อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

๓๙๐. ไซนัส ๑๓ ปี

ครอบครัวหนึ่งประกอบอาชีพด้วยด้วยความวิริยะอุตสาหะ จนมีกิจการค้าที่มั่นคง เก็บหอมรอมริบปลูกบ้านพักได้อย่างสวยหรู มีเครื่องอำนวยความสะดวก พร้อมทุกอย่าง ตามโลกปัจจุบัน แต่นอกเหนือจากสิ่งที่หามาได้ด้วยกำลังกาย กำลังทรัพย์ โดยสุจริตแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ทุกคนเข้าใจและยอมรับในสัจธรรมนี้ นั่นคือบุญ เมื่อทุกคนใน ครอบครัวได้มีโอกาสมาประพฤติปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย โรคร้ายที่คุกคามอยู่ในตัวลูกสาวมานานถึง ๑๓ ปี รักษามาโดยตลอด และคงไม่มีทางหายจากโรคนี้ ได้ถ้าไม่ได้บุญมาช่วย

คุณวุฒิตา พันธุรัตน์ เล่าว่า ตนเองพร้อมสามีคือคุณวาสนา ได้มีโอกาสไปประพฤติปฏิบัติธรรมครั้งแรกที่สวนบัวรีสอร์ท จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงสงกรานต์ เพราะในรอบปีจะมี เฉพาะช่วงสงกรานต์นี้เท่านั้นที่ปิดร้านได้ในระยะยาว ๑ สัปดาห์ ทั้งสองคนสามีภรรยาจึงถือโอกาสนี้ไปลองนั่งสมาธิดูให้ครบไตรสิกขา คือ ทาน ศีล ภาวนา เพราะต่างก็ชอบ ประกอบ บุญกุศลด้วยกันทั้งคู่ 

คุณวุฒิตาบอกว่าหลังจากได้ไปนั่งสมาธิที่สวนบัวรีสอร์ทแล้ว ทำให้เข้าใจหลักธรรมในพระพุทธศาสนาอย่างแจ่มแจ้งขึ้น เพราะเมื่อใจได้หยุดนิ่งอย่างต่อเนื่อง ก็ได้สัมผัส กับความ สุขภายใน หลังกลับจากสวนบัว สองสามีภรรยาก็ตัดสินใจมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรก ในวันที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๑ ในวันนั้น เป็นวันบวชอุทิศชีวิตของอุบาสก ๒ ท่าน บรรยากาศในวันนั้นทำให้ทั้งสองสามีภรรยาเกิดความปีติในงานบุญวันนั้นมาก พิธีกรรมดูศักดิ์สิทธิ์ แต่เรียบง่ายและสงบจนรู้สึกว่าได้รับกระแสบุญวันนั้นอย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนั้นยังได้ฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านแสดงธรรม จึงรู้คุณค่าของชีวิตที่เกิดมานั้น เพื่อสร้างความดีสร้างบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป

พอกลับถึงบ้านรีบปรึกษากันทันทีว่าต้องปรับเปลี่ยนการค้าเพื่อจะได้มีเวลานั่งสมาธิ ฟังธรรม พักผ่อนจิตใจ และสั่งสมบุญให้สมกับที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา

คุณวาสนาเริ่มด้วยการปรับร้าน ซึ่งแต่เดิมทำร้านอาหารและเปิดร้านซาลาเปาด้วย ปัจจุบันลดเหลือแค่ร้านซาลาเปา และนำศีล ๕ มาเป็นบรรทัดฐานของการอยู่ร่วมกัน ถามความสมัครใจของลูกน้องว่า ถ้าอยู่ร่วมกันต้องมีการรักษาศีล ๕ เป็นปกตินะ และจะสวดมนต์ทำวัตรเย็นร่วมกันก็ได้ มีคนที่สมัครใจอยู่ส่วนหนึ่งประมาณสิบกว่าคน 

