คุณศัลสนี ศิละคุณาภรณ์ บ้านอยู่ที่บางนา เขตพระโขนง แต่เป็นเจ้าของกิจการสวนดอกไม้ ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เข้าวัดปี พ.ศ.๒๕๓๙ เล่าว่า
มีเพื่อนๆ สมัยที่เรียนหนังสือ ซึ่งยังคงมีความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกัน อย่างเหนียวแน่น พอรู้ว่าเข้าวัดแล้วดี กลุ่มเพื่อนๆ ก็ ชวนกันมาร่วม สร้าง บุญกุศล เมื่อมีเพื่อนมาชวน คุณศัลสนีจึงมาวัด แล้วประทับใจ ทั้งบุคคลและสถานที่วัดสะอาด และเข้าวัดอย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน
ทุกอาทิตย์ต้นเดือน และงานบุญใหญ่ จะนำดอกไม้ ที่ตนเองปลูกขาย มาทำบุญตกแต่ง สร้างบรรยากาศ สร้าง ความสดชื่นสดใสให้กับ บุญสถาน สั่งสมบุญเรื่อยมา ชีวิตก็พบแต่ความสุข ความเจริญ ประสบความสำเร็จ ในธุรกิจการงาน ได้เล่าอานุภาพที่ประสบ กับคุณแม่ของ เธอ อายุ ๘๘ ปี ตกบันได ๑๒ ขั้น แต่ไม่เป็นอะไร รอดชีวิตมาได้ราวปาฏิหาริย์
คุณศัลสนี เล่าว่า ระยะ ๕ ปีก่อนเข้าวัด คุณแม่ของเธอนั้น แค่เซแล้วเอาแขนยันไว้แขนก็หักแล้ว พลาดหกล้มก้นกระแทก กระดูกตรงสะโพก ถึงกับแตก ต้องผ่าตัด ลื่นหกล้มข้อเท้าก็หัก พอคุณศัลสนีได้เข้าวัดทำบุญแล้ว ก็อธิษฐานจิต น้อมนำบุญนี้ ให้ช่วยคุ้มครองคุณแม่ ก่อนที่ คุณแม่จะประสบเหตุการณ์ในครั้งนี้ คุณศัลสนีได้สร้างพระธรรมกายประจำตัว ให้กับคุณแม่ ก่อนหน้านั้น ๑ เดือน
ปกติแล้วคุณศัลสนีจะเป็นผู้อยู่ดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิด คืนนั้นเวลาประมาณตีหนึ่ง นอนอยู่ได้ยินเสียงดังโครมใหญ่ มองไปที่เตียงคุณแม่ ท่านหายไป รู้สึกใจหายหมด รีบวิ่งออกมาดูที่ข้างนอก มองลงไปที่บันได เห็นคุณแม่ลงไปนอนอยู่พื้นข้างล่าง ซึ่งบันไดขึ้นลงมี ๑๒ ขั้น
หลานวิ่งไปดูตะโกนบอกว่า เลือดออกด้วย ได้ยินแล้วใจไม่ดีเลย รีบโทรศัพท์เรียกรถพยาบาล พี่ชายก็พาไปส่งโรงพยาบาล โดยให้คุณศัลสนี อยู่บ้าน เธอจึงได้รีบอธิษฐานจิต ขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุ ให้ช่วยชีวิตคุณแม่ตลอดเวลา ยังไม่อยากให้ท่านเสียชีวิต ในตอนนี้ เพราะถ้า จากไปโดยที่ไม่มีสตินี่ อาจไปสู่ทุคติ เพราะตนเองเชื่อว่า การจากไปแบบมีสติตรึกระลึกนึกถึงบุญ ที่ตนเองเคยทำมา ย่อมจะนำไปสู่สุคติ แน่นอน
พอเวลาผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมง พี่ชายก็โทรมาบอก คุณหมอเอ็กซเรย์หมดแล้ว กระดูกไม่มีส่วนไหนหักเลย ไม่เป็นอะไรเลย ส่วนเลือดที่ หลานเห็นนั้นแค่ถลอกนิดหน่อย เธอจึงรู้สึกสบายใจคลายจากวิตก แต่รุ่งเช้า จะมีการเอ็กซเรย์สมอง คิดว่า สมองอาจจะได้รับการกระทบ กระเทือนแน่ เพราะตกมาจากที่สูง ก็ได้อธิษฐาน ขอบารมีพระมหาสิริราชธาตุ อย่าให้คุณแม่เป็นอะไรมากเลย ไปกว่านี้
วันรุ่งขึ้นจึงรีบไปเยี่ยมท่านที่โรงพยาบาลตั้งแต่เช้า พอเจอหน้าท่านก็ทัก มาทำไม ไม่ทำงานเหรอ ไปทำงานสิเดี๋ยวเขาไล่ออกนะ คุณแม่ทัก แบบนี้ ก็สบายใจ ยังจำได้คุยรู้เรื่อง คุณหมอตรวจเช็คความจำคุณแม่ ก็ปรากฏว่าจำได้ทุกอย่าง คุณหมองงมาก ถามว่า อาม่า อาม่า ใช้วิชา อะไรลงมา ตกบันได ๑๒ ขั้นลงพื้นปูน กระดูกไม่ได้รับการกระทบกระเทือนเลย ซึ่งเมื่อสมัยก่อน โดนนิดโดนหน่อย แขนก็หักแล้ว
คุณศัลสนีเชื่อมั่นในอานุภาพ ของพระมหาสิริราชธาตุมั่นคงยิ่งขึ้น และคิดว่าคงเป็นเพราะบุญที่ตั้งใจสร้าง พระประจำตัวประดิษฐาน ณ
มหาธรรมกายเจดีย์
และตกแต่งบุญสถาน
ให้ดูสดชื่นสวยงาม
ด้วยดอกไม้เป็นประจำ
จึงส่งผลช่วยให้คุณแม่
อยู่กับลูกหลานไปอีก ด้วย
ความสดชื่นแข็งแรง
อานุภาพบุญ
อานุภาพการระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
ไม่มีประมาณจริง ๆ อายุถึง ๘๘ ปี ตกบันได ๑๒ ขั้น ข้างล่างเป็นพื้นปูน
ไม่มีอะไร หักเสียหาย เพียงแต่รอยถลอกเล็กน้อย ถ้าไม่เชื่อเรื่องบุญกุศลแล้ว ก็ไม่ทราบจะเชื่ออะไร เพราะคุณแม่ของคุณศัลสนีผู้นี้
เป็นโรคกระดูกเปราะ อยู่แล้ว กระทบนิดกระทบหน่อย เป็นหักอยู่เรื่อย นี่กระทบอย่างแรงขนาดตกบันได กลับไม่เป็นอะไรเลย
อันที่จริงเรื่องบุญกุศลนั้น นอกจากทำแล้วแบ่งบุญให้กันได้แล้ว ยังทำแล้วอธิษฐานเผื่อกันได้ด้วย ลูกสาวเมื่อทำบุญ เมื่อสวดสรรเสริญ อธิษฐาน จิตขอให้มารดาปลอดภัย ถึงแม้มารดา จะไม่ใช่ผู้สร้างบุญ แต่ด้วยบุญของลูกที่สร้างขึ้น ลูกไม่ต้องการเห็น ความเจ็บป่วยของแม่ บุญก็ย่อมจัดสรร ช่วยเหลือได้เหมือนกัน
เปรียบดังว่า คุณศัลสนีมีบุญมากพอ ที่ไม่ต้องพบความทุกข์ในเรื่องนี้ บุญก็ทำหน้าที่ปกป้องให้มารดา แคล้วคลาด เพื่อไม่ให้ลูกสาว พบ ความทุกข์ดังกล่าว
ดังนั้นในการทำบุญกุศลต่าง ๆ นอกจากอุทิศส่วนกุศลให้เหล่าญาติ ผู้วายชนม์ไปแล้ว ควรอธิษฐานจิต ให้ความร่มเย็นเป็นสุข เกิดแก่ตนเอง เพื่อให้สร้างบารมีสะดวก ให้ครอบครัวและคนเกี่ยวข้อง บริษัท บริวารชน ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งปวง มีความเป็นอยู่สุขสบาย มีสัมมาทิฏฐิ หมั่นสร้างบุญกุศล ให้เป็นที่พึ่งแก่ตนเองทุกชีวิต พร้อมไปด้วย เหมือนเป็นการแผ่เมตตาไปในตัว