ffdjnรวมลิงค์เว็บภาษาไทย

Homepage

คำนาม

คำนิยาม

คำนาม 5 ชนิด

คำนามที่ได้จาก

ภาษาบาลีและสันสกฤต

คำสรรพนาม

คำนิยาม

คำสรรพนาม 6 ชนิด

คำกริยา

คำนิยาม

คำกริยา 4 ชนิด

คำวิเศษณ์

คำนิยาม

คำวิเศษณ์ 10 ชนิด

คำบุพบท

คำนิยาม

บุพบทที่ไม่เชื่อมกับบทอื่น

บุพบทที่เชื่อมกับบทอื่น

คำสันธาน

คำนิยาม

คำสันธานตามลักษณะการเชื่อม

คำอุทาน

คำนิยาม

อุทานบอกอาการ

อุทานเสริมบท

หน้าที่เกี่ยวข้องของคำ

ลักษณะและระเบียบของคำ

รวมเว็บภาษาไทย

แบบฝึกหัด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำกริยา

ชนิดและหน้าที่ของคำกริยา

ดดดดคำกริยา คือคำที่แสดงอาการ หรือบอกสภาพของนามหรือสรรพนาม

ดดดดชนิดของคำกริยา คำกริยาแบ่งเป็น 4 ชนิด ได้แก่

1. กริยาไม่ต้องมีกรรม ( อกรรมกริยา ) กริยาชนิดนี้แสดงอาการที่มีความบริบูรณ์แล้ว เช่น

ดดดดดด- เด็ก หัวเราะดดดดดดดดดดดดดด - ไก่ ขัน

ดดดดดด- น้อง นอนดดดดดดดดดดดดดดด- นักกีฬา วิ่ง

หากมีคำมาตามท้าย กริยาชนิดนี้ คำนั้นจะทำหน้าที่ขยาย ไม่ใช่กรรม เช่น

ดดดดดด- เด็ก หัวเราะ เสียงดังดดดดดดดดด - ไก่ ขัน น่าฟัง

ดดดดดด- น้อง นอน เปลดดดดดดดดดดดดด - นักกีฬา วิ่ง เร็ว

2. กริยามีกรรม ( สกรรมกริยา ) กริยาชนิดนี้ยังขาดความสมบูรณ์ในตนเอง ต้องมีนามหรือสรรพนามมารับข้างท้ายจึงจะได้ความครบถ้วน เช่น

ดดดดดด- เด็ก กิน ดดดดดดดดดดดดดดดดด- เขา เห็น

ดดดดดด- แม่ครัว ซื้อดดดดดดดดดดดดดดด - ฉัน ชอบ

ดดดดประโยคข้างต้น ยังขาดความสมบูรณ์ เพราะกริยาข้างต้นทำให้ผู้อ่านสงสัยว่า กินอะไร, เห็นอะไร, ซื้ออะไร, ชอบอะไร หากมคำดังนี้ในใจ แสดงว่ากริยานั้นต้องมีกรรมมารับข้างท้าย เช่น

ดดดดดด- เด็ก กิน ขนม ดดดดดดดดดดดดดร- เขา เห็น ฉัน

ดดดดดด- แม่ครัว ซื้อ ปลาดดดดดดดดดดดด - ฉัน ชอบ เธอ

ดดดดคำนามและสรรพนาม ที่อยู่หลังกริยาชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค

3. กริยาอาศัยส่วนเติมเต็ม ( วิกตรรถกริยา ) คำกริยาชนิดนี้ต้องมีนามหรือสรรพนามมารับข้างท้ายจึงจะได้ความสมบูรณ์ แต่คำเหล่านั้นไม่ใช่กรรม กริยาชนิดนี้มีไม่มากควรจดจำ ได้รับ “ เป็น เหมือน คล้าย เท่า คือ ”

ดดดดดด- คุณป้าของฉัน เป็น ครู ดดดดดดรดร- หนังสือเล่นนั้น เหมือน เล่มนี้

ดดดดดด- พจนีย์ คล้าย เธอ ดดดดดดดดดดดด- คะแนนสอบของสุพจน์ เท่า ฉัน

ดดดดดด- ความสัตย์ คือ เครื่องหมายของคนดี

ดดดดข้อสังเกต ถ้าพิจารณาจากประโยคจะต้องดูคำกริยาเป็นสำคัญ ถ้ามีกริยาตัวอื่นอยู่ด้วย คำ “ เป็น เหมือน คล้าย เท่า คือ ” อาจจะไม่ใช่กริยา เช่น

ดดดดดด- เขาทำงาน เหมือน เครื่องจักร

ดดดดประโยคนี้ มี “ ทำ ” เป็นกริยา “ เหมือน ” เป็นคำขยาย “ เครื่องขยาย ” จึงไม่ใช่สาวนเติมเต็ม

4. คำช่วยกริยา ( กริยานุเคราะห์ ) เป็นคำกริยาที่ช่วยให้กริยาแท้มีความชัดเจนขึ้น แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ

ก ) อยู่หน้ากริยา เช่น คง, คงจะ, คงต้อง, ควร, ควรจะ, เคย, เคย...แล้ว, จง, จะ, จะต้อง, ช่วย, ได้, ได้...แล้ว, ถูก, น่าจะ, น่าจะต้อง, โปรด ฯลฯ เช่น

ดดดดดด-ฝน คงจะ ตก ดดดดดดดดดดดดดดด- เขา ควรจะ มา แล้ว

ดดดดดด- คุณพ่อ จะต้อง ไปต่างจังหวัด ดดรดร- เด็ก น่าจะ นอนตั้งแต่หัวค่ำ

ข ) อยู่ท้ายประโยคที่ใช้พูด เพื่อเสริมความให้ชัดเจนขึ้น ได้แก่ ซิ, ซะ, นะ, น่ะ, ล่ะ, ละนะ, เถิด, สิ, ดอก, หรอก ฯลฯ เช่น

ดดดดดด- เธอมาหาฉันหน่อย นะ ดดดดดดดดด- เธอมากินข้าว สิ

ดดดดดด- ฉันไป ละนะดดดดดดดดดดดดดดด - ฉันไม่ซื้อขนม หรอก

ดดดดข้อสังเกต คำช่วยกริยานี้ สามารถนำออกจากประโยคได้โดยไม่ทำให้ประโยคขาดความสมบูรณ์ แต่อาจขาดความชัดเจน ( เฉพาะในชุด ก )

ดดดดหน้าที่ของคำกริยา คำกริยามีหน้าที่ดังนี้

1. เป็นตัวแสดงในภาคแสดงของประโยค ถือเป็นหน้าที่หลักของคำกริยา ประโยคจะมีความสมบูรณ์ได้ต้องมีกริยา การสังเกตว่าข้อความหนึ่งจะมีกี่ประโยคก็ดูจากกริยาเป็นหลัก เช่น

ดดดดดด- แม่ ซื้อ ขนมที่แม่ค้า ทำ เองดดดดดร- แม่ ซื้อ ขนมที่ร้านปากซอยหน้าบ้าน

ดดดดจะเห็นว่าประโยคข้างต้นมีกริยาไม่เท้ากัน ประโยคที่มีกริยาตัวเดียว เป็นประโยคความเดียว ( ยกเว้นประโยคที่มีสันธานบางคำมาเชื่อม ) แต่ถ้ามีกริยามากกว่าหนึ่งตัว ประโยคนั้นอาจเป็นประโยคความรวม หรือประโยคความซ้อน

2. ทำหน้าที่ขยายนาม เช่น

ดดดดดด- คนพิการนั่งรถ เข็น (“ เข็น ” เป็นกริยา ขยาย รถ )

ดดดดดด- คุณรัตนาทำดอกไม้ ประดิษฐ์ (“ ประดิษฐ์ ” เป็นกริยา ขยาย ดอกไม้ )

ดดดดดด- ฉันต้องนั่งเก้าอี้ เสริม (“ เสริม ” เป็นกริยา ขยาย เก้าอี้ )

ดดดดดด- เขาซื้อบ้าน จัดสรร ในซอยนี้ (“ จัดสรร ” เป็นกริยา ขยาย บ้าน )