คุณวุฒิตาบอกว่า แรกๆ ก็หวั่นใจกลัวว่ารายได้จะลดลง แต่เมื่อมุ่งมั่นและเชื่อว่าธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดีจริงต่อผู้ลงมือปฏิบัติ ปรากฏ ว่า รายได้ของร้านไม่ได้ลดถอยลง ไปเลย แต่สิ่งที่ได้มากลับเกินคุ้ม มีเวลาพักผ่อน ปฏิบัติธรรมหาความสุขที่เกิดจากความสงบภาย ใน สวดสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย และพระมหาสิริราชธาตุเป็นประจำ

คุณวุฒิตา มีลูกสาว ๒ คน ทุกเช้าตรู่ สมาชิกทั้ง ๔ คนในครอบครัวจะออกมาตักบาตรพระก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง ลูกสาวคนโต น้องผึ้ง อายุ ๑๔ ปี คนเล็กชื่อ น้องส้ม อายุ ๑๓ ปี น้องส้มเป็นเด็กที่มีโรคประจำตัวมาแต่กำเนิด แรกคลอดออกมาก็เพดานจมูกโหว่ กล้ามเนื้อบริเวณเพดานปากไม่แข็งแรง หลังจากผ่าตัดก็เกิดโรคแทรกซ้อน คือ ริดสีดวงจมูกมีเม็ดขึ้นในโพรงจมูก และอาการ ไซนัสแทรกเข้ามา เมื่อมีอากาศเปลี่ยนแปลงครั้งหนึ่ง จะเกิดอาการหายใจไม่ออก อึดอัด ปวดช่วงสันจมูก และบริเวณเบ้าตามาก โพรงจมูกบวม น้ำมูกข้น ปกติสั่งเฉยๆ จะไม่ออก ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์โดยเฉพาะขูดออกมา ช่วงที่ปวด น้องส้มจะทรมานมาก หายใจไม่ออก อาการปวดบริเวณเบ้าตา จะปวด ลึกเข้าไปข้างใน ทำอย่างไรก็ไม่หาย คนที่เคยเป็นอาการเช่นนี้จะทราบดี มันทรมานมาก จึงต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลตลอดเวลา ๑๓ ปี

เมื่อปีที่ผ่านมาน้องผึ้ง และน้องส้มได้มีโอกาสเข้าโครงการอบรมยุวกัลยาณมิตร ที่ทางวัดจัดปฏิบัติธรรมในกลุ่มเด็กๆ และให้ไปนั่งสมาธิอย่างต่อเนื่องที่พนาวัฒน์ ซึ่งบรรยากาศ ดีมาก อยู่บนภูเขาสูง อากาศค่อนข้างเย็นตลอดเวลา ถ้าวันไหนฝนตกอากาศจะหนาวเย็นสดชื่น สำหรับคนปกติ แต่สำหรับน้องส้มแล้วอากาศแบบนี้ คงจะทำให้โรคกำเริบ หนักขึ้นไปอีก 

น้องส้มรักในการปฏิบัติธรรมมาก จึงยอมเสี่ยงขึ้นดอยในครั้งนี้ เป็นที่น่าอัศจรรย์ น้องส้มอยู่บนดอยได้อย่างเบิกบาน ลืมเรื่องอาการป่วยไซนัสที่ติดตัวมาแต่กำเนิดไปเลย มีแต่ความเบิกบานใจตลอดที่อยู่พนาวัฒน์นานถึง ๑๔ วัน 

เมื่อกลับถึงบ้านเอาบุญมาฝากคุณพ่อคุณแม่แล้วยังรีบอวดพระมหา- สิริราชธาตุที่ห้อยคออยู่เป็นประจำ มีคำแก้วมณีเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดและที่น่าอัศจรรย์ใจที่สุดคือ เมื่อถึง เวลา ไปให้คุณหมอตรวจไซนัสตามปกติ ปรากฏว่า คุณหมองงมากเพราะรักษาน้องส้มมาร่วม ๑๐ ปี ตรวจครั้งนี้ ไซนัสในตัวน้องส้มหายไปได้อย่างไร และปัจจุบันน้องส้ม ก็ไม่เป็นโรคไซนัสอีกเลย

