![]() |
||||||||||
|
![]() ![]() เกย์ กะเทย ทอม ดี้ ปกติ...หรือวิปริต ...ดูเหมือนว่าขณะนี้ได้รับความสนใจและการตัดสินจากสังคมมากมาย ไม่ว่าจะในด้านบวกหรือด้านลบ ทั้งในฐานะของผู้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ ตัวตลกหรือตัวเสริมรสในละครโทรทัศน์ ข่าวโหดตามสื่อ หรือแม้แต่การได้รับความสนใจจากภาครัฐ คำถามที่ตามมาคือ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น โดยความเห็นส่วนตัว ผมมองว่าคนที่เป็นเพศที่สามอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนักในสังคม เพียงแต่การปรากฏตัวต่อสาธารณชนนั้นมากขึ้น และสีสันที่ปรากฏก็ดูรุนแรงขึ้น ทำให้เสมือนว่าทวีจำนวนมากขึ้น (ซึ่งแน่นอนปริมาณคงมากขึ้นตามอัตราสัดส่วนประชากรที่เพิ่มขึ้น แต่คงไม่ได้ทวีจำนวนแบบยีสต์ประเภทแตกหนึ่งเป็นสอง จากสองเป็นสี่ เป็นแปด โอ๊ย....ไม่งั้นใน 20 ปี ประชากรเพศที่สามล้นโลกแน่นอน.....เอ..แต่คงไม่ล้น เพราะไม่มีประชากรใหม่กำเนิดขึ้น) ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เอาเป็นว่ามาทำความรู้จัก และเข้าใจชาวเหล่าเพศที่สามให้มากขึ้นดีกว่า ก่อนที่จะพูดคุยกันผมว่าเรามารู้จักความหมายกันก่อนดีมั้ย ขออนุญาตพูดถึงความหมายที่เป็นทางการนะครับ (แปลว่า นิยามตามกระแสเช่น ตุ๊ด แต๋ว ฉิ่ง อีแอบ หรือ กะเทยควาย ฯจะไม่รวมอยู่ในนี้) Homosexualism : Homosexual มาจากภาษากรีกนะครับ มีรากศัพท์ว่า Homos แปลว่าเหมือนกัน อย่างเดียวกัน ไม่ใช่มาจากภาษาละติน Homo ที่แปลว่า ผู้ชาย ตามที่บางคนเข้าใจ เพราะรักร่วมเพศเกิดขึ้นได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง หมายถึง บุคคลที่มีความต้องการทางเพศกับบุคคลที่เป็นเพศเดียวกับตน ต่อให้กำลังมีกิจกรรมทางเพศกับบุคคลต่างเพศอยู่ก็ตามที แต่อดมีจิตคิดประหวัดถึงบุคคลเพศเดียวกันไม่ได้ โดยกลุ่มนี้ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะตัด ต่อ เฉาะ เฉือน ให้เป็นเพศตรงข้ามนะครับ เขาจะพอใจในเพศที่ตนเองเป็นอยู่ เพียงแต่ต้องการมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเท่านั้นเอง ความหมายนี้จึงรวมเกย์และเลสเบี้ยนด้วย ส่วนพวกที่มีกิจกรรมทางเพศกับเพศเดียวกันแบบชั่วคราว เช่น ตอนวัยรุ่นคุณอาจเคยร่วมวงสำเร็จความใคร่กับเพื่อนๆ โดยอาจผลัดกันจับ (และคุณไม่ได้ติดอกติดใจอาลัยอาวรณ์กับพฤติกรรมดังกล่าว) หรือคุณดันหลุดไปในที่ที่มีแต่บุคคลเพศเดียวกัน เช่น เรือแตก ติดเกาะ แล้วดันทนแรงอัดอั้นทางเพศไม่ไหว