คำว่า ร้อยกรอง เป็นคำที่คณะกรรมการสำนักวัฒนธรรมทางวรรณกรรม
ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2485 กำหนดขึ้นใช้เรียกวรรณกรรมที่มีลักษณะบังคับในการแต่ง
มีกำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เฉพาะแบบ เช่น กำหนดจำนวนคำ กำหนดส่งรับสัมผัส
ตามตำแหน่ง กำหนดจำนวนวรรค กำหนดเสียงวรรณยุกต์ กำหนดคำที่มีเสียงหนัก
เบา ที่เรียกว่า คลุ ลหุ เป็นต้น
ลักษณะการเขียนวรรณกรรมร้อยกรองนั้นแตกต่างจากวรรณกรรมร้อยแก้ว
ที่มีการแต่งให้ถูกลักษณะบังคับตามฉันทลักษณ์ และมีการเน้นจินตนาการหรือความ
รู้สึกนึกคิดของผู้ประพันธ์ด้วย
ร้อยกรองแบ่งออกได้ตามลักษณะรูปแบบเป็น 5ประเภท คือ โคลง ฉันท์
กาพย์ กลอน และ ร่าย นอกจากนี้ยังมีการแต่งประสมประสานร้อยกรองบางรูปแบบ
เข้าด้วยกัน เช่น กาพย์ห่อโคลง มีโคลงนำและขยายความด้วยกาพย์ ลิลิต มีรูปแบบ
คำประพันธ์หลายประเภทแต่งรวมกัน ได้แก่ ร่ายสุภาพ โคลงสอง โคลงสาม และโคลง
สี่
การแต่งร้อยกรองให้ถูกต้องตามกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์เป็นที่นิยมมาตั้ง
แต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน แต่ในปัจจุบันนี้มีการแต่งร้อยกรองแนวใหม่ ๆ เกิดขึ้น
ผู้ประพันธ์พอใจที่จะแต่งอย่างอิสระ ไม่ต้องมีกฎเกณฑ์ตายตัว เช่น เขียนร้อยกรอง
ปลอดสัมผัส คือไม่ต้องมีสัมผัสบังคับตามแบบ ร้อยกรองวรรณรูป คือ เรียบเรียง
ถ้อยคำเป็นรูปลักษณ์ต่าง ๆ ตามความพอใจของผู็ประพันธ์ และร้อยกรองที่ผู้ประพันธ์
คิดรูปแบบขึ้นใหม่
สิ่งที่ควรพิจารณษเกี่ยวยกับการอ่านวรรณกรรมร้อยกรอง
การอ่านวรรณกรรมร้อยกรองทุกประเภท ควรพิจารณาในหัวข้อต่อไปนี้
ลักษณะการประพันธ์หรือฉันทลักษณ์ การพิจารณาความถูกต้องด้านรูปแบบของบท
ร้อยกรองเพื่อวิจารณ์ ในปัจจุบันมิได้ถือเป็นเรื่องเคร่งครัดนักแต่ก็ไม่ถึงกับให้
ละเลยฉํนทลักษณ์ไป ดังนั้นบทร้อยกรองที่ดีควรมีความถูกต้องตามฉันทลักษณ์ แต่
มิได้มีความหมายว่าบทร้อยกรองที่มีรูปแบบถูกต้องตามฉันทลักษณ์เท่านั้นที่จะเป็น
Page 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20