Home

สื่อยุคใหม่กับ Gen -Y

พี่ๆรู้มั้ยว่า ที่บุชชนะเลือกตั้งเพราะว่าคนอเมริกันชอบล่อร่ามากกว่าเมียเคอร์รี่”

แหม เด็กสมัยนี้มันเวิลด์ไวด์จริงๆ ค่ะ มีคนพูดว่าเด็ก Generation Y เนี่ย ฉลาดรอบรู้ ใครทำอะไร มีอะไรเกิดขึ้นที่ไหนในโลกนี้ เขารู้หมด
ที่จริงก็ไม่น่าแปลกใจหรอก เพราะเราอยู่กับสื่อวันละเกือบ 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะวันหยุดละแทบไม่ได้ลุกจากหน้าจอไปไหน ไม่ว่าจอทีวีหรือจะคอมพิวเตอร์...
ยุคนี้เป็นยุคของสื่อครองโลก ชีวิตประจำวันของเราแวดล้อมด้วยการสื่อสารสมัยใหม่ไฮเทค ข้อดีของมันทำให้การติดต่อสื่อสาร รับรู้ข้อมูล วิทยาการต่างๆ จากอีกซีกโลกหนึ่งอย่างรวดเร็วทันใจ
แต่ทว่า “เหรียญมีสองด้านเสมอ” อะไรที่ดีมีประโยชน์ก็มักจะมีข้อเสียตามมาด้วย เรื่องสื่อนี่ก็หนีไม่พ้นเหมือนกันค่ะน้องๆ

พี่ขอหยิบ diary online ของสาวน้อยวัยทีนคนหนึ่งมาให้เห็นภาพกิจวัตรประจำวันที่แวดล้อมไปด้วยสื่อ เพื่อให้เห็นตัวอย่างก็แล้วกันนะคะ
ตื่น 10.00 น. (เมื่อคืนเล่นเกมนอนดึก) ยังไม่ทันจะทำอะไร นึกขึ้นได้ว่าเมื่อวานยังมีเรื่องเมาท์ไม่เสร็จ โทรมือถือถึงเพื่อนเมาท์เรื่องคาใจ... อ๊ะ เปลืองเงินเติม บอกเพื่อนเดี๋ยวแช็ตกันต่อดีกว่า เปิดอินเทอร์เน็ต SMS ซะอีกเป็นชั่วโมง...รู้ป่าว เจโลไปลดน้ำหนักมาก... ดูเรียลลิตี้ยายปารีสรึเปล่า... เขาว่าบริตนีย์ทำนม... อารอนคาร์เตอร์หล่อชะมัด... เพื่อนบอกให้เปิดทีวีด้วย ตอนนี้ MTV กำลังฉายมิวสิกของเอมิเนม... คิกคัก คิกคัก... ถึงบ่ายสาม พักหาอะไรกินหน่อย 5 โมงเย็นเริ่มต้นหย่อนอารมณ์กับเกมออนไลน์เกมใหม่... พ่อห้ามเรียก แม่ห้ามบ่น กำลังสะสมคะแนนทำแต้ม คร่ำเคร่ง คร่ำเคร่ง... เที่ยงคืน หลับกันหมดทั้งบ้าน เล่นต่อสบายอุรา... ตีสาม...ไม่ไหวแล้วนอนดีฝ่า พรุ่งนี้ทำแต้มต่อ

ตัวอย่างนี้อาจจะยังไม่มีปรากฏในน้องๆวัยพรีทีนบางคนนะคะ น้องๆบางคนอาจจะติดเกม ติดทีวี เป็นอย่างๆ ไป แต่ถึงวัยทีนเมื่อไหร่ จะครบวงจรการสื่อสาร เพราะเขามีเครือข่ายที่กว้างขวางมากขึ้น
อยากจะเตือนใจน้องๆไว้นะคะว่าถึงแม้ในวัยน้องๆมันจะเป็นวัยอยากรู้อยากเห็น อยากจะออกไปดูโลกกว้าง ไปแสวงหาสิ่งที่มันดึงดูดใจกว่าการนั่งดูการ์ตูนสุดสาครจ๊ะทิงจาอยู่บ้านก็ตาม
แต่อย่าลืมไปเสียว่าอะไรที่ว่าน่าดึงดูดใจนั้นมันมักจะมีพิษภัยซ่อนอยู่ด้วยเสมอนะคะน้องๆ มาดูกันว่าด้านมืดของเวิลด์ไวด์มีพิษภัยอะไรแฝงอยู่บ้าง