3. ทำหน้าที่ขยายกริยา เช่น

ดดดดดด- แม่นั่ง มองลูกๆดดดดดดดดดดดดด - คุณตาเดิน ดูต้นไม้

ดดดดดด- ฉันนอน เล่นดดดดดดดดดดดดดดด - เขายืน จับราวบันได

2. ทำหน้าที่ขยายนาม เช่น

ดดดดดด- คนพิการนั่งรถ เข็น (“ เข็น ” เป็นกริยา ขยาย รถ )

ดดดดดด- คุณรัตนาทำดอกไม้ ประดิษฐ์ (“ ประดิษฐ์ ” เป็นกริยา ขยาย ดอกไม้ )

ดดดดดด- ฉันต้องนั่งเก้าอี้ เสริม (“ เสริม ” เป็นกริยา ขยาย เก้าอี้ )

ดดดดดด- เขาซื้อบ้าน จัดสรร ในซอยนี้ (“ จัดสรร ” เป็นกริยา ขยาย บ้าน )

3. ทำหน้าที่ขยายกริยา เช่น

ดดดดดด- แม่นั่ง มองลูกๆดดดดดดดดดดดดด - คุณตาเดิน ดูต้นไม้

ดดดดดด- ฉันนอน เล่น ดดดดดดดดดดดดดดด- เขายืน จับราวบันได

ดดดดข้อสังเกต 1 ) คำที่พิมพ์ตัวเน้นทุกคำเป็นกริยาที่มาขยายกริยาตัวหน้า

2 ) คำกริยาข้างหน้าต้องเป็นกริยาไม่ต้องมีกรรมมารับเสมอ

3 ) คำกริยาที่มาขยายหากเป็นกริยามีกรรมส่วนขยายจะต้องมาพร้อมกริยาที่ขยายด้วย เช่น มองลูกๆ, ดูต้นไม้, จับราวบันได

4. ) คำขยายกริยา สามารถนำออกจากประโยคได้โดยประโยคยังมีความสมบูรณ์

4. ทำหน้าที่เหมือนคำนาม กริยาที่ทำหน้าที่เหมือนคำนาม คือ เป็นประธาน หรือเป็นกรรมของประโยค เช่น

ดดดดดด- ออกกำลังกาย ทุกวันเป็นสิ่งที่ดี ดดดด- ฉันชอบ เล่นกีฬา

ดดดดดด- อ่านหนังสือ ช่วยให้ฉลาดดดดดดดดด - แม่ชอบ ทำกับข้าว

ดดดดข้อสังเกต คำกริยาชนิดนี้คือคำกริยาที่ละ “ การ ” ไว้ หากเราเติม “ การ ” ลงหน้าคำ เป็น “ การออกกำลังการ ” คำนั้นจะเป็นนามบอกอาการ เพราะฉะนั้นจึงทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมของประโยคได้เหมือนคำนามนั้นเอง

ดดดดข้อสังเกต 1 ) คำที่พิมพ์ตัวเน้นทุกคำเป็นกริยาที่มาขยายกริยาตัวหน้า

2 ) คำกริยาข้างหน้าต้องเป็นกริยาไม่ต้องมีกรรมมารับเสมอ

3 ) คำกริยาที่มาขยายหากเป็นกริยามีกรรมส่วนขยายจะต้องมาพร้อมกริยาที่ขยายด้วย เช่น มองลูกๆ, ดูต้นไม้, จับราวบันได

4. ) คำขยายกริยา สามารถนำออกจากประโยคได้โดยประโยคยังมีความสมบูรณ์

4. ทำหน้าที่เหมือนคำนาม กริยาที่ทำหน้าที่เหมือนคำนาม คือ เป็นประธาน หรือเป็นกรรมของประโยค เช่น

ดดดดดด- ออกกำลังกาย ทุกวันเป็นสิ่งที่ดีดดดด - ฉันชอบ เล่นกีฬา

ดดดดดด- อ่านหนังสือ ช่วยให้ฉลาด ดดดดดดดร- แม่ชอบ ทำกับข้าว

ดดดดข้อสังเกต คำกริยาชนิดนี้คือคำกริยาที่ละ “ การ ” ไว้ หากเราเติม “ การ ” ลงหน้าคำ เป็น “ การออกกำลังการ ” คำนั้นจะเป็นนามบอกอาการ เพราะฉะนั้นจึงทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมของประโยคได้เหมือนคำนามนั้นเอง

กลับสู่ด้านบน กลับสู่หน้าแรก