คุณเสาวลพ ทวีศิลป์ อายุ ๖๕ ปี เข้ามาช่วยงานต่างๆ อยู่ในวัดพระธรรมกาย ๑๓ ปี จนถึงปัจจุบัน เล่าว่า
ได้ยินผู้คนเล่าเรื่องอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุให้ฟังแทบทุกวัน แต่ยังไม่เคยประสบกับตนเองสักครั้ง ทั้งยังไม่เคยคิด ขอพรอะไรจากท่าน เมื่อได้รับองค์พระมาแล้ว รู้สึกเคารพรักชื่นชมมาก เหมือนมีผู้ใหญ่ที่ให้ความอบอุ่นคุ้มครองภัยอันตราย ทั้งปวงอยู่ด้วย มีจิตใจผูกพัน จึงหมั่นระลึก นึกถึง และพกพาติดตัวตลอดเวลาทั้งหลับทั้งตื่น และหมั่นสวดสรรเสริญวันละหลายๆ ครั้ง ก่อนเข้านอนจะสวดสรรเสริญ ๓ จบ นั่งสมาธิ และนอนฟังเสียงสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุ ฟังไประลึกนึกถึงไปตามเนื้อความในคำสวด จนกระทั่งหลับทุกคืน
วันที่ได้พบอานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เป็นวันที่ ๒๖ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๑ เวลา ๖.๕๕ น. กำลังจะไปทำน้ำซุบร้อนๆ ที่ครัวของวัด เพื่อนำมาถวายพระ จึงหิ้วหม้อมายังรถมอเตอร์ไซค์ ที่เพิ่งซื้อมาใหม่เอี่ยมที่จอดอยู่ โดยปกติรถคันนี้ติดเครื่องง่ายมาก เพราะใช้มือสตาร์ท แต่วันนั้น ติดเครื่องไม่ได้ มีแต่เสียงแชะ แชะ
มองดูที่หน้าปัทม์ ก็เห็นสัญญาณบอกเกียร์ว่าง จึงลองติดเครื่องด้วย คันสตาร์ทที่เท้า จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นในพริบตา เครื่องยนต์ติด ล้อหน้ายกลอยขึ้นได้เอง แล้วพุ่ง เข้าชนเสาเหล็กเต๊นท์ยักษ์ หนาราว ๔ นิ้ว ตัวคนลอยละลิ่วออกจากรถ ศีรษะฟาดเข้ากับเสาเหล็ก อย่างจัง ก้อนหินแหลมๆ ที่ประดับอยู่บริเวณนั้น บาดทิ่มบริเวณหน้าแข้ง
ขณะนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และเจ้าภาพถวายอาหารเช้า ๒ ท่านชื่อ คุณเต็มใจ สุทธิประภา และคุณจินตนา ชัยชูศรี เห็นเข้ารีบพากันวิ่งมาเพื่อช่วยเหลือ ต่างคนต่างคิดว่าแย่แล้วตัวลอยฟาดคนไปทาง รถไปทางอย่างนี้ แต่คุณเสาวลพกลับไม่นึกหวาดหวั่น ระลึกถึง แต่พระมหาสิริราชธาตุ ตลอดเวลาที่คับขัน แม้ว่าสายตาของตนเอง เริ่มเลือนลางมองไม่รู้อะไรเป็นอะไร ครึ่งรู้ตัวไม่รู้ตัว เลือดที่ขาเปื้อน เลอะกระโปรงสีขาวเต็มไปหมด ตาพร่ามัว เพราะศีรษะกระแทกเสาเหล็ก บริเวณก้านคอ รู้สึกตื้อๆ แน่นๆ เหมือนมีอะไรเสียบอยู่ จนถึงแนว ไหปลาร้าทั้งสอง เข้าใจว่าเลือดคงเดินไม่สะดวก
บัณฑิตแก้วชื่อ สินชัย ประเสริญวารี วิ่งมาช่วยกันกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประคองตัวคนเจ็บไปสถานพยาบาล คุณหมอพรชัย ได้ช่วยตรวจดูบาดแผล ทำแผลให้และรีบส่งตัวไปโรงพยาบาลเอกปทุม เพื่อตรวจด้วยการเอ็กซเรย์อย่างละเอียดโดยเฉพาะที่บริเวณศีรษะ เพราะขณะนั้นทั้งศีรษะ ก้านคอ และไหปลาร้า มีอาการบวมมาก
ผลการตรวจ เป็นที่น่าประหลาดใจ คุณหมอพรชัยบอกว่า ไม่มีอาการอะไรมาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อทั้งสอง ได้เมตตามาเยี่ยม ให้กำลังใจ ท่านพูดว่า วันที่ ๒๙ ก็ลุกขึ้นมารับแขกที่มาวัดได้แล้ว
จากนั้นคุณพวง และคุณเรณู โชคอนันต์ตระกูล สองสามีภรรยา ได้กรุณาให้ยาจีน ๓ เม็ดใหญ่เพื่อแก้ฟกช้ำ ปรากฏว่าวันที่ ๒๙ มกราคม อาการทุกอย่างหายเป็นปกติ รอยเขียวช้ำเหลือเพียงสีชมพู ทำหน้าที่ต้อนรับสาธุชนได้
คุณเสาวลพรู้สึกในความเมตตาของทุกท่านที่ช่วยเหลือและให้กำลังใจ รู้สึกซาบซึ้งในอานุภาพของพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุ และกล่าวว่า เรามาช่วยกันสร้างเจดีย์ให้เสร็จ โดยการสร้างพระธรรมกายประจำตัว ประดิษฐานไว้ที่มหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งจะมีอายุเป็นพันปี และเราจะได้รับพระมหาสิริราชธาตุ ซึ่งมีอานุภาพมากไว้เป็นของศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตัว มีแล้วย่อมรู้สึกอบอุ่นใจ รู้สึกปลอดภัยในทุกเรื่อง โดยเฉพาะในยามคับขันของชีวิต ที่มนุษย์ด้วยกันไม่สามารถช่วยเหลือได้