ล่อให้บริโภค สิ่งที่สอดแทรกมากับสื่อเสมอ คือโฆษณาขายสินค้าค่ะ ซึ่งน้องๆๆ ส่วนใหญ่บอกว่าชอบดูซะด้วย เพราะโฆษณานั้นเขาลงทุนวิจัยมาแล้วว่าจะทำโฆษณาอย่างไรให้เตะตาติดใจคนดู (ถึงกับซื้อสินค้าเขาด้วย) แล้วงานวิจัยของไทยเรานี่เอง พบว่าโฆษณาที่เป็นสปอนเซอร์ในรายการสำหรับเด็ก หรือวัยรุ่นของเราเป็นขนมกรุบกรอบซะมาก ผลน่ะหรือคะ เด็กไทยของเราก็เลยบริโภคขนมกรุบกรอบเป็นเงีนปีละเท่ากับงบประมาณของกระทรวง 6 กระทรวงทีเดียว

เสนอเซ็กซ์และความรุนแรง มันอาจจะเป็นภาพชินตา และถูกอ้างว่าเป็นงานศิลปะ ภาพนักร้อง แต่งตัว ร้องเพลงด้วยท่าทางเซ็กซี่ในมิวสิกวิดีโอ ฉากเลิฟซีนในภาพยนต์ที่มีตั้งแต่จูบปากกันดูดดื่มถึงลีลาการร่วมรักหรือภาพปกนิตยสารและแฟชั่นที่ไม่ค่อยแตกต่างจากหนังสือปลุกใจ รวมถึงฉากสยองขวัญ ฟันกันหัวขาดกระเด็น เลือดพุ่งกระฉูด เกมออนไลน์ ไล่ฆ่าฟันฝ่ายตรงข้ามอย่างหนำใจ
พอมีคนออกมาบอกว่าเด็กๆ ดูสื่อพวกนี้แล้วจะทำให้ก้าวร้าว เด็กเจนฯ วายอาจจะร้องว่าแม่ๆ ป้าๆ คิดมากไปรึเปล่า มันเป็นเรื่องของการใช้เทคนิคไฮเทคสมัยใหม่เท่านั้นเอง ... แต่พี่เอง ก็ขอยืมงานวิจัยมากมายจากสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ มายืนยันค่ะ เพราะจากการที่เขาเก็บข้อมูลมากกว่า 30 ปี พบว่ากาเสพสื่อที่ก้าวร้าวรุนแรงนำไปสู่ทัศนคติ ค่านิยม พฤติกรรมที่นิยมความก้าวร้าวรุนแรงได้จริงๆ และถ้าเสพสื่อที่ก้าวร้าวเป็นเวลานาน จะทำให้กลายเป็นคนอารมณ์รุนแรงได้ง่าย

ให้คุณค่า “ความดัง” มากกว่า “ความดี” งานวิจัยดังกล่าวยังบอกอีกว่า คนที่ติดการเสพสื่อ นานไปจะได้รับอิทธิพลในเรื่องค่านิยมในเรื่องความโลภ อยากได้ใคร่ดี หยาบกระด้าง เห็นแก่ตัว อยากดัง เพราะสื่อส่วนใหญ่มักนำเสนอเรื่องราวของคนดัง ข่าวที่ฮือฮา รายการประกวดแข่งขันที่นำมาซึ่งชื่อเสียงเงินทองในชั่วพริบตา

ทำให้เสพติด เสียเวลา เรื่องแบบนี้ไม่ต้องทำวิจัยก็รู้ดีค่ะ เพราะเมื่อไรที่น้องๆได้ลงนั่งหน้าจอไม่ว่าจอทีวีหรือจอคอมพิวเตอร์ ยากที่แซะให้เขาลุกไปทำอย่างอื่น เพราะสื่อเร้าอารมณ์ให้ติดตาม อะดรีนาลินหลั่ง เกิดการเสพติดอยากดูอยากเสพอย่างต่อเนื่อง น้องๆจึงเสียเวลาไปกับการเสพสื่อวันละหลายชั่วโมง แทนที่จะใช้เวลาไปในการพัฒนาทักษะด้านอื่นที่

