อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๔๕.ขาดวัดไม่ได้

น้องมีน หรือ ด.ช.กายธรรม จันทร์เรือง ปัจจุบันอายุ ๔ ขวบ

เข้าวัดครั้งแรกตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่ หลังจากคลอดแล้ว คุณวนัดดา คมเวช ซึ่งเป็นน้าของน้องมีน ได้พาน้องมีนเข้าวัดมาโดยตลอด งานบุญใหญ่ก็ไม่เคยขาดเลยสักครั้ง แต่ถ้าหากครั้งใด ที่วัดมีงานบุญใหญ่ แล้วไม่สามารถพาน้องมีน มาร่วมงานได้ หรือติดธุระไม่ได้มาวัด ๑-๒ อาทิตย์ น้องมีนจะมีอาการไม่สบาย หรือจะมีอาการเจ็บป่วยเสมอ

ในช่วงของการอยู่ธุดงค์วิสาขบูชาที่ผ่านมาตลอดทั้งสัปดาห์ คุณน้าของน้องมีน ก็ได้มาอยู่ธุดงค์ในตอนเย็น ตอนเช้า พอสวดมนต์ทำวัตร นั่งสมาธิเสร็จ ก็รีบเดินทางไปทำงาน ซึ่งน้องมีนไม่ได้มาอยู่ธุดงค์ด้วย เพราะเพิ่งจะเปิดเทอม ต้องไปโรงเรียน ทำให้ไม่สามารถพาน้องมีน มาวัดได้ ซึ่งคุณวนัดดาลืมไปเลยว่า ถ้าวัดมีงานแล้วน้องมีนไม่ได้มา น้องมีนจะไม่สบายทุกครั้ง

วันพุธที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ หลังจากที่คุณน้าของน้องมีนเดิน ทางจากวัดไปทำงานแล้ว ช่วงสายคุณ แม่ของน้องมีนคือ คุณปานใจ จันทร์เรือง ได้โทรศัพท์ไปหาที่ที่ทำงาน บอกว่า น้องมีนได้หกล้ม หน้าห้องน้ำที่บ้าน 

คุณปานใจเล่าว่า ตอนนั้นตกใจมาก เพราะตอนที่ล้มนั้นเธอบอกว่า เสียงศีรษะกระทบกับพื้น ดังเหมือนแตงโมแตก น้องมีนร้องไห้เสียงดัง ลั่นบ้าน และ บอกว่าปวดศีรษะมาก ปวดไม่ยอมหยุด ซึ่งดูผิดปกติ สักพักก็เริ่มมี อาการอาเจียน และอาการหนักขึ้นทุกที เพราะอาเจียน ไม่ยอมหยุด 

พอคุณวนัดดาได้ยินอย่างนี้จึงรีบกลับมาดูอาการของน้องมีนทันที พอมา ถึงที่บ้านพบน้องมีนจับตัวดูก็รู้สึกว่าตัวเย็นมากผิดปกติ จึงรีบนึก เอาใจจรดที่ศูนย์กลางกาย อธิษฐานขอให้น้องมีนมีอาการดีขึ้น ซึ่งตอนนั้น น้องมีนอาการหนักมาก อาเจียนออกมาติดต่อกันตลอด และเห็น อาการไม่ดีจึงรีบพา น้องมีนไปที่โรงพยาบาล 

คุณหมอได้ตรวจดูอาการและเอ็กซ์เรย์ หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้า และให้น้ำเกลือ คุณหมอบอกว่า อาการไม่น่าไว้วางใจ ผมไม่อาจรับรองได้ว่า ภายใน ๒๔ ชั่วโมงนี้ เลือดตกในสมองหรือเปล่า ถ้าอย่างไรต้องนอนที่โรงพยาบาลก่อน ซึ่งในระหว่างนั้น ทั้งคุณปานใจ และคุณวนัดดา ได้เฝ้าดูอาการอยู่ตลอด พยาบาลก็เข้ามาเช็คแทบทุกชั่วโมง แต่น้องมีนก็มีอาการสะลึมสะลือ และบ่นว่า ปวดหัวๆ ตลอด 

และในระหว่างนั้นคุณวนัดดาไม่เห็นองค์พระมหาสิริราชธาตุของน้องมีนห้อยอยู่ที่คอ จึงถามว่า องค์พระมหาสิริราชธาตุของน้องมีน อยู่ที่ไหน คุณปานใจก็นึกขึ้นได้ และหยิบองค์พระมาให้ เพราะเธอเก็บรักษาไว้ ซึ่งคุณวนัดดาบอกว่า ให้ช่วยกันอธิษฐานกับ พระมหาสิริราชธาตุ ว่า ขอให้น้องมีนหายด้วยเถิด 

