การสื่อสารแบบซิงโครนัส

             ข้อแตกต่างระหว่างวงจรส่งข้อมูลอนุกรมแบบซิงโครนัสและอะซิงโครนัสก็คือ ความต่อเนื่องของข้อมูลที่ส่ง ในแบบซิงโครนัสข้อมูลที่ส่งออกมาแบบต่อเนื่อง ไม่มีบิตสตาร์ตหรือสต๊อปหรือแม้กระทั่งบิตพาริตี้ โปรโตคอลที่ใช้ในการส่งแบบซิงโครนัสจึงแตกต่างไปจากโปรโตคอลแบบอะซิงโครนัส มีโปรโตคอลหลายแบบที่ใช้ในการส่งแบบซิงโครนัสดังจะกล่าวต่อไปนี้
            โปรโตคอลไปซิงก์ ( Bisyn Protocol ) Bisyn ย่อมาจาก Binary synchronous communication เป็นผลผลิตของบริษัท IBM Bsisync เป็นโปรโตคอลในระดับดักขระซึ่งหมายหมายความว่าอักขระแต่ละตัวมีขอบเขตที่แน่นอน แต่ละอักขระไม่มีสตาร์ต์บิตหรือสต๊อปบิตเหมือนกับอะซิงโครนัส การซิงโครนัสกระทำกันที่จุดเริ่มต้นของการส่งข้อมูลเลยทีเดียว สถานีส่งจะส่งสัญญาณที่เรียกว่า Leading pad character ไปยังสถานีรับก่อนที่จะเริ่มส่งข้อมูล ตัวอักษรนำ ( Leading pad character ) จะประกอบด้วย 0 และ 1 สลับกันเพื่อให้สถานีรับจัดสัญญาณนาฬิกาให้ตรงกัน นอกจากนั้นก่อนข้อมูลจะส่งออกมาจะต้องมีอักขระที่เรียกว่า syn ตามหลัง pad มาก่อน และสถานีส่งจำเป็นจะต้องบอกความยาวของข้อมูลมาในกลุ่มนี้และเครื่องหมายที่เป็นตัวบอกจุดเริ่มต้นของข้อมูลมาด้วย
            อักขระ syn ในโปรโตคอล Bisyn ทำหน้าที่คล้ายกับบิตเริ่มต้นในอะซิงโครนัส ซึ่งทำหน้าที่ " ปลุก " สถานีรับให้ตื่นมารับข้อมูล ขณะที่สถานีรับกำลังรอรับสัญญาณจากสถานีส่ง เครื่องรับอยู่ในสถานภาพที่เรียกว่า " Hunt " บิตทุกบิตที่ผ่านเข้ามาจะถูกค้นหาอักขระ syn ก่อน เมื่ได้รับอักขระ syn แล้วจึงจะเริ่มนับบิตที่เข้ามาเพื่อจุดเริ่มต้นของสัญญาณ เพื่อป้องกันโอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด อักขระ syn แสดงไว้ใน ตาราง
 
 
 

อักขระ
เลขฐาน 16
( Hex value )
เลขฐาน 10 
( Decimal value )
อธิบาย
Syn
32
22
Synchronous Idle บอกการซิงโครนัส
Pad
55
85
PAD เริ่มต้นของ Frame
Pad
FF
255
PAD บอกท้าย Frame
DLE
10
16
Data Link Escape บอกว่าใช้อักขระที่ตามหลัง
มาในการควบคุม
ENQ
2D
5
Enquiry ขอให้ส่ง
SOH
01
1
Start of Heading เริ่มส่วนหัว
STX
02
2
Start of Text เริ่มต้นข้อความ
ITB
1F
15
End of Intermediate Block หมดสิ้นกลุ่มของข้อมูลระหว่างกลาง
ETB
26
23
End of Transmission Block สิ้นสุดการส่งของกลุ่ม
ETX
03
3
End of Text สิ้นสุดข้อความ

            ไม่มีขอบเขตจำกัดของจำนวนกลุ่มที่จะส่งไปในการส่งแต่ละครั้ง กลุ่มของข้อมูลอาจจะมีส่วนหัวนำหน้า เพื่อบรรยายข้อมูลที่ส่งมา ส่วนที่เป็นข้อมูลจริง ๆ ในสัญญาณ Bisyn มีกฎเกณฑ์ อย่างเกี่ยวกับระบบอะซิงโครนัสนั่นคือ อักขระแต่ละตัวอาจจะใช้ 5, 6, 7 หรือ 8 บิต และอาจจะตามด้วยบิตพาริตี้ ในเครื่องเมนเฟรม IBM รหัสที่ใช้แทนที่จะเป็น ASCII กลับเป็น EBCDIC ซึ่งรหัสควบคุมจะแตกต่างไปจาก ASCII ฉะนั้นในการรับส่งระหว่างเมนเฟรมคอมพิวเตอร์กับไมโครคอมพิวเตอร์จำเป็นต้องให้ไมโครคอมพิวเตอร์รับส่งเป็นแบบ EBCDIC เพื่อให้เข้ากับเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ หน้าที่ของไมโครคอมพิวเตอร์จึงต้องเพิ่มขึ้นมาอีกลักษณะคือการแปลงรหัส EBCDIC และ ASCII
            แต่ละกลุ่มของข้อมูลที่ถูกส่งออกจะได้รับการตรวจสอบความถูกต้องที่ฝ่ายรับ โดย Block Check Character ( BCC ) ซึ่งเป็นกลุ่มของตัวอักษรสำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง โดยอาจจะมีวิธีในการตรวจสอบได้ 3 วิธีด้วยกันคือ

            1.  VRC หรือ Vertical Redundancy Checking
            2.  LRC หรือ Longitudinal Redundancy Checking
            3.  CRC หรือ Cyclic Redundancy Checking
 
 


รูปที่ 8



หน้า 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
| home | menu | เทคโนโลยี |

1 : 08 : 2541