ทำให้สมาธิสั้น เรื่องนี้มีงานวิจัยยืนยันเช่นกันค่ะ งานวิจัยของมหาวิทยาลัยเยล ติดตามเด็กอเมริกันที่ชอบดูทีวีเป็นเวลา 20 ปี พบว่าเด็กที่ดูทีวีมากๆ โตขึ้นจะเป็นคนไม่ค่อยมีจินตนาการ ขาดการพักผ่อน ก้าวร้าวมากกว่าคนที่ไม่ค่อยดูทีวี ไม่ค่อยมีสมาธิ ยิ่งกว่านั้นในหนังสือ Culture Jam : The Uncooling America วิเคราะห์ไว้ว่า รายการทีวีสมัยใหม่ที่นิยมนำเสนอรายการแบบฉับไวตัดภาพไปมาเป็นช่วงสั้นๆ ทั้งมุมกล้อง เนื้อหา เพลงประกอบ และโฆษณา อย่างรายการของ MTV ซึ่งมีการตัดภาพไปมา 60 ฉาก/นาที เป็นการกระตุ้นคนดูให้หลั่งฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความสนใจและเกิดการเสพติด “ความเร็ว” ซึ่งในโลกจริงเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตของคนเราไม่ได้เดขึ้นหรือสัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็วเหมือนในฉากภาพยนตร์หรือมิวสิกวิดีโอ หรือในการคลิกเมาท์คอมพิวเตอร์ การเสพติดความเร็วนี้ทำให้เด็กยุคใหม่สมาธิสั้น รอคอยไม่เป็น ต้องการผลสำเร็จโดยไม่พยายาม

น้องๆคงเห็นกันแล้วนะคะว่าสื่อเนี่ยมีบทบาทอิทธิพลต่อเรามากแค่ไหน อ่านแล้วลองไปคิดๆดูนะคะว่าสื่อเนี่ยตอบสอนงความต้องการของเรา หรือเราตกเป็นทาสสื่อกันแน่

<< กลับ

ถ้ามีเพศสัมพันธ์จะมีผลกระทบต่อสุขภาพหรือไม่?
ใช้โรลออนแล้วเป็นมะเร็งเต้านม!
เกย์ กะเทย ทอม ดี้ ปกติ...หรือวิปริต
ปัญหาคันๆของผู้หญิง
อยากสวย
มีต่อ >>
สื่อยุคใหม่กับ Gen -Y
อิทธิพลสื่อลามก ทำให้เซ็กซ์เลวร้าย
กล้าเกินงามตามอย่างสื่อ
มีต่อ >>
จะปฏิเสธเขายังไงดี
ฝันเปียกจะเกิดขึ้นกับผู้ชายทุกคนไหม
แฟนผมบริสุทธิ์หรือเปล่า จะรู้ได้ไงครับ
ถ้าใช้ผ้าอนามัยชนิดสอดจะทำให้สูญเสียเยื่อพรหมจารีไปไหมคะ?
ขลิบดีมั้ยครับ
มีต่อ >>
(โดน) ทำท้อง ต้องทำแท้ง
อย่าคิดว่าการโดนลวนลามเป็นเรื่องไกลตัว เราจะบอกให้คุณรู้....ว่าคุณก็มีสิทธิ
ถูกนักร้องคนโปรดวางยา พาขึ้นเตียง
ซินเดอเรลล่าบนโลกแห่งความจริง
ความในใจของผู้ชายเจ้าชู้
มีต่อ >>
ของขวัญห่วยแตกตลอดกาลสำหรับชายหนุ่ม
วิธีสังเกตอาการสาวแตกของแฟนหนุ่ม
เรื่องที่แฟนหนุ่มอาจโกหกคุณ
สถานที่เดทแบบไม่จำเจ
เรื่องที่แฟนสาวอาจโกหกคุณ
มีต่อ >>