ฟิสิกส์
ไฟฟ้ากระแสสลับ |
|
ความต่างศักย์กระแสสลับ Vm = ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงสุด (V)
t = เวลาขณะใดขณะหนึ่ง (s)
f = ความถี่ (Hz) T = คาบ (s) Im = ค่ากระแสไฟฟ้าสูงสุด (A) I = ค่ายังผลหรือค่ามิเตอร์ของกระแส วงจรตัวต้านทาน กระแส IR จะมีเฟสตรงกับ VR IR = กระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวต้านทาน (A) R = ค่าความต้านทาน VR = ค่าความต่างศักย์ระหว่างปลายตัวต้านทาน
Vm = ค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าสูงสุด วงจรตัวเก็บประจุ กระแสไฟฟ้า IC มีเฟสนำหน้าความต่างศักย์ VC อยู่ IC = กระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวเก็บประจุ C = ค่าความจุของตัวเก็บประจุ (ฟารัด) VC = ค่าความต่างศักย์ระหว่างปลายตัวเก็บประจุ (V) XC = ความต้านทานเชิงความจุ
วงจรความเหนี่ยวนำ กระแส IL จะมีเฟสตามหลังความต่างศักย์ VL อยู่ IL = ค่ากระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวเหนี่ยวนำ L = ค่าความเหนี่ยวนำ (เฮนรี่) VL = ค่าความต่างศักย์ระหว่างปลายตัวเหนี่ยวนำ (V) XL = ค่าความต้านทานเชิงเหนี่ยวนำ
การต่อวงจรกระแสสลับ 1. ต่อแบบขนาน Iรวม = IR + IC + IL Vรวม = VR = VC = VL 2. ต่อแบบอนุกรม Iรวม = IR = IC = IL Vรวม = VR + VC + VL Iรวม = ค่ามิเตอร์ของกระแสไฟฟ้ารวม (A) Vรวม = ค่ามิเตอร์ของความต่างศักย์รวม (V) ความต้านทานเชิงซ้อน (Z) คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ทฤษฎีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าของแมกซ์เวลล์ สนามแม่เหล็กที่เปลี่ยนแปลง เกิดสนามไฟฟ้าขึ้นรอบ ๆ และสนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลง
โดยการเหนี่ยวนำจะเกิดอย่างต่อเนื่อง เกิดเป็นคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้าแผ่ออกไปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่เรียงลำดับจากความถี่ ต่ำสุดไปสูงสุด ได้ดังนี้ คลื่นวิทยุ รังสีอินฟาเรด เอกซ์ คุณสมบัติ 1. คลื่นวิทยุ ใช้ในการสื่อสาร 1.1 ระบบ A.M ส่งสัญญาณได้ทั้งคลื่นดินและคลื่น ฟ้า (สะท้อนได้ดีที่บรรยากาศชั้นไอโอโนสเฟียร์) 1.2 ระบบ F.M ส่งสัญญาณได้เฉพาะคลื่นดิน 2. คลื่นโทรทัศน์และไมโครเวฟ สะท้อนจากผิวโลหะ ได้ดีในการส่งสัญญาณอาศัยสถานีถ่ายทอดหรือใช้ดาวเทียม และใช้ประโยชน์ในการตรวจหาตำแหน่งวัตถุที่เรียกว่า "เรดาร์" 3. รังสีอินฟาเรด มนุษย์รับรู้ในรูปความร้อน(ทางผิว หนัง) ใช้ในรีโมทคอนโทล 4. แสง เกิดจากแหล่งที่มีความร้อนสูงสามารถมอง เห็น 5. รังสีอุลตราไวโอเลต เมื่อกระทบกับสารเรืองแสง จะให้แสงที่มองเห็นได้เมื่อกระทบบรรยากาศโลก 6. รังสีเอกซ์ เกิดจากการปลดปล่อยพลังงานของ อิเลคตรอน 7. รังสีแกมมา เกิดจากการสลายตัวทางนิวเคลียสมี ความถี่สูงกว่ารังสีเอกซ์ |