วยเหลือ เพราะถ้าตกลงมาขณะนั้น เก็บอย่างไรก็ไม่ทัน เมฆฝนทำท่าตกถึง ๒ ครั้ง สามีเก็บไปบ่นไปว่าตกแน่ๆ เก็บข้าวไม่ทันแล้ว
คุณยุพาพรรณเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ยืนยันกับสามีว่า ฝนไม่ตก เพราะฟ้าเริ่มเปิดแล้ว เพียงชั่วครู่เดียวมีลมแรงพัดมา พาเอาก้อนเมฆ ไปที่อื่น ฝนไม่ตกในวันนั้นจริงๆ หากตกลงมา ข้าวจะต้องเสียหายขาดทุน ขายไม่ได้ราคา
ความทุกข์ถึงที่สุด ทำให้คนต้องหาที่พึ่ง คุณยุพาพรรณอุตส่าห์ระลึกถึงพุทธานุสติ สังฆานุสติ นึกถึงพระมหาสิริราชธาตุ ตัวแทนของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นึกถึงหลวงพ่อสด ตัวแทนของพระสงฆ์ เป็นบุญชนิดหนึ่งที่เกิดจากกุศลจิต เมื่อจิตยึดเหนี่ยวเต็มที่ จิตก็หยุดนิ่งเป็นพิเศษ ทำให้สามารถเห็นพลังบุญ พลังความศักดิ์สิทธิ์ที่อำนาจจิตของผู้สร้างหนังสือ อาราธนาไว้เพื่อติดตามหาผู้มีบุญบารมี มาร่วมบุญกันใหม่ในชาตินี้
คุณยุพาพรรณจึงเห็นภาพหน้าปกหนังสือแสดงความอัศจรรย์ เพราะตามนุษย์กับตาของกายฝันตรงกันโดยบังเอิญ ใจที่เต็มไปด้วยปีติ เป็นใจที่มีคุณภาพพิเศษ บุญเก่าสามารถได้ช่องส่งผลง่ายกว่าใจที่กลุ้ม ใจที่หม่นหมอง
ส่วนพี่สาว เมื่อเกิดความรู้สึกไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา ยังมีความโกรธเกลียดผสมเพิ่ม แถมทำบาปด้วยการห้ามน้องทำบุญ บุญที่มีอยู่จึงถูกตัดรอน บาปอกุศลได้ช่องส่งผล วิบัติก็เกิดขึ้น ไม่ใช่พระมหาสิริราชธาตุหรือหลวงพ่อวัดปากน้ำ ลงโทษอะไร ตัวเองทำตัวเอง
ใครก็ตามฟังเรื่องใครติเตียนใคร อย่าด่วนตัดสินใจทันที เพราะถ้าคิดเชื่อ จะเกิดเกลียดชัง เกิดการลบหลู่ เสี่ยงต่อการสร้างบาป ควรวางใจเป็นอุเบกขา เมื่อตนเองไม่สามารถพิสูจน์ความจริงได้ ก็รอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะสิ่งใดที่เป็นเท็จ วันเวลาจะพิสูจน์ได้ดีที่สุด อาศัยพิสูจน์ด้วยปากคน ด้วยความคิดเห็น ด้วยการคาดคะเน ด้วยเชื่อตามคนอื่นพูด ฯลฯ ล้วนแต่พลาดได้ง่ายที่สุด
เรื่องการอธิษฐานให้ได้รับความช่วยเหลือเกี่ยวกับดินฟ้าอากาศ หรืออื่นๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ เป็นไปได้เสมอ สำหรับผู้ที่หมั่นสร้างสม บุญกุศล ดินฟ้าอากาศ สถานที่ เหตุการณ์ ฯลฯ ล้วนอยู่ในการดูแลของเหล่าเทพยดาบางจำพวกบ้าง อยู่ในอำนาจกฏเกณฑ์ของกรรมบ้าง ซึ่งถ้าเป็น ผู้มีบุญมีบารมีจริง เทพยดาก็ยินดีช่วยเหลือ ส่วนเรื่องบาปกรรมให้ผล หากเราทำบุญกุศลใหญ่ มีกำลังมาก บุญก็สามารถตัดรอนกระแสบาป ให้อ่อนกำลังลงได้ ถ้าบาปน้อยอาจหายไปกลายเป็นอโหสิกรรมได้ด้วย