รายนี้มีวิธีคัดลูกจ้างออกที่น่าสนใจ ที่ใครๆ ควรทำตาม ใช้หลักเกณฑ์ แค่รักษาศีล ๕ และสวดมนต์ทุกวัน ใครทำไม่ได้ก็ต้องออกไป เพราะนายจ้างจะลดงานในร้านลง เป็นทาง ออกที่วิเศษ บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น ลูกจ้างจะโกรธก็ไม่ได้ เป็นความผิดของตนเองต่างหากที่ไม่มีความดี จะโทษใคร

แต่กลายเป็นผลดีต่อนายจ้างเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเหลือแต่คนถือศีล ก็ไม่ต้องกังวลว่าใครจะอทินนาทานเงินทอง รายได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แถมคนที่ถือศีล สวดมนต์ประจำ ย่อม มีจิตใจเบิกบานผ่องใสอารมณ์ดี หน้าตายิ้มแย้ม ทำหน้าที่ขายของใครเห็นก็ต้องพอใจเข้ามาซื้อ

ผลที่เกิดขึ้นคือ แม้จะลดการค้าลงอย่างหนึ่ง เหลือเพียงอย่างเดียวก็คงได้กำไร ไม่ต่ำกว่าเดิมยังมีเวลาว่างให้ได้ไปสร้างบุญกุศลเพิ่มที่วัดกันอีกต่างหาก

ส่วนเรื่องการเจ็บป่วยของลูกคนเล็กที่เป็นมากมาแต่เดิม พอได้ไปปฏิบัติธรรมกลับมาแล้วอาการของโรคที่หนักกลับหายเป็นอัศจรรย์

พออธิบายได้ว่า เด็กเป็นโรคเกิดจากกรรม มีกรรมดีเป็นชนกกรรมนำมาเกิดเป็นมนุษย์ในครอบครัวที่ค่อนข้างมีฐานะก็จริง แต่ก็มีบาปเก่าตามมาเบียดเบียน ให้มีความพิการใน ช่องปาก ทำให้มีอาการแทรกซ้อนของโรคไซนัส หรืออื่นๆ นี่คืออุปัตถัมภกกรรมฝ่ายชั่วมาตัดรอนชนกกรรมฝ่ายดี

แต่เมื่อทางครอบครัว มีบิดามารดา และตัวเด็กเองร่วมกันบำเพ็ญกุศลใหญ่ ทำทาน รักษาศีล และภาวนากันทั้งบ้าน บุญใหญ่เหล่านี้ย่อมเบียดเบียนกุศลวิบากที่ส่งผลอยู่ ให้อ่อน กำลังกลายเป็นกรรมที่ตามส่งผลไม่ทัน โรคจึงทุเลาลงจนแพทย์ผู้รักษางุนงง

หรืออีกเหตุผลหนึ่ง เมื่อเด็กรู้จักวิธีฝึกหัดภาวนา ทำจิตใจให้สงบ อาการกังวล และความเครียดที่มีอยู่ย่อมลดน้อยลงไป ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานดีขึ้นมาเอง

เรื่องนี้ควรเรียกว่าเป็นบุญของครอบครัวด้วย การเกิดเป็นพ่อแม่ลูกกันนั้น ถือว่ามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน เมื่อต่างคนต่างช่วยกันสร้างบุญกุศล บุญที่เกิดขึ้นจึงมีส่วนช่วย ให้ทุกคนได้รับสิ่งดีๆขึ้นมาพร้อมกัน ลูกหายป่วย พ่อแม่ก็ต้องดีใจ มีความสุขเป็นธรรมดา

ด้วยเหตุนี้ทุกครอบครัว จึงควรชักชวนกันประกอบบุญกุศล หรือคุณงามความดีต่างๆ โดยพร้อมเพรียงกัน ไม่ใช่ปล่อยไปตามเรื่อง ไม่ชักชวนกัน เหมือนพายเรือลำเดียวกัน แต่จ้ำฝีพายคนละทางเรือย่อมไม่สามารถวิ่งไปได้เร็วตามที่ควรจะเป็น


[สารบัญ] [๓๘๖] [๓๘๗] [๓๘๘] [๓๘๙] [๓๙๐] [๓๙๑] [๓๙๒]