ใช้เพื่อนระบายอารมณ์ทางเพศ ก็จัดว่าไม่เป็นกลุ่มเพศที่สามนะครับ Hermarphrodite : กลุ่มนี้หมายถึง กะเทยแท้ๆ ประเภทที่มีระบบสืบพันธุ์ทั้งสองเพศในคนเดียวกันนั่นแหละครับ เช่น อาจมีอวัยวะเพศภายนอกเป็นลักษณะเพศหญิง แต่แอบมีอัณฑะอยู่ในตัวด้วย เป็นของแถมที่ไม่ต้องการ Transexualism : ก็คือน้องๆ ที่เรารู้จักในนามกะเทยนั่นเอง มีความรู้สึกไม่พอใจในเพศที่ตนเองเป็นอยู่ ต้องการเปลี่ยนแปลงเป็นเพศตรงข้าม ยอมรับตนเองในฐานะที่เป็นเพศตรงข้าม Transvestism : ประเภทนี้เราพบในภาพยนตร์หลายเรื่อง เป็นกลุ่มที่มีความต้องการทางเพศหรือมีความสุขเมื่อได้สวมใส่เสื้อผ้าของเพศตรงข้าม แต่ยังพอใจในการมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม ไม่มีความคิดที่จะมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเลย เช่น ผู้ชายบางคนที่ชอบแต่งตัวชุดสตรีแล้วช่วยกระตุ้นให้มีความรู้สึกทางเพศที่คึกคักขึ้น โดยยังอยากมีกิจกรรมทางเพศกับผู้หญิงเท่านั้น แต่ตามแนวความคิดทางจิตเวชศาสตร์ปัจจุบันถือว่า หากมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ สนใจเพศเดียวกัน โดยที่อายุผู้ที่มีพฤติกรรมนั้นยังไม่ถึง 18 ปี จัดเป็นภาวะผิดปกติทางจิตที่ควรได้รับการแก้ไข (Gender Identity Disorder --- ส่วนแก้ได้หรือไม่ ต้องประเมินกันอีกที) แต่ถ้าอายุเกิน 18 ปี (ฝรั่งถือว่าโตแล้ว เลี้ยงตัวเองได้แล้ว) ไม่จัดว่าเป็นภาวะผิดปกติทางเพศ แต่จัดเป็นกลุ่มบุคคลปกติ (Normal Variation) ที่มีความแตกต่างทางรสนิยม(ทางเพศ) 2. จริงใจ ไม่สำส่อน ไม่มั่ว ไม่พยายามกลายพันธุ์เป็นสัตว์ตระกูลหน่อ (พยายามคง สภาพของสายพันธุ์เดิมไว้) กลุ่มหนึ่งของเพศที่สามนั้นโหยหาและปรารถนาในความรัก แต่แน่ใจหรือครับว่าการที่พยายามไปวิ่งเสาะแสวงหาหรือทำตัวส่ำส่อนนั้นจะได้มาซึ่งสิ่งที่คุณปรารถนา 3. รู้จักป้องกันตนเองจากปวงโรคภัยทั้งหลาย และคำครหาของผู้คน ประการนี้จำเป็น ครับ กรุณาใช้ถุงยางอนามัย (ซึ่งมีขายกระจายเต็มบ้านเต็มเมืองแล้ว) เพื่อสุขภาพและชีวิตของคุณเอง อีกทั้งควรป้องกันตนเองจากการนินทาว่าร้าย (โดยเฉพาะการด่าซึ่งๆ หน้า เพราะถ้าลับหลังเราก็ไม่ได้ยินแล้ว) มียันต์เกราะคุ้มกันตัวได้แก่ การประพฤติดี พูดดี คิดดี ครับ (ไม่จำเป็นต้องรักษาเอกลักษณ์ว่า เกย์กะเทยต้องปากจัด ทอมต้องดุดันเข้าไว้) 4. รัก ผูกพัน และห่วงใยครอบครัวเสมอ ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาในแนวสันโดษ รันทด หดหู่ หรือเศร้าสร้อยครับ ปกติแล้วครอบครัวนั้นพร้อมที่จะรักและยอมรับในตัวคุณเสมอ เพียงแต่คุณต้องไม่วิ่งหนี ต้องเข้าใจครอบครัวด้วยเช่นกัน โดยการเคารพและรักษาเกียรติหรือภาพพจน์ให้ครอบครัวด้วย รวมทั้งการสร้างความมั่นใจในความเป็นคนดี มีความสามารถให้แก่ครอบครัวของคุณ 5. ไม่หลอกลวง ไม่มอมเมา ไม่ฉวยโอกาส ไม่สร้างความรำคาญ รวมทั้งไม่ลวนลาม ไม่ปล้ำ ไม่หื่น กับบุคลที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ บุคคลที่เขาเป็นเพศปกติ เยาวชน(อันนี้ขอเน้น ไม่ต้องมาอ้างเลยว่า เด็กยั่ว เด็กเป็น หรือเด็กมีแนวโน้ม) กรุณาควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพื่ออนาคตของบุคคลอื่น ถ้าเด็กจะเป็นให้เขาเติบโตและเป็นด้วยตัวตนของเขาเอง ไม่ใช่เกิดจากการยั่วยุ ลวนลาม หรือหลอกล่อของคุณ (ไม่งั้น...แช่งด้วยเอ้า...ให้เป็นเกย์เป็นกะเทยที่ไม่สวย ไม่สง่า ทั้งแห้วทั้งนกไปอีกหลายชาติด้วยนะ) 6. รักษามารยาทที่ถูกต้อง และยอมรับในความคิดเห็น ตลอดจนการดำเนินชีวิตของผู้อื่น เพราะในชีวิตของคุณนั้นจะต้องพานพบผู้คนเพศปกติมากมาย คุณก็ต้องรู้จักรักษามารยาทและความสัมพันธ์ที่ดีด้วย (ไม่ใช่พอเห็นเป็นสเป็คปุ๊บ! กะเคลมอย่างเดียว คุณจะกลายเป็นเกย์กะเทยชนิดไข้หวัดนกทันที คือไม่มีคนอยากเข้าใกล้) 7. รับฟังคำตักเตือนที่มีเหตุผล โดยนำมาปรับปรุงแก้ไขด้วยใจที่เปิดกว้าง แน่นอนครับ เมื่อเราอยู่ในสังคมก็จะมีคนเป็นห่วงเป็นใย ถ้าคุณเจอคนที่เตือนด้วยความหวังดี (สังคมปัจจุบันบางพื้นที่หายากแล้วนะคนประเภทนี้) ก็รับฟัง ทบทวน และพิจารณาปรับปรุงแก้ไข อย่ารีบโกรธและปิดใจตนเองเสียก่อน คุณอาจพลาดโอกาสที่ดีก็ได้ 8. นำศักยภาพที่มีแสดงออกอย่างเต็มที่ ไม่จำเป็นที่คุณจะปกปิดความสามารถหรือศักยภาพที่มีในตัวคุณเลย แต่กรุณาใช้ "วิจารณญาณ" ไตร่ตรอง และ "สติ" กำกับเสมอ แยกให้ออกนะครับ ระหว่างความสามารถและศักยภาพ กับความเป็นเพศที่สาม มันคนละส่วนกัน 2. หากคุณคือเพื่อน รักษาขอบเขตหรือจุดยืนของตัวเองให้ชัดเจน ยอมรับและให้ความสำคัญในฐานะ "มิตรภาพ" แห่งเพื่อน เป็นสิ่งที่จำเป็นครับ ไม่จำเป็นต้องกลายสภาพเป็น "สาวแตก" ร่วมด้วย หรือยอมมีรสนิยมร่วมไปเลย (ยกเว้นคุณมีแนวโน้นอยู่แล้ว) เพราะในความเป็น "เพื่อน" ไม่มีการจำแนกเพศแน่นอน 3. สนับสนุนให้กำลังใจในแนวทางที่ถูกต้องเหมาะสม หาก "เขา" พยายามเดินในแนวทางที่เหมาะที่ควร ให้แรงใจแก่เขาเถิดครับ เพื่อให้เขาก้าวเดินต่อไป หากเป็นคุณ ไม่ว่าจะในฐานะของผู้ที่เป็นเพศที่สามหรือผู้ใกล้ชิด คุณอยากให้บทสรุปจบลงตรงไหน |