พออธิษฐานเสร็จก็นำองค์พระไปไว้ที่ใต้หมอนที่น้องมีนนอน ซึ่งคุณปานใจได้กล่าวว่า หลังจากที่อธิษฐานจิต และวางองค์พระไว้ที่ใต้หมอน นั้น ประมาณ ๑ นาทีต่อมา นางพยาบาลก็เข้ามาตรวจอาการ และวัดความดัน น้องมีนลืมตาขึ้น และดูหน้าตาสดใสขึ้นทันที และได้กล่าว กับ แม่ว่า แม่ มีนหายแล้ว มีนจะกลับบ้านได้หรือยัง ทั้งคุณปานใจและคุณวนัดดา ก็อัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ซึ่งตอนนั้น เป็นเวลาประมาณ ๖ โมงเย็น 

แต่คุณปานใจห่วงน้องมีนจึงให้นอนดูอาการ ๑ คืน ส่วนคุณวนัดดารีบกลับมาอยู่ธุดงค์ แล้วได้นั่งสมาธิอธิษฐานจิต ให้น้องมีนหายเป็นปกติ ซึ่งตลอดทั้งคืน น้องมีนไม่มีอาการปวดหัว และอาเจียนเลย รุ่งเช้าคุณหมอมาตรวจก็อัศจรรย์ใจ และกล่าวว่า เออะหายไวจัง เมื่อคืนยังอาการ หนัก อยู่เลย และคุณหมอก็อนุญาต ให้กลับบ้านได้เลย พอวันศุกร์ได้พาน้องมีน มาอยู่ธุดงค์ที่วัด จนถึงวันจันทร์ พอมาอยู่วัด มีแต่อาการ สดใส ร่าเริงแข็งแรง และน้องมีนก็ไม่มีอาการเจ็บป่วยให้เห็นอีกเลย

ครั้งเมื่องานอยู่ธุดงค์ ๗ วัน ในช่วงสัปดาห์วิสาขบูชา เมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีหลายครอบครัว ทำเสมือนที่วัดเป็นบ้าน โดย ตอนเช้าเดินทางออกจากวัด พ่อแม่ไปทำงาน ลูกๆ ไปโรงเรียน ตกเย็นพ่อแม่ก็รับลูกจากโรงเรียน กลับมานอนค้างคืนในกลดที่วัด ทำดังนี้ทุก วันจนครบ ๗ วัน

ในกรณีของน้องมีน คุณน้าคงเห็นว่ายังเล็ก จึงไม่พามาด้วย หรือมิฉะนั้นคงไม่สะดวกที่จะไปรับไปส่ง จึงให้อยู่ที่บ้าน ผู้เป็นน้ามาอยู่ธุดงค์ตาม ลำพัง

แต่เนื่องจากเด็กคนนี้คงมีบุญอยู่มาก เวลามาเกิดจึงได้เลือกเกิดในครอบครัวสัมมาทิฏฐิ มีแม่เป็นคนเข้าวัดสร้างบุญกุศล โดยปกติแล้ว ผู้มีบุญเท่านั้น สามารถเลือกครอบครัว ที่ตนเองต้องการเกิดได้ 

ถ้าเป็นคนมีบาปติดตัวมาเกิด บาปนั้นเองจะเป็นสิ่งจัดสรรให้ต้องเกิดในสิ่งแวดล้อมไม่ดีต่างๆ เช่นเกิดในครอบครัวยากจน ครอบครัวเป็น มิจฉาทิฏฐิ เห็นแต่การสร้างบาปอกุศลต่างๆ ไม่นิยมการทำบุญกุศล ทำให้ไม่มีกัลยาณมิตรชักนำชีวิตไปในทางดีงาม

เมื่อน้องมีนเป็นคนมีบุญ น้องมีนจึงเลือกเกิดกับครอบครัวที่ฝักใฝ่ในบุญกุศล พาไปวัดบ่อยๆ จนกระทั่งมารดาสังเกตได้ว่า หากไม่ได้ไปวัด ๑-๒ อาทิตย์ น้องมีนจะมีอาการประท้วงด้วยการไม่สบาย

ตามที่พบเห็นกันโดยทั่วไป ครอบครัวใดที่มีเด็กมีบุญมาเกิด เด็กมักจะมีลักษณะทำนองเดียวกับน้องมีนเสมอ ชอบใส่บาตร ชอบไปวัด กราบพระ สวดมนต์ กระทั่งนั่งสมาธิ ฯลฯ มีพฤติกรรมที่น่าชื่นใจ สำหรับผู้ปกครอง ซึ่งในทางธรรมถือกันว่า เป็นเพราะบุญเก่าของเด็ก ชักนำให้สร้างบุญใหม่เพิ่ม สมกับคำว่า เกิดมาสร้างบารมี


[สารบัญ] [๓๔๐] [๓๔๑] [๓๔๒] [๓๔๓] [๓๔๔] [๓๔๕] [๓๔๖] [๓